Tarot Garden สวนแห่งจินตนาการของประติมากรผู้แสวงหาความสุขในโลกของสีสันและความเป็นหญิง

Tarot Garden สวนแห่งจินตนาการของประติมากรผู้แสวงหาความสุขในโลกของสีสันและความเป็นหญิง

Tarot Garden สวนแห่งจินตนาการของประติมากรผู้แสวงหาความสุขในโลกของสีสันและความเป็นหญิง

“การสร้างสถานที่ที่ผู้คนสามารถมาเยือนและมีความสุขได้ นั่นคือโชคชะตาของฉัน”- Niki De Saint Phalle

ท่ามกลางแมกไม้สีเขียวในเมือง Tuscany ประเทศอิตาลี กลับปรากฏสิ่งก่อสร้างสีสันสดใสที่พุ่งยอดแหลมสะดุดตาเหนือยอดไม้ขึ้นมา สร้างทั้งความแปลกตาและแปลกใจให้กับผู้พบเห็นและคนแปลกหน้าของพื้นที่ แต่สำหรับชาวท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่รกร้างซึ่งในอดีตเคยเป็นแหล่งอารยธรรมอิทรัสคันแห่งนี้ พวกเขาคุ้นเคยกับภาพนั้นดี และรู้กันดีกว่าในป่าชัฏข้างในนั้นคือที่ตั้งของ Il Giardino dei Tarocchi หรือ Tatort Garden สวนประติมากรรมของ Niki de Saint Phalle ประติมากรหญิงคนดังแห่งยุค 80 ที่ได้พลิกพื้นที่กลางธรรมชาติ 14 เอเคอร์แห่งนี้ให้กลายเป็นสวนที่ประดับประดาไปด้วยงานประติมากรรมสุดเซอร์เรียลกว่า 20 ชิ้นของเธอ และเปิดให้คนเข้าเยี่ยมชมมาตั้งแต่ปี 1998

Niki de Saint Phalle คือศิลปินหญิงลูกครึ่งฝรั่งเศส- อเมริกัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นประติมากรหญิงที่มีชื่อเสียงสูงสุดของยุค และเป็นศิลปินหญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม Nouveau Réalisme ซึ่งมีสมาชิกเป็นศิลปินชายชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Arman, Christo, Yves Klein, Jean Tinguely หรือ Jacques de la Villeglé ผลงานของเธอได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์บาดแผลและความทรงจำอันแสนเศร้าในวัยเด็ก โดยเธอถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนเมื่ออายุได้เพียง 11 ปี และเมื่ออายุ 22 ปี เธอก็ถูกส่งเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวชที่เมือง Nice ที่ซึ่งเธอได้รับการรักษาด้วยการช็อตไฟฟ้า จนส่งผลต่อต่อความทรงจำของเธอ

ด้วยคำแนะนำจากจิตแพทย์ De Saint Phalle จึงเริ่มต้นใช้ศิลปะในการช่วยเยียวยารักษาจิตใจ กระทั่งเธอตกหลุมรักและทุ่มเทให้กับศิลปะแบบสุดตัว ซึ่งศิลปะก็ช่วยทำให้เธอสามารถเปลี่ยนความเจ็บปวดในอดีตให้เป็นงานสร้างสรรค์ได้ รวมทั้งยังช่วยให้เธอเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่มีความมั่นใจและกล้าที่จะขบถต่อขนบทั้งทางศิลปะและสังคม จนในที่สุด Saint Phalle ก็มีชื่อเสียงจากงานศิลปะผสมการแสดงสด ที่เธอจะใช้ปืนไรเฟิลบรรจุลูกสี หรือบางทีก็เป็นมะเขือเทศ แล้วยิงไปที่ปูนปลาสเตอร์ที่ปั้นเป็นรูปสิ่งของซึ่งแสดงถึงความรุนแรงในบ้านที่เธอได้รับในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นมีด กรรไกร ที่ตอกไข่ หรือแขนของตุ๊กตา รวมไปถึงงานประติมากรรมที่เธอมักจะปั้นรูปผู้หญิง งู ปีศาจในจินตนาการ ซึ่งเธอดึงแรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานอัศวินและจินตนาการที่เธอหลงใหลในวัยเด็ก

ในปี 1979 De Saint Phalle ได้ซื้อที่ 14 เอเคอร์จากเพื่อนสนิทของเธอ ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้มาจากสวน Park Güell ในบาร์เซโลนา โดย De Saint Phalle ตั้งใจที่จะสร้างสวนที่จะเป็นดังบทสนทนาระหว่างงานประติมากรรมกับธรรมชาติ และเป็นที่ที่ผู้คนสามารถ ‘ฝัน’ ได้

Il Giardino dei Tarocchi หรือ Tatort Garden ใช้เวลาเกือบ 20 ปีในการสร้างจึงแล้วเสร็จ สวนถูกประดับประดาด้วยงานประติมากรรม 22 ชิ้นที่ถ่ายทอดแคแรกเตอร์ของไพ่ทาโรต์ ทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านเอกลักษณ์ในงานของ De Saint Phalle ไม่ว่าจะเป็นสีสันแสนสดใส การประดับกระจก และรูปทรงที่ดูไม่สมมมาตรซึ่งทำให้งานของเธอดูมีชีวิตในโลกเหนือจริงของมันเอง

หลัง Il Giardino dei Tarocchi เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เพียง 4 ปี De Saint Phalle ก็เสียชีวิตลงในปี 2002 ทิ้งสวนแห่งจินตนาการนี้ไว้ให้ผู้คนได้เข้ามาใช้เวลาในโลกแห่งความฝัน โดยสวนแห่งนีจะเปิดให้เข้าชมได้ในวันเสาร์แรกของทุกเดือน แต่ตอนนี้สวน Il Giardino dei Tarocchi ได้ปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2020 และจากกำหนดการเดิมที่จะกลับมาเปิดในเดือนเมษายน 2021 ทางผู้ดูแลก็ได้เลื่อนกำหนดการเปิดให้เข้าชมออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน

อ้างอิง : The Colorful and Extraordinary World of Niki de Saint Phalle’s Tarot Garden, Her Tarot Cards Came to Life