ธรรมชาติ หัวสัตว์ และมนุษย์ กับแฟนอาร์ต Red Velvet ละมุน ๆ ของ Maybear
Feel my rhythm, come with me~
แค่เริ่มต้นเปิดภาพวาดของ ‘Maybear’ หรือ ‘พัทธนันท์ เพ็ชรเนตร’ ออกดูได้ 2-3 ภาพ ก็รู้สึกราวกับได้ยินเสียงของ ‘น้องเค้ก’ (Red Velvet) กำลังร้องบอกให้เราเตรียมพร้อมสนุกไปในงานเต้นรำ และปลดปล่อยใจไปในจินตนาการให้เอ็นจอย เพราะทั้งรูปแบบและบรรยากาศในภาพของ Maybear ได้ชวนให้เรานึกถึงธรรมชาติ ดอกไม้ และความแปลกประหลาดของคนที่มีหัวเป็นสัตว์ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูน่ารักน่าชังไปในตัว และมีความละมุนออกสีตุ่น ๆ ดูน่าค้นหา
และเมื่อเราได้พูดคุยกัน ก็ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะบอกกับเราว่า เหตุผลที่เธอมีแรงฮึดในการวาดภาพขึ้นมา ก็เพราะได้แรงบันดาลใจและเชื้อไฟมาจากสาว ๆ Red Velvet ทั้ง 5 คน จริง ๆ
“ก่อนอื่นต้องขอสารภาพก่อนเลย ว่าตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยติ่งเกาหลีหรือศิลปินคนไหนมาก่อน ที่มาชอบวง Red Velvet ได้ ก็เพราะช่วงเรียนป.โท ปีสอง จังหวะชีวิตเราเศร้าสุด ๆ จนทำงานไม่ได้ วาดรูปไม่ออกหมดกำลังใจ หรือจะเรียกว่าหมดไฟไปเลยก็ได้ จนเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่สตูดิโอเขาเปิดเพลงเกาหลีให้ฟัง และพอเราได้ฟังเพลงของ Red Velvet ก็เริ่มชอบ ไปหารายการต่าง ๆ ดู ตามฟังเพลงทุกอย่าง รู้ตัวอีกทีก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว” Maybear เล่าให้เราฟังอย่างอารมณ์ดี
“แต่ถ้าจะให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเริ่มวาดภาพจริง ๆ เราเริ่มชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แบบว่าชอบขีดเขียนอะไรไปเรื่อย ๆ พอคุณแม่เห็นเราชอบทางนี้ก็สนับสนุนเต็มที่เลย ทั้งหาที่เรียนให้และพาไปเรียนศิลปะตั้งแต่อายุ 12 ปี นับจากนั้นเราก็เรียนเสริมมาตลอดจนเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนต่อด้านศิลปกรรม ยันป.โท ก็ยังไปต่อทางทัศนศิลป์อีก สำหรับเราการทำงานศิลปะเลยเป็นสิ่งที่ดำเนินควบคู่กับชีวิตของเรามาโดยตลอด เป็นการทำแบบต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เลย”
Maybear ยังอธิบายถึงเอกลักษณ์ของงานในมุมมองของตัวเองให้เราฟังด้วยว่า “เราว่าเอกลักษณ์ของงานเราคือเรื่องการใช้สีกับวิธีการเพ้นท์ ที่มันดูเหมือนจริง แต่ก็ยังมีความแบน ๆ อยู่ แถมโทนสียังออกตุ่น ๆด้วย เพราะเราใช้สีหนักพอสมควรเลย นอกจากนี้ก็ยังมีธีมหัวสัตว์กับตัวมนุษย์ และการใช้ชีวิตในเมืองก็เป็นจุดขายของแนวงานเราเหมือนกัน”
“โดยเฉพาะงานหัวสัตว์นี่เราเริ่มทำมาตั้งแต่สมัยเรียนเอกจิตรกรรม ที่จุฬา ตอนปีสามเลย หัวสัตว์แบบแรกที่เราทำคือหัวหมี เพราะเราเป็นคนชอบหมีมาก จนเพื่อน ๆ สมัยมัธยมพากันเรียกเราเมย์หมีมาตั้งแต่ม. 1 จากนั้นเราก็ต่อยอดงานหัวหมีมาเรื่อย ๆ ยันจบปีสี่เลย พอถึงช่วงป.โท รู้ตัวอีกทีงานหัวสัตว์ก็หลากหลายขึ้นมากแล้ว”
นอกเหนือจากงานต้นฉบับของตัวเอง ศิลปินยังนำความชื่นชอบในวง Red Velvet มาเปลี่ยนเป็นงานแฟนอาร์ตสวย ๆ อีกหลายชิ้น และในฐานะที่เธอทำงานศิลปะทั้งสองแบบในเวลาเดียวกัน ย่อมต้องมีวิธีการทำและวิธีการเล่าเรื่องที่ต่างกันออกไปแน่นอน ซึ่งเธอก็พูดถึงการทำงานในแต่ละส่วนให้เราฟังว่า “ทุกอย่างมันต่างกันที่ความรู้สึก”
“สำหรับเราแล้ววิธีการทำงานค่อนข้างต่างกัน ถ้าเป็นงานต้นฉบับของตัวเอง แปลว่าเราจะต้องหาฐานข้อมูลก่อนทำงานเยอะกว่ามาก แบบเราจะต้องวางแผนว่าอยากพูดถึงเรื่องไหน แล้วเจาะลึกลงไปในประเด็นนั้น ๆ เมื่อหาข้อมูลได้แล้วเราถึงค่อยหยิบเอาประเด็นที่คิดไว้มาสร้างเป็นผลงาน เพื่อถ่ายทอดเสียงของเราลงไปในงานชิ้นนั้น งานที่เป็นต้นฉบับเลยซับซ้อนมากกว่า แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้เราจะวาดพวกภาพวิวทิวทัศน์ในธรรมชาติและดอกไม้เป็นส่วนใหญ่ อันนี้ออกแนวบำบัดจิตใจตัวเอง วาดแบบไม่ได้คิดอะไรมาก ให้ธรรมชาติเยียวยาหัวใจทั้งคนวาดและคนที่ชมงานไปเลย”
“แต่สำหรับงานแฟนอาร์ต คือเราทำแบบไม่คิดอะไรเลย แบบเจอปุ๊ปก็จะหวีดและกรี๊ดด้วยความปลื้ม แล้วก็วาดออกมาเพื่อสนองความติ่งกับความรักของตัวเองล้วน ๆ อีกอย่างคือเราเป็นเมนซึลกิ เขาน่ารักมาก เต้นเก่ง ร้องเพลงเพราะ แถมยังชอบทำงานศิลปะเหมือนกัน ไฟในการทำงานของเราเลยกลับมา แบบ โอเค มีกำลังใจละ พูดได้เลยว่าเรียนจบป.โทมาได้เพราะน้องเค้กจริง ๆ”
“วง Red Velvet เลยส่งผลต่อแนวทางการทำงานศิลปะของเรามาก เพราะเรามองว่างานอาร์ตของวงนี้ดีมาก ๆ ทั้งคอนเซปต์แต่ละอัลบั้ม ปกอัลบั้ม คู่สีที่ใช้ในงาน ทุกอย่างช่วยให้เราตื่นตาตื่นใจทุกครั้งเลย นอกจากฟังเพลงแล้ว ก็ยังเหมือนได้ชมงานศิลปะดี ๆ อีกชิ้นหนึ่งเลยด้วย ซึ่งการที่เราวาดแฟนอาร์ตน้องเค้กไปเรื่อย ๆ ก็ยังเป็นการฝึกให้เราเลือกใช้คู่สีกับการวางแสงของภาพ จนได้ลายเส้นใหม่ ๆ ที่ไม่เคยวาดได้ออกมาด้วย”
“นอกจากนี้พอเราวาดไปเรื่อย ๆ ก็ได้เจอกับเพื่อน รุ่นพี่ และรุ่นน้องที่น่ารัก ๆ ในด้อมเพียบ ซึ่งพวกเขาก็จะคอยซัพพอร์ตผลงานเราเสมอ แบบไม่ใช่แค่งานแฟนอาร์ตนะคะ แต่ยังรวมไปถึงทุก ๆ ผลงานของเราเลย นี่เลยเป็นสิ่งดี ๆ ที่ได้จากการวาดแฟนอาร์ตเลย ขอฝากขอบคุณทุกคนผ่านทางนี้ไปได้ไหมเนี่ย ขอบคุณนะทุกคน” Maybear กล่าวขอบคุณ
ล่าสุดเรายังเห็นด้วยว่าตอนนี้คุณ Maybear มีนิทรรศการเดี่ยวเป็นของตัวเองแล้ว ชื่อว่า ‘Soft Flower Exhibition’ ที่จัดขึ้นที่ ‘billybillies’ มาตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน และจะจัดไปจนถึงวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เลยอยากรู้มาก ๆ ว่า คอนเซปต์ของนิทรรศการนี้เป็นอย่างไร และอยากให้เล่าถึงที่มาที่ไปของงานนี้ให้ฟังหน่อย
Maybear ยิ้มพร้อมกับตอบว่า “จริง ๆ แล้วคอนเซปต์ของการแสดงครั้งนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เราแค่อยากนำเสนอภาพวาดดอกไม้ที่วาดด้วยสีชอล์กบนกระดาษสีดำเท่านั้นเอง ตอนแรกเราแค่อยากลองวาดดูเท่านั้น พอวาดไปวาดมาก็รู้สึกว่า อุ๊ย! ทำไมสวยจัง เลยปิ๊งไอเดียว่าเอาอันนี้ไปจัดแสดงดีกว่า”
“ส่วนเรื่องของสถานที่จัดแสดงนั้นเริ่มมาจากช่วงปลายปีที่แล้ว คุณเมลเจ้าของร้าน billybillies ได้ส่งข้อความมาหาเราว่าสนใจอยากให้เราไปจัดแสดงนิทรรศการที่ร้าน แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย คุณเมลใจดีมาก เราเลยขอว่าถ้าอย่างนั้นเราขอจัดแสดงช่วงกลางปีได้ไหม ถือว่าเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเราด้วย ประกอบกับช่วงกลางปีมันคาบเกี่ยวกันกับวันเกิดเราพอดี เราเลยได้เวลาจัดแสดงช่วงนี้มา”
Maybear ยังฝากผลงานไว้ด้วยว่า “ยังไงเราขอฝากติดตามนิทรรศการด้วยนะคะ ถึงจะเป็นงานแสดงเล็ก ๆ แต่คุณภาพงานเราไม่เล็กนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ภาพนี้ เป็นภาพงานสมัยเรียนป.โทค่ะ แรงบันดาลใจมาจากการนำสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มาวิวัฒนาการเป็นร่างมนุษย์ และใช้ชีวิตในสังคมบริโภคนิยมผ่านแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ความพิเศษของชิ้นนี้คือตอนส่งงานกับอาจารย์แล้ว อาจารย์แนะนำว่าให้ลองส่งงานประกวดโครงการจิตรกรรมร่วมสมัยพานาโซนิค ครั้งที่ 20 ดู เราเลยหารค่ารถกับเพื่อนเพื่อนำงานไปส่งประกวดกัน สุดท้ายงานชิ้นนี้ก็ได้รับรางวัลที่หนึ่งของประเทศ และเป็นการส่งประกวดครั้งแรกของเราด้วย ภูมิใจและดีใจมาก ๆ เลย”
“ภาพนี้ ก็เป็นผลงานสมัยเรียนป.โทอีกชิ้นหนึ่ง ได้แรงบันดาลใจมาจากการนำสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มาวิวัฒนาการเป็นร่างมนุษย์และใช้ชีวิตในสังคมเหมือนกัน แต่อันนี้ไปใช้ชีวิตแบบไปเที่ยว ที่ชอบเพราะเป็นการท้าทายตัวเอง เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบวาดตึก แต่พองานเสร็จแล้วมันสวยถูกใจมากเลย และที่พิเศษไปกว่านั้น คืองานชิ้นนี้ยังถูกนักสะสมงานซื้อไปเก็บเรียบร้อยแล้ว และเจ้าของใหม่ก็มีห้องให้อยู่อย่างดีเลย มีความสุขที่งานได้รับการดูแลต่อที่ดีมาก ๆ”
“ภาพนี้เป็นภาพแฟนอาร์ต จากใน ‘MV. Like Water’ ของ ‘Wendy (Red Velvet)’ เป็นอัลบั้มเดี่ยวของน้องวาน เราชอบองค์ประกอบภาพและแสงใน MV. นี้มาก เลยเอามาวาดเพราะทนความสวยไม่ไหว ความพิเศษคือตอนลงงานไปในทวิตเตอร์ งานแมสมาก แบบคนรีไปสองหมื่นได้ เป็นงานชิ้นแรกที่แมสเลยค่ะ เรียกว่ามีทุกวันนี้ได้เพราะน้องวานให้ ไม่เคยลืม ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ภาพนี้เป็นงานสีอะคริลิค เป็นภาพวิวที่ชอบเป็นการส่วนตัว แต่เป็นงานคอมมิชชันนะ โจทย์คือลูกค้าอยากได้ภาพป่า เราก็ได้ค่ะ จัดให้นะคะ ตอนวาดมีความสุขมาก ๆ สีเขียวมันชุ่มชื่นหัวใจมาก คนรับก็มีความสุข ความพิเศษคือส่งต่อความสุขให้กันค่ะ”
"ภาพนี้เป็นงานแฟนอาร์ตที่ใช้สีอะคริลิคแบบไวไวเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง เอาภาพมาจากใน ‘MV. Feel My Rhythm’ ของ Red Velvet มาวาด ใน Mv. ตัวนี้เต็มไปด้วยการนำเรื่องราวของงานศิลปะหลากหลายชิ้นมารวมกัน เพื่อสร้างสรรค์เป็นสื่อใหม่ได้อย่างเร้าอารมณ์คนทำงานศิลปะมาก ทั้งการใช้ดนตรีคลาสสิคเข้ามาในเพลง การทำภาพให้เหมือนผลงานของศิลปินระดับโลกหลาย ๆ คน แล้วนำมาถักทอเป็นเรื่องราวใหม่ ให้เราคอยดูว่าซีนนี้มาจากภาพไหนอย่างตื่นเต้น อย่างเช่นรูปนี้ก็เอาคอมโพสและทีแปรงมาจากงานของโมเนต์ ที่ชื่อภาพ ‘Madame Monet and Her Son’ ซึ่งเป็นศิลปินที่เราชื่นชอบอยู่แล้ว พอเห็นคือกรี๊ดสลบ ฉันต้องวาดเดี๋ยวนี้ทันที เลยเป็นอีกผลงานที่ชอบมาก ๆ ค่ะ"
ถ้าใครสนใจอยากชมงานนิทรรศการ ‘Soft Flower Exhibition’ ก็สามารถตามไปชมกันได้ที่ Billybillies - Cafe & Workshop Studio ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2023
ส่วนใครที่อยากตามส่งแฟนอาร์ตของเหล่าน้องเค้ก Red Velvet กับผลงานชิ้นอื่น ๆ ของ Maybear ก็สามารถกดติดตามเธอได้ที่: Instragram: https://www.instagram.com/maybear.art