ในวงการบันเทิงฝั่งฮอลลีวูดที่พื้นที่สื่อส่วนใหญ่ยังถูกยึดครองโดยนักแสดงผิวขาว ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่นักแสดงเอเชียนอเมริกันสักคนจะก้าวเข้ามามีผลงานจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ลูซี หลิว คือหนึ่งในนักแสดงฝีมือดีที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้หญิงเชื้อสายเอเชียนอย่างเธอก็สามารถก้าวเข้ามาสร้างชื่อเสียงและมีผลงานในระดับไอคอนนิกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลงานการแสดงใน Charlie's Angels (2000 และ 2003) ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่เล่าเรื่องภารกิจมัน ๆ ของสามสปายสาวสุดแซ่บ, Kill Bill: Volume 1 (2003) ภาพยนตร์แนวแก้แค้นเลือดสาดที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายตะวันออก หรือ Elementary (2012-2019) ซีรี่ส์สืบสวนสอบสวนที่ว่าด้วยเชอร์ล็อก โฮมส์ในโลกปัจจุบัน รวมไปถึงผลงานเบื้องหลังที่เธอเข้าไปทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งผลงานการแสดงและการโปรดิวซ์ของเธอก็ไปกวาดรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั่วโลกมาแล้วมากมาย

ในวงการบันเทิงฝั่งฮอลลีวูดที่พื้นที่สื่อส่วนใหญ่ยังถูกยึดครองโดยนักแสดงผิวขาว ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่นักแสดงเอเชียนอเมริกันสักคนจะก้าวเข้ามามีผลงานจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ลูซี หลิว คือหนึ่งในนักแสดงฝีมือดีที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้หญิงเชื้อสายเอเชียนอย่างเธอก็สามารถก้าวเข้ามาสร้างชื่อเสียงและมีผลงานในระดับไอคอนนิกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลงานการแสดงใน Charlie's Angels (2000 และ 2003) ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่เล่าเรื่องภารกิจมัน ๆ ของสามสปายสาวสุดแซ่บ, Kill Bill: Volume 1 (2003) ภาพยนตร์แนวแก้แค้นเลือดสาดที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายตะวันออก หรือ Elementary (2012-2019) ซีรี่ส์สืบสวนสอบสวนที่ว่าด้วยเชอร์ล็อก โฮมส์ในโลกปัจจุบัน รวมไปถึงผลงานเบื้องหลังที่เธอเข้าไปทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งผลงานการแสดงและการโปรดิวซ์ของเธอก็ไปกวาดรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั่วโลกมาแล้วมากมาย

จากนางฟ้าชาร์ลีสู่ศิลปินมากฝีมือ Lucy Liu ในวัย 53 ปีกับอีกหนึ่งบทบาทที่หลายคนยังไม่เคยเห็น

2 ธันวาคม วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 53 ปี ลูซี หลิว (Lucy Liu) 

ในวงการบันเทิงฝั่งฮอลลีวูดที่พื้นที่สื่อส่วนใหญ่ยังถูกยึดครองโดยนักแสดงผิวขาว ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่นักแสดงเอเชียนอเมริกันสักคนจะก้าวเข้ามามีผลงานจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ลูซี หลิว คือหนึ่งในนักแสดงฝีมือดีที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้หญิงเชื้อสายเอเชียนอย่างเธอก็สามารถก้าวเข้ามาสร้างชื่อเสียงและมีผลงานในระดับไอคอนนิกได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลงานการแสดงใน Charlie's Angels (2000 และ 2003) ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่เล่าเรื่องภารกิจมัน ๆ ของสามสปายสาวสุดแซ่บ, Kill Bill: Volume 1 (2003) ภาพยนตร์แนวแก้แค้นเลือดสาดที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายตะวันออก หรือ Elementary (2012-2019) ซีรี่ส์สืบสวนสอบสวนที่ว่าด้วยเชอร์ล็อก โฮมส์ในโลกปัจจุบัน รวมไปถึงผลงานเบื้องหลังที่เธอเข้าไปทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งผลงานการแสดงและการโปรดิวซ์ของเธอก็ไปกวาดรางวัลจากหลากหลายสถาบันทั่วโลกมาแล้วมากมาย

แต่นอกจากผลงานในวงการบันเทิงที่เธอทำได้ปังสุด ๆ แล้ว หลิวยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่แฟน ๆ หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็น นั่นก็คือบทบาทในโลกศิลปะร่วมสมัยที่เธอเข้าไปคลุกคลีตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเดบิวต์เป็นนักแสดงแบบที่คนส่วนใหญ่มักจะจดจำได้เสียอีก เธอเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาตั้งแต่ยังเป็นสาวน้อยวัยใสอายุเพียง 15-16 ปีเท่านั้น โดยแม้ว่าจะไม่ได้ร่ำเรียนมาในสายนี้โดยตรง แต่หลิวก็ยังขยันทำงานออกมาเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีผลงานออกจัดแสดงในนิทรรศการกลุ่มในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และแคนาดามาตั้งแต่ช่วงปี 1993 ก่อนที่ความรักและความหลงใหลในศิลปะจะพาเธอขยับขยายไปจริงจังมากขึ้นด้วยการลงเรียนที่ New York Studio School ในช่วงปี 2004-2006 โดยในช่วงแรก ๆ เธอยังใช้ชื่อ ยู หลิง (Yu Ling) ซึ่งเป็นชื่อในภาษาจีนของเธอเป็นนามแฝงในการทำงานศิลปะ ก่อนที่ตัวตนในฐานะนักแสดงของลูซี หลิวและในฐานะศิลปินของยู หลิงจะค่อย ๆ ผนวกรวมเป็นหนึ่งเดียวในที่สุด

ผลงานของหลิวมักจะถ่ายทอดเรื่องราวและความทรงจำของเธอในวัยเด็กที่ต้องเติบโตมาในครอบครัวคนเอเชียนท่ามกลางสังคมโลกตะวันตก และต้องเผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติในหลายรูปแบบ ในหลายครั้ง เธอมักจะตั้งคำถามกับ ‘สิ่งต้องห้าม’ ที่ครอบครัวเอเชียมักหลีกเลี่ยงจะพูดถึงอย่างเรื่องเพศและเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของมนุษย์ เธอถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ลงในผลงานจิตรกรรมอีโรติกอันแสนเผ็ดร้อนสไตล์ชุงกะของญี่ปุ่น ที่ไม่ได้มีแค่ภาพการร่วมรักของหญิงสาวและชายหนุ่มเท่านั้น แต่ยังมีภาพของคู่รักเลสเบี้ยนเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่นด้วย เรียกได้ว่า ตอนที่ผลงานชุดนี้ถูกค้นพบในเวลาต่อมา มันก็สามารถสร้างเสียงฮือฮาในโลกอินเตอร์เน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ไม่เพียงผลงานจิตรกรรมเท่านั้นที่หลิวยังคงสร้างสรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอยังขยันทำงานศิลปะสื่อผสมที่โดยมากมักจะเป็นการนำเศษวัสดุที่เธอเก็บมาจากท้องถนน (Found Objects) มาประกอบร่างและคอลลาจรวมเข้ากับผลงานจิตรกรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย และประติมากรรมขนาดย่อมที่เธอถนัด แบบที่เห็นได้ในผลงานชุด Protection, Flag, Seventy Two และ Lost & Found ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายสิบปีเธอก็ได้รวบรวมผลงานและอวดโฉมจัดแสดงในแกลเลอรี่น้อยใหญ่มากมาย แต่ที่เห็นจะยิ่งใหญ่ที่สุดคงจะหนีไม่พ้น Unhomed Belongings นิทรรศการศิลปะในปี 2019 ที่เธอไปจับคู่กับ Shubigi Rao ศิลปินสิงคโปร์เชื้อสายอินเดียน และจัดแสดงที่ National Museum of Singapore ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตศิลปินของหลิว เพราะนี่คือนิทรรศการระดับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติครั้งแรกในชีวิตของเธอเลย

ปัจจุบัน หลิวยังทำงานทั้งในวงการบันเทิงและวงการศิลปะควบคู่กันไป แถมยังแบ่งตารางเวลาที่แน่นขนัดไปทำงานในฐานะนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชนด้วย (เธอมักจะมอบกำไรที่ได้จากการขายงานศิลปะให้แก่องค์กรการกุศลอย่าง UNICEF อยู่บ่อย ๆ ด้วย) เรียกได้ว่า ทั้งสวย เก่ง แล้วยังเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวของคนตัวเล็กตัวน้อยทั่วโลกด้วย คนอะไรครบเครื่องสุด ๆ

ติดตามผลงานศิลปะของหลิวเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.lucyliu.net/

แหล่งข้อมูล:
https://www.artsy.net/article/artsy-editorial-lucy-liu-making-art-find-sense-belonging
https://news.artnet.com/art-world/lucy-liu-art-singapore-1439992
https://www.hollywoodreporter.com/news/general-news/inside-lucy-lius-studio-1185952/