เบื้องหลังแมว หมา และการเยียวยาจากชีวิต ในภาพวาดของ ‘Lanmita’
(ติดตามบทสัมภาษณ์ของศิลปินในนิทรรศการ Artist on Our Radar ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป)
หลาย ๆ ครั้ง จุดเริ่มต้นของการสร้างงานศิลปะของใครหลายคน ก็มักจะมาจากชีวิตประจำวันอันแสนเรียบง่าย หรือเพื่อนสัตว์เลี้ยงคู่ใจที่เติบโตไปด้วยกันกับเราในทุก ๆ วัน เหมือนกับที่ศิลปินนักวาดภาพประกอบอย่าง ‘Lanmita’ หรือ ‘ลันมิตา พานสุวรรณ’ เลือกที่จะถ่ายทอดภาพน้องแมว น้องหมา และตัวตนของเธอ ลงไปบนภาพวาดสุดละมุนใจ ที่เกิดจากการผสมผสานกันของสีอะคริลิก สีเทียน และสีไม้ ที่ยิ่งมอง ก็ยิ่งรู้สึกสงบใจ ราวกับกำลังได้รับการเยียวยาจากภาพวาดของเธอ
และเมื่อเราได้มีโอกาสพูดคุยกัน ศิลปินก็เล่าถึงเบื้องหลังผลงานเหล่านั้นให้เราฟังว่า จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้สร้างงานสไตล์นี้มาตั้งแต่แรก แต่เริ่มค้นพบแนวทางของตัวเองอย่างแท้จริงหลังจากได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและงานศิลปะทุกวัน เพื่อทำความเข้าใจกับอาการ ‘Anxiety’ หรืออาการวิตกกังวลของตัวเอง และเมื่อเธอได้ทำมันมากพอ เธอก็เข้าใจว่า “เออ จริง ๆ แล้วชีวิตนี้มันก็ดีเหมือนกันนี่นา”
“เราเป็นคนที่ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะคุณพ่อของเราทำงานด้านวิศวะ เราเลยมีโอกาสได้เห็นภาพวาดแบบแปลนต่าง ๆ จากสถาปนิกมากมาย จนเกิดเป็นความชอบในภาพลายเส้นต่าง ๆ หรือสื่อบันเทิงทุกอย่างที่มีภาพวาดเป็นตัวเอก และพอเราชอบมันมาก ๆ เข้า สิ่งเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นความฝัน ที่กระตุ้นให้เราอยากเป็นคนที่วาดภาพเก่งตามไปด้วย” ลันมิตาเล่าถึงจุดเริ่มต้นแรก ๆ ที่ทำให้เธอสนใจงานศิลปะ
“ถึงแม้เราจะรู้ตัวว่าเป็นคนชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก แต่ช่วงเริ่มต้นการทำงานแรก ๆ เรากลับไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการวาดภาพเลย แต่จะเน้นไปที่การออกแบบหรืองานกราฟิกมากกว่า ในท้ายที่สุดเราก็พบว่าตัวเองไม่อยากไปทางนี้ต่อแล้ว เลยตัดสินใจลาออกแล้วมาทำงานเป็นผู้ช่วยศิลปินแทน เพราะเราอยากวาดภาพ และอยากเป็นนักวาดแบบที่ตั้งใจไว้มาตั้งแต่เด็ก”
ลันมิตาเล่าต่อว่า “สำหรับเรื่องราวที่เราหยิบมาเล่าในงานของเรา จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราเลย เรียกว่าเราเจอใคร พบเห็นอะไร รู้สึกแบบไหน เราก็จะถ่ายทอดมันออกมาเป็นงานศิลปะ ผลงานของเราก็เลยคล้ายกับบันทึกส่วนตัว ที่มีตัวเอกหลัก ๆ เป็นตัวเรา น้องหมา น้องแมว และลวดลายดอกไม้ที่ชอบเป็นพิเศษ ซึ่งเราค้นพบว่าตัวเองชอบวาดภาพเหล่านี้ หลังจากใช้เวลาวาดรูปอย่างจริงจังเพื่อเยียวยาอาการวิตกกังวลของตัวเอง เพราะก่อนหน้านั้นเราหลงทางกับทุกอย่างในชีวิตมาก ๆ และมองว่าทุกอย่างเลวร้ายไปหมด แต่การวาดรูปในทุก ๆ วัน ก็ทำให้เรามองเห็นว่า จริง ๆ แล้วเราเองก็เป็นคนที่ถูกรัก และจริง ๆ แล้วชีวิตนี้มันก็ดีนี่นา”
เธอยังเล่าถึงเบื้องหลังสีสันสุดอุ่นละไมให้เราฟังเพิ่มอีกว่า “เราเป็นคนที่รักการผสมสีมากเลยนะ และด้วยความที่เราเรียนรู้การวาดภาพด้วยตัวเอง เลยเลือกใช้สีที่ง่ายที่สุด (ในความคิดเรา) ในการฝึก นั่นก็คือการใช้สีอะคริลิกมาเป็นสีพื้น แล้วใช้สีไม้กับสีเทียนมาผสมให้ได้ผิวสัมผัสที่แปลกใหม่ และเป็นสีที่ใช่ตามสไตล์ของเรา จนกลายมาเป็นโทนละมุน ๆ แบบที่ทุกคนเห็นเลย”
“จริง ๆ แล้วเราไม่รู้เลยว่าคนที่มองงานของเราจะรู้สึกแบบไหน จะรู้สึกแบบเราไหม หรือจะอย่างไรก็ตาม เราไม่เคยตีกรอบเลย ทุกคนสามารถตีความได้เต็มที่ แต่ถ้าเขาไม่รู้ว่าจะต้องมองมันยังไงดี เราก็อยากให้ลองใช้เวลาหยุดอยู่กับมันสักพักดู บางทีภาพของเราอาจจะพาเขาย้อนกลับไปในความทรงจำบางอย่าง อาจจะเป็นหมาตัวโปรด เจ้าแมวตัวจิ๋วในรั้วบ้านหลังเก่า โซฟานุ่มนิ่มที่เคยนั่ง หรือภาพความทรงจำอะไรก็ได้ที่ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมา หรือต่อให้มันจะไม่สามารถทำให้คนดูรู้สึกอะไรได้เลย แต่การได้มาปล่อยใจนิ่ง ๆ ไปกับงานศิลปะที่ไม่รู้จักหรือคุ้นตาดูสักครั้ง ก็อาจจะเป็นประตูบานหนึ่งที่พาพวกเขาไปสู่การเยียวยาในรูปแบบของตัวเองก็ได้นะ” ลันมิตาแชร์ความรู้สึกเกี่ยวกับงานของตัวเองทิ้งท้าย
ถ้าใครอยากลองไปปล่อยใจนิ่ง ๆ และใช้เวลาไปกับงานศิลปะเยียวยาจิตใจ ก็สามารถตามมาชมผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของ ‘Lanmita’ ได้ในงาน ‘Artists on Our Radar’ นิทรรศการกลุ่มโดย 12 ศิลปินภาพประกอบ คัดสรรคโดย GroundControl และ MMAD MASS Gallery วันนี้ - 17 มี.ค. นี้ จัดแสดงที่ MMAD MASS GALLERY ชั้น 2 โซน MMAD, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
ติดตามผลงานของ ‘Lanmita’ ได้ที่ https://www.instagram.com/lanlanmita/