มองโลกผ่านสายตาของ ‘พืช’ ใน ‘Life’ ของ Olafur Eliasson ที่เปลี่ยนมิวเซียมเป็นบ่อน้ำสีเขียว!
ใครที่ติดตามแวดวงศิลปะร่วมสมัย ย่อมต้องคุ้นเคยกับชื่อของ โอลาเฟอร์ เอเลียสซัน (Olafur Eliasson) ศิลปินชาวเดนนิช-ไอซ์แลนด์ที่เป็นที่รู้จักจากบรรดาศิลปะจัดวาง (Installation Art) ที่มักเล่นกับประสบการณ์การผัสสะของผู้ชมผ่านศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ที่กระตุ้นการปฏิกิริยาการรับรู้เกี่ยวกับแสงและอุณหภูมิของมนุษย์
เอเลียสซันก็กลับมาพร้อมกับผลงานที่พาผู้ชมหลุดจากประสบการณ์การรับรู้ของตนเองแล้วเข้าไปสำรวจโลกผ่านประสาทการรับรู้ของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมโลกกับเรา ผ่านนิทรรศการที่ชื่อว่า Life ที่เขาพลิกพื้นที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Fondation Beyeler แห่งกรุงบาเซิล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ให้กลายเป็นบ่อน้ำสีเขียวขนาดใหญ่ที่มีพืชน้ำมากมายอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเฟิร์น ดอกบัว จอกแดง กระจับเขาควาย ฯลฯ
ความพิเศษของนิทรรศการครั้งนี้ก็คือ เอเลียสซันได้ถอดเอากระจกทั้งหมดที่ติดตั้งรอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ออกไป เพื่อเปิดพื้นที่แบบโอเพ่นแอร์ที่ผู้ชมสามารถเดินเข้ามาในสภาพแวดล้อมของหนองบึงที่ศิลปินจัดไว้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน! โดยในเวลากลางวันนั้นผู้ชมก็จะได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติที่กระตุ้นประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็นอากาศ แสงอาทิตย์ ความชื้น กลิ่น ไปจนถึงเสียงต่าง ๆ ส่วนตอนกลางคืน บ่อน้ำสีเขียวก็จะเรืองแสงขึ้นมาจากระบบแสง UV ที่ศิลปินติดตั้งไว้ ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับสีย้อมฟลูออเรสเซนต์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม (และเอเลียสซันก็เคยใช้ในงานก่อนหน้านี้มาแล้ว) อันเป็นการนำเสนอประสบการณ์ด้านผัสสะจากมุมมองของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้นั่นเอง
นอกจากนี้สภาพแวดล้อมที่เปิดโล่งยังเชื่อมโยงสภาพแวดล้อมธรรมชาติด้านนอกตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เข้ากับพื้นที่ภายในอาคารอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนทำให้ Life กลายเป็นพื้นที่ศิลปะขนาดยักษ์ที่เราสามารถเดินเข้าไปในงานศิลปะแล้วสัมผัสประสบการณ์การดำรงอยู่ในธรรมชาติที่ไม่อาจแยกออกได้แล้วว่า ส่วนไหนเป็นธรรมชาติที่มนุษย์สร้าง หรือส่วนไหนเป็นธรรมชาติที่ดำรงอยู่เช่นนั้นจริง ๆ
แซม เคลเลอร์ (Sam Keller) ไดเรกเตอร์ของพิพิภัณฑ์ Fondation Beyeler ยังได้อธิบายเพิ่มว่า ความน่าสนใจของผลงานชิ้นนี้ก็คือการที่สภาพของงานจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดช่วงระยะเวลาที่จัดแสดง ซึ่งผลลัพธ์ที่ศิลปินคาดหวังก็คือการที่ผู้ชมได้มามีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่ถูกจัดขึ้นมา ซึ่งเป็นการพาผู้ชมไปสำรวจสายปฏิกิริยาระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ และสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมโลกเดียวกับเราในระบบนิเวศน์ที่กำลังทรุดโทรมนี้
นอกจากตัวงานที่จัดแสดงที่ Fondation Beyeler แล้ว อีกส่วนหนึ่งของงานชิ้นนี้ก็คือการถ่ายทอด Livestream ด้วยกล้องที่เลียนแบบการมองเห็นของสัตว์และแมลงต่าง ๆ โดยเอเลียสซันได้แรงบันดาลใจมาจากโปรเจกต์ของนักมานุษยวิทยา นาตาชา มายเออร์ (Natasha Myers) ที่นำเสนอแนวคิดเรื่อง ‘Planthroposcene’ ที่กระตุ้นให้มนุษย์หันมาสนใจมองโลกผ่านมุมมองของ ‘พืช’ อันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้โลกนี้สามารถดำรงอยู่ได้ ซึ่งแนวคิดนี้ก็เป็นการต่อยอดจากแนวคิดใหญ่ที่สั่นสะเทือนความรู้ของมนุษย์ นั่นก็คือ Anthropocene อันว่าด้วยการที่มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในโลกที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ของโลก ซึ่งแนวคิดที่ดูเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์สุด ๆ นี้กลับส่งอิทธิพลสำคัญอย่างยิ่งต่อนักคิดและศิลปินร่วมสมัยมากมายที่พยายามจะทลายแนวคิดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และนำเสนอโลกผ่านมุมมองของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เช่น พืชและสัตว์
‘Life’ จะจัดแสดงไปจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้ แต่เราสามารถเข้าไปส่องผลงานผ่าน Livestream ที่เลียนแบบการมองเห็นของสัตว์และแมลงได้ที่ https://olafureliasson.net/life/
อ้างอิง:
Thisiscolossal
News.artnet