‘นางชฎา’ คือเรื่องราวสยองขวัญจากปลายปากกาของภาคินัย ที่เคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 และล่าสุด เรื่องราวของนางชฎาก็ได้ถูกนำกลับมาทำอีกครั้ง ในเวอร์ชันละครเวทีโดยทีมแขนงวิชาศิลปะการละครและความเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ สาขาวิชาศิลปะการละครเเละความเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และจัดแสดงขึ้นที่ GalileOasis

‘นางชฎา’ คือเรื่องราวสยองขวัญจากปลายปากกาของภาคินัย ที่เคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 และล่าสุด เรื่องราวของนางชฎาก็ได้ถูกนำกลับมาทำอีกครั้ง ในเวอร์ชันละครเวทีโดยทีมแขนงวิชาศิลปะการละครและความเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ สาขาวิชาศิลปะการละครเเละความเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และจัดแสดงขึ้นที่ GalileOasis

ละครเวที ‘นางชฎา’ กับบาปของผู้ที่ไม่ทำอะไรเลย (?)

‘นางชฎา’ คือเรื่องราวสยองขวัญจากปลายปากกาของภาคินัย ที่เคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 และล่าสุด เรื่องราวของนางชฎาก็ได้ถูกนำกลับมาทำอีกครั้ง ในเวอร์ชันละครเวทีโดยทีมแขนงวิชาศิลปะการละครและความเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ สาขาวิชาศิลปะการละครเเละความเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และจัดแสดงขึ้นที่ GalileOasis

นางชฎา คือเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยฉากรักหวานชื่นของคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันอย่าง ‘เตชิน’ และ ‘ชมพู’ ที่เลือกซื้อเรือนหอที่อยู่ห่างไกลผู้คน และหลังจากนั้นพวกเขาก็พบกับเหตุการณ์ประหลาด ทั้งภาพหลอน เสียงประหลาด ไปจนถึงการหายตัวไปของคนรอบตัว ที่มักเริ่มต้นจากคำเตือนลึกลับว่า “ชมพู เธอต้องออกไปจากที่นี่ เพราะคนที่หายไปกำลังจะกลับมา”

ในฐานะคนที่ไม่เคยติดตามนางชฎาเลยสักเวอร์ชัน นอกเหนือจากความหลอนตามสไตล์เรื่องสยองขวัญ การเล่าเรื่องของทีมละครเวทีก็ถือว่าทำออกมาได้น่าดึงดูดมาก ๆ ทั้งจังหวะรับส่งอารมณ์ของนักแสดง เสียงประกอบ และแสงบนเวทีที่มาได้อย่างถูกจังหวะ เมื่อประกอบเข้ากับพื้นที่โรงละครของกาลิเลโอเอซิส ที่แบ่งพื้นที่การแสดงออกเป็นสองชั้น ก็ทำให้เรารู้สึกราวกับได้เข้าไปอยู่ในบ้านสยองขวัญหลังนั้นด้วยจริง ๆ และเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือการวางบทละครให้เรารู้สึกลุ้น อิน และสงสัยอยู่ตลอดว่า สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ ‘ริลนี’ กันแน่

โดยเฉพาะกับตัวละคร ‘ชมพู’ ที่ทุกคนในเรื่องดูเป็นห่วงเธอมาก ๆ เหมือนกับว่าเธอนี่แหละคือเป้าหมายที่แท้จริงของการแก้แค้นครั้งนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย นี่เธอความจำเสื่อม เสแสร้งหลอกทุกคน (รวมถึงคนดู) หรือเธอไม่ได้ทำอะไรเอาไว้เลยจริง ๆ กันแน่ และในขณะที่เวรกรรมในคราบของผีริลนีกำลังไล่ตามชำระแค้นคนบาปทุกคนมาเรื่อย ๆ จนถึงฉากสุดท้าย เราก็พบคำตอบที่สงสัยมานานว่า ชมพู ‘ไม่ได้ทำอะไร’ เลยจริง ๆ และการไม่ทำอะไรเลยนั่นแหละที่เป็นกลายเป็นบาปอันหนักหนาสาหัสของเธอ

‘Bystander’ คือคำภาษาอังกฤษที่หมายถึง ‘ผู้ที่ยืนดู’ หรือ ‘อยู่ในเหตุการณ์’ แต่ไม่ลงมือทำอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือหรือเข้าแทรกแซง เหมือนกับ ‘ชมพู’ ที่รู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ด้วยความโกรธ เกลียด และรู้สึกไม่ยุติธรรม เธอจึงปล่อยให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับริลนีดำเนินต่อไปอย่างน่าสงสารที่สุด ซึ่งการไม่ทำอะไรเลย ก็เท่ากับ ‘ทำ’ ลงไปแล้วเหมือนกัน เพราะถ้าวันนั้นเธอเลือกที่จะทำอะไรสักอย่างที่ต่างออกไป บางที เรื่องสยองขวัญนี้คงกลายเป็นข่าวอาชญากรรมทางเพศ ที่จับใครสักคนติดคุก ไม่ใช่เหตุฆาตกรรมอำพรางที่ทุกคนต้องสูญเสียทุกอย่างไปแบบนี้

ละครเวที ‘นางชฎา’ ยังคงจัดแสดงให้ชมอีกทั้งหมดห้ารอบด้วยกัน ตั้งแต่วันนี้ - 22 กันยายน 2567 สามารถเข้าไปติดตามรอบการแสดง และจองบัตรกันได้ที่ ไลน์ @noklineticket หรือทาง Instagram: @nangchada.ssru