Tokyo Revengers
อุบัติเหตุย้อนเวลา ที่ผลักชายหนุ่มไม่เอาไหนให้กล้าเผชิญหน้าพลิกชะตาอดีต

Tokyo Revengers อุบัติเหตุย้อนเวลา ที่ผลักชายหนุ่มไม่เอาไหนให้กล้าเผชิญหน้าพลิกชะตาอดีต

Tokyo Revengers อุบัติเหตุย้อนเวลา ที่ผลักชายหนุ่มไม่เอาไหนให้กล้าเผชิญหน้าพลิกชะตาอดีต

ภาพของ ‘แก๊งสเตอร์’ เด็กหนุ่มเลือดร้อนที่กล้าท้าชนคู่อริและ ‘สู้’ เพื่อ ‘พวกพ้อง’ ของตัวเอง ได้ถูกหยิบขึ้นมาพูดในมังงะและอนิเมะอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าอิทธิพลความขัดแย้งระหว่างกลุ่มนักเรียนนักเลงต่างสถาบันจะเปิดตัวตามกันมามากมายแค่ไหน แครักเตอร์วัยรุ่นเท่ ๆ ที่มาพร้อมทรงผมเฉพาะตัว ก็ยังฮุกคนดูได้เสมอ แต่ก่อนจะมาเป็นแก๊งเด็กหนุ่มที่ใครหลายคนหลงรักกันนี้ Tokyo Revengers ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะยอดฮิตโดยอาจารย์ เคน วาคุอิ (Ken Wakui) กลับเริ่มต้นด้วยการพาผู้ชมไปรู้จัก ฮานากากิ ทาเคมิจิ (Hanagaki Takemichi) ชายหนุ่มขี้แพ้ที่ยังจมปลักอยู่กับความผิดพลาดซ้ำไปมา เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีกเมื่อทาเคมิจิพลาดตกไปบนรางรถไฟ แม้เขาจะไม่ตาย แถมยังสามารถย้อนเวลาได้

แต่การย้อนเวลาจะมีความหมายอะไร เมื่อวันวานของทาเคมิจิกลับไม่ต่างจากภาพปัจจุบันของเขาที่ทั้งดูไม่น่าดึงดูดใจและห่างจากคำว่าเท่ไปไกลลิบลิ่ว ..

คำตอบคือมีความหมายแน่นอน เพราะ อดีตกับปัจจุบันต่างเป็นส่วนหนึ่งของเวลา และ ‘การย้อนเวลา’ ถือเป็นหัวใจหลักของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ นั่นแปลว่าถ้าทาเคมิจิย้อนเวลาได้ เท่ากับเขาจะสามารถเปลี่ยนตัวเองได้เช่นกัน ส่ิงที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือ หากเขาเปลี่ยนตัวเองได้จริง เขาจะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมร้าย ๆ ของคนได้อีกมากมาย ไม่เว้นแม้แต่คนรักของเขาอย่าง ทาจิบานะ ฮินาตะ (Tachibana Hinata) และแก๊งวัยรุ่นอัธพาลระดับท็อป โตมัน (Tokyo Manji) นำทีมโดย ไมกี้ (Mikey-Manjiro Sano) และ ดราเค่น (Draken-Ken Ryuguji) ที่ได้ถอดวิญญาณความเป็นมนุษย์ออก กลายมาเป็นผู้นำที่แสนเย็นชาแก่เครือข่ายอาชญากรรมระดับชาติ

“ฉันมีเหตุผลที่ยอมแพ้ไม่ได้” - ทาเคมิจิ

ถึงแม้ประโยคคม ๆ อย่าง ‘ถ้ากล้าพอ ก็สามารถเปลี่ยนโลกได้’ ดูเหมือนเกินจริงไปสักหน่อย แต่เห็นท่าว่าทาเคมิจิจะถูกวางหมากมาไว้ให้เขา ‘ต้อง’ มีความกล้า เพื่อที่ปกป้องทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งก็รวมถึงการปกป้องเหล่าแก๊งโตมันในวัยรุ่น ที่ได้กลายมาเป็นเพื่อนของเขาอย่างงง ๆ ด้วย

“คนต่อสู้เก่ง ๆ น่ะ ไปที่ไหนก็หาเจอ แต่คนไม่ยอมแพ้และกล้ายืนหยัดเพื่อคนอื่นแบบนายมีไม่เยอะหรอก” - ดราเค่น

นอกจากตัวหนังจะตัดสลับอดีตกับปัจจุบันกันไปมา เพื่อให้เห็นว่าทาเคมิจิเชื่อมจิ๊กซอว์เวลาอย่างไรแล้ว ความน่าสนใจอีกอย่างของพล็อตเรื่องอยู่ตรงที่หนังได้สลับขั้วให้ทาเคมิจิ ซึ่งหมดหวังกับชีวิตตลอดมา กลับมีกำลังใจแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่หัวหน้าแก๊งโตมันผู้ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครอย่าง ไมกี้ แอบซ่อนความกลัวอยู่ภายในขัดกับภาพลักษณ์ที่ออกมาโดยสิ้นเชิง การที่ทาเคมิจิได้รู้จักสองหัวหน้าของโตมัน และสนิทกับพวกเขาเหมือนเพื่อนที่จริงใจต่อกัน ทำให้ธาตุแท้ของพวกเขาเผยออกมาให้เห็นอย่างเป็นธรรมชาติ

ในฐานะคนคนหนึ่ง เด็กหนุ่มจากแก๊งโตมันต่างมีมิติทางอารมณ์หลากหลายตามแต่โอกาสที่จะพาไป พูดให้ง่ายขึ้นก็คือเมื่อไมกี้และดราเคนต้องสวมบทบาทผู้นำ ยืนอยู่หน้าสมาชิกคนอื่น ๆ เขาต่างวางท่าได้น่าเกรงกลัวและมีพลังมากพอให้คนในทีมเชื่อมั่นในกลุ่มแก๊ง แต่พวกเขาก็มีมุมสบาย ๆ เมื่อไม่ได้อยู่ในอำนาจที่ว่ามา นั่นทำให้การย้อนเวลาของทาเคมิจิสำคัญขึ้นอีกขั้น เพราะถ้าแก้อดีตได้ ไมกี้ก็จะไม่ถลำลึกลงในความชั่วร้าย เห็นคุณค่าในตัวเอง และเห็นใจคนรอบข้างไปด้วย ซึ่งเมื่อลองไขตัวตนของตัวละครในเรื่องออกมา โลกใน Tokyo Revengers ก็อาจเป็นเหมือนพื้นที่ให้เด็กหนุ่มได้เรียนรู้ และทำในสิ่งที่พวกเขาเชื่ออย่างสุดใจ เพื่อก้าวข้ามผ่านความปวดร้าว เติบโตขึ้นในแบบที่พวกเขาต้องการ

รับชม Tokyo Revengers ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

คลิกเพื่อรับชมตัวอย่างภาพยนตร์