หากใครเป็นแฟนหนังญี่ปุ่นนอกกระแสที่นานทีปีหนจะเข้าไทยสักเรื่อง ก็คงจะเข้าใจถึงความหาดูยากได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าไม่ใช่หนังสายทำเงินอย่างแนวโรแมนติก แฟนตาซี แอคชั่น หรือสร้างมาจากการ์ตูนดังแล้ว ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมาให้เราชมกันทั้งในแบบโรงภาพยนตร์และสตรีมมิง

หากใครเป็นแฟนหนังญี่ปุ่นนอกกระแสที่นานทีปีหนจะเข้าไทยสักเรื่อง ก็คงจะเข้าใจถึงความหาดูยากได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าไม่ใช่หนังสายทำเงินอย่างแนวโรแมนติก แฟนตาซี แอคชั่น หรือสร้างมาจากการ์ตูนดังแล้ว ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมาให้เราชมกันทั้งในแบบโรงภาพยนตร์และสตรีมมิง

JFF+ INDEPENDENT CINEMA โปรแกรม 12 หนังญี่ปุ่นนอกกระแส พร้อมซับไทย ดูออนไลน์ถึง ต.ค. นี้ ฟรี!

หากใครเป็นแฟนหนังญี่ปุ่นนอกกระแสที่นานทีปีหนจะเข้าไทยสักเรื่อง ก็คงจะเข้าใจถึงความหาดูยากได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าไม่ใช่หนังสายทำเงินอย่างแนวโรแมนติก แฟนตาซี แอคชั่น หรือสร้างมาจากการ์ตูนดังแล้ว ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมาให้เราชมกันทั้งในแบบโรงภาพยนตร์และสตรีมมิง

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นไปได้ยากแต่ก็สามารถเป็นไปได้ เพราะล่าสุดทาง The Japan Foundation (Bangkok) เขาก็ได้จัดโปรแกรมภาพยนตร์ออนไลน์อย่าง ‘𝗝𝗙𝗙+ 𝗜𝗻𝗱𝗲𝗽𝗲𝗻𝗱𝗲𝗻𝘁 𝗖𝗶𝗻𝗲𝗺𝗮’ ขึ้นมา เพื่อพาเราไปชมหนังญี่ปุ่นนอกกระแสกันแบบฟรี ๆ มากถึง 12 เรื่อง ที่คัดสรรโดยตรงมาจากมินิเธียเตอร์ (โรงภาพยนตร์อิสระ) ในญี่ปุ่น และนักวิจารณ์ภาพยนตร์ระดับนานาชาติ พร้อมคำบรรยายภาษาไทยทุกเรื่องเพื่ออรรถรสในการรับชม

ซึ่ง ‘มินิเธียเตอร์’ ที่เราพูดถึงนี้ ก็ไม่ได้หมายถึงโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กเฉย ๆ แต่เป็นคำภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่น (Japlish) ที่หมายถึงโรงภาพยนตร์อิสระขนาดเล็กที่ไม่ขึ้นตรงกับบริษัทผลิตหนังใด ๆ และขึ้นชื่อเรื่องการคัดหนังดี หนังเด่น หนังแนวรางวัล และหนังสไตล์อวองการ์ดมาฉาย จนถูกมองว่าเป็น อาร์ตเธียเตอร์ (Art Theater) หรือ อาร์ตเฮาส์ (Art House) ที่มีความหลากหลายในการฉายภาพยนตร์สูงมาก

สำหรับภาพยนตร์ทั้ง 12 เรื่อง ที่เราจะได้รับชมกันในโปรแกรม 𝗝𝗙𝗙+ 𝗜𝗻𝗱𝗲𝗽𝗲𝗻𝗱𝗲𝗻𝘁 𝗖𝗶𝗻𝗲𝗺𝗮 นี้ มีทั้งผลงานจากผู้กำกับมากฝีมืออย่าง OBAYASHI Nobuhiko และ OKITA Shuichi และผลงานแสดงของนักแสดงหน้าใหม่อีกหลายท่าน ประกอบไปด้วยเรื่อง 𝐇𝐀𝐍𝐀𝐆𝐀𝐓𝐀𝐌𝐈 (2017), 𝐋𝐎𝐍𝐄𝐋𝐘 𝐆𝐋𝐎𝐑𝐘 (2022), 𝐁𝐚𝐜𝐡𝐢𝐫𝐚𝐧𝐮𝐧 (2021), 𝐇𝐞𝐲! 𝐎𝐮𝐫 𝐝𝐞𝐚𝐫 𝐃𝐨𝐧-𝐜𝐡𝐚𝐧 (2022), 𝐀 𝐆𝐢𝐫𝐥 𝐢𝐧 𝐌𝐲 𝐑𝐨𝐨𝐦 (2022), 𝐀𝐧𝐝 𝐘𝐨𝐮𝐫 𝐁𝐢𝐫𝐝 𝐂𝐚𝐧 𝐒𝐢𝐧𝐠 (2018), 𝐀 𝐌𝐮𝐬𝐞 𝐍𝐞𝐯𝐞𝐫 𝐃𝐫𝐨𝐰𝐧𝐬 (2022), 𝐅𝐨𝐥𝐥𝐨𝐰 𝐭𝐡𝐞 𝐋𝐢𝐠𝐡𝐭 (2021), 𝐓𝐞𝐜𝐡𝐧𝐨 𝐁𝐫𝐨𝐭𝐡𝐞𝐫𝐬 (2023), 𝐁𝐎𝐍-𝐔𝐓𝐀, 𝐀 𝐒𝐨𝐧𝐠 𝐟𝐫𝐨𝐦 𝐇𝐨𝐦𝐞 (2019), 𝐀𝐧 𝐀𝐫𝐭𝐢𝐬𝐚𝐧’𝐬 𝐋𝐞𝐠𝐚𝐜𝐲, 𝐓𝐬𝐮𝐧𝐞𝐤𝐚𝐳𝐮 𝐍𝐢𝐬𝐡𝐢𝐨𝐤𝐚 (2012) และ 𝐓𝐄𝐍𝐙𝐎 (2019)

เรียกว่าทุกเรื่องที่นำมาฉายนั้นได้ครอบคลุมทุกแนวหนังทั้งดราม่า, โรแมนติก, คอมเมดี้, ไซไฟ, มิวสิคัล และสารคดี เหมาะกับคนที่อยากดูหนังนอกกระแส และอยากเห็นความหลากหลายของภาพยนตร์จริง ๆ โดยสามารถชมฟรีได้ถึง 31 ต.ค. 2566

ถ้าใครสนใจก็สามารถลงทะเบียนเพื่อรับชมภาพยนตร์ได้ฟรี! ที่ https://jff.jpf.go.jp/watch/ic2023/films/

หรือติดตามอ่านเรื่องย่อภาพยนตร์และรายละเอียดต่าง ๆ ของ 𝗝𝗙𝗙+ 𝗜𝗻𝗱𝗲𝗽𝗲𝗻𝗱𝗲𝗻𝘁 𝗖𝗶𝗻𝗲𝗺𝗮 ได้ที่ The Japan Foundation, Bangkok