The Birth of Venus เทพวีนัสกับการกำเนิดโลกในความเชื่อศาสนาคริสต์
The Birth of Venus (Sandro Botticelli, 1486)
The Birth of Venus คือหนึ่งในภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก Sandro Botticelli (1445-1510) ศิลปินชาวอิตาลีนำเสนอฉากการถือกำเนิดของเทพีวีนัส เธอยืนเปลือยเปล่าอยู่ในเปลือกหอยเชลล์ขนาดยักษ์ ผมสีบรอนซ์สะบัดพลิ้ว สีผิวส่องสว่างราวกับไข่มุก เธอใช้มือปกปิดหน้าอกและเรือนร่างอันงดงามของตัวเองด้วยท่าทางเขินอาย ซึ่งในความเชื่อของชาวกรีกและโรมัน เทพีวีนัสถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ
ตำนานปกรณัมกรีก-โรมัน ได้กล่าวถึงการกำเนิดของวีนัสที่เกี่ยวข้องกับ ยูเรนัส อดีตราชันย์แห่งสรวงสรรค์ ซึ่งถูกบุตรชายชื่อ โครนัส สังหารเพื่อโค่นบัลลังก์ โดยได้ตัดอวัยวะเพศของบิดาโยนทิ้งลงทะเล เมื่อละอองน้ำทะเลมากระทบกับลมหายใจของ Zephyrus เทพเจ้าแห่งลม ก็ได้ก่อเกิดเทพีองค์ใหม่แก่โลก นั่นก็คือ วีนัส
หากดูในภาพ Zephyrus คือชายหนุ่มทางด้านขวาของภาพที่กำลังโอบอุ้มนางไม้และเป่าลมจากปากเพื่อพัดร่างของวีนัสขึ้นมาบนฝั่ง โดยมี Hora เทพีฤดูกาลใบไม้ผลิ กำลังรอต้อนรับการมาถึงของเทพธิดาด้วยเสื้อคลุมสีชมพูที่ปักลายดอกไม้
ในยุคแห่งศิลปะ Renaissance การเปลือยกายแสดงถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ร่างเปลือยเปล่าของเทพีวีนัสผู้เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความงามจึงอาจตีความได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่ใช่ความรักทางโลกียะในแบบของมนุษย์ นอกจากนี้ องค์ประกอบโดยรวมของ The Birth of Venus ยังสอดคล้องกับองค์ประกอบของภาพฉากรับศีลจุ่มของพระเยซู โดยในภาพนี้ วีนัสที่อยู่ตรงกลางก็อยู่ในตำแหน่งของพระคริสต์ ในขณะที่เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิอยู่ในตำแหน่งของนักบุญยอห์น และเทพเจ้ากับนางไม้ด้านซ้ายอยู่ในตำแหน่งของทูตสวรรค์ที่ลงมาเป็นพยานการรับศีลจุ่มของพระคริสต์
ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ชื่อของ Sandro Botticelli ถูกบดบังด้วยศิลปินรุ่นใหม่อย่าง Michelangelo และ Leonardo กระทั่งในศตวรรษที่ 19 เมื่อภาพ The Birth of Venus ถูกค้นพบ ชื่อของ Botticelli จึงเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในฐานะศิลปินผู้ฉกาจฉกรรจ์ในการสร้างภาพวาดที่ทำให้ผู้ชมไม่อาจละสายตาได้ ทั้งด้วยความงดงามของภาพ และการซ่อนสัญลักษณ์ที่ทำให้คนดูต้องพินิจอย่างใกล้ชิด