Napoleon Crossing the Alps ภาพโฆษณาชวนเชื่อในตำนาน กับ ‘ล่อ’ ที่หายไป
ในยุคที่ยังไม่มี Photoshop, Meitu หรือแม้แต่ AI คนที่รับบทเป็นนักตัดแต่งภาพที่ดีที่สุดย่อมหนีไม่พ้นเหล่าศิลปิน และหนึ่งในภาพที่เรียกได้ว่าตัดแต่งพันธุกรรมออกมาได้เนียนและเนี้ยบสุด ๆ จนใครเห็นก็ต้องอวยยศ ก็คือภาพ ‘Napoleon Crossing the Alps’ ของ ฌัก-หลุยส์ ดาวีด (Jacques-Louis David) ศิลปินเอกแห่งวงการศิลปะนีโอคลาสสิก ผู้เคยเป็นทั้งนักวาดปลุกใจคณะปฏิวัติและศิลปินนักสร้าง Propaganda ประจำราชสำนักนโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)
Napoleon Crossing the Alps (1801) เป็นผลงานที่ David วาดขึ้นตามคำขอของ ‘ชาร์ลส์ที่ 4 แห่งสเปน’ (Charles IV of Spain) เพื่อรำลึกถึงชัยชนะจากการข้ามช่องแซ็งแบร์นาร์ (St Bernard Pass) ภาพนี้ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญในปี 1800 เมื่อนโปเลียนนำกองทัพฝรั่งเศสข้ามเทือกเขาแอลป์ ระหว่างสงครามกับจักรวรรดิออสเตรีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการรบที่มาร็องโกซึ่งจบลงด้วยชัยชนะ ภาพนี้จึงถูกใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความเชื่อมั่นของประชาชน โดยการเน้นย้ำถึงชัยชนะและภาพลักษณ์ของผู้นำที่ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายทอดทุกอย่างตามความจริงทั้งหมด แต่เป็นงานที่เน้นขาย ‘ภาพลักษณ์’ เท่ ๆ ของนโปเลียนเป็นหลักมากกว่า ส่วนเบื้องหลังทั้งหมดของภาพนี้จะเป็นอย่างไร แล้วเขาตัดแต่งต่อเติมส่วนไหนเข้ามาบ้าง คอลัมน์ Behind the painting ครั้งนี้จะขอรับหน้าที่พาทุกคนไปสำรวจฉากหลังทั้งหมดเองตามมาเลย!
📌 นโปเลียนไม่ได้ขี่ม้าพยศ
แม้ว่าในภาพ Napoleon Crossing the Alps (1801) เราจะเห็นนโปเลียนในท่าทางอันสง่างาม นั่งบนม้าพยศสีขาวบริสุทธิ์ที่กำลังยกขาหน้าขึ้นท่ามกลางกระแสลมและภูมิทัศน์เทือกเขาแอลป์ แต่ในความเป็นจริงแล้วนโปเลียนไม่ได้ขี่ม้า แต่ขี่ ‘ล่อ’ ต่างหาก เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขา เต็มไปด้วยเส้นทางแคบ ๆ และอันตราย ล่อคือพาหนะที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับการเดินทางในพื้นที่นี้นั่นเอง
สำหรับเหตุผลในการเปลี่ยนล่อเป็นม้า นอกเหนือจากเรื่องของความเท่และความสง่างามแล้ว ยังมีเรื่องของความเหมาะสมในแง่ความหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากในหลายวัฒนธรรม ‘ม้า’ มีความหมายแทนถึงความยิ่งใหญ่ พลังอำนาจ ความเป็นผู้นำ ชัยชนะ และมักถูกมองว่าเป็นพาหนะของนักรบและวีรบุรุษด้วย เมื่อประกอบเข้ากับกริยาอาการที่กำลัง ‘พยศ’ ก็ยิ่งช่วยเสริมสถานะของผู้บังคับควบคุมว่าเป็นผู้นำที่เหนือชั้น และกล้าแกร่งกว่าใคร
ดังนั้น การที่ศิลปินเลือกใช้ม้าพยศมาเป็นพาหนะแทนล่อ จึงเป็นการ ‘โฆษณา’ ให้คนที่เห็นภาพได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของนโปเลียนในฐานะกษัตริย์นักรบ ผู้นำทัพความเทือกเขาแอลป์ไปสู้รบอย่างกล้าหาญ ภาพนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพวาดของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังตอกย้ำความเป็นวีรบุรุษและผู้นำอันยิ่งใหญ่ในสายตาผู้คนในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี
📌 คนในภาพไม่ใช่นโปเลียน (เสียทีเดียว)
ภาพ Napoleon Crossing the Alps (1801) คือภาพของนโปเลียนจริง ๆ เพียงแต่คนที่มาเป็นนายแบบไม่ใช่นโปเลียนแต่เป็นลูกชายของดาวีดต่างหาก เพราะตอนที่วาดภาพนี้นโปเลียนไม่ว่างนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เขาเลยขอดึงลูกชายมานั่งเป็นนายแบบให้ โดยใช้บันไดมาตั้งแล้วให้ลูกชายขึ้นไปนั่งแทนการขี่ม้า ส่วนเครื่องแบบสุดอลังการ ดาวีดก็ขอยืมชุดสมัยที่นโปเลียนเคยใส่ตอนไปรบที่มาร็องโกมาเป็นต้นแบบ
จะเห็นได้เลยว่า การที่นโปเลียนไม่มานั่งเป็นแบบด้วยตัวเอง สะท้อนความจริงสำคัญในยุคนั้นว่า ในหลาย ๆ ครั้ง ภาพเหมือนบุคคลก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสมจริงทางกายภาพเสมอไป หากแต่ให้ความสำคัญกับการโฆษณาถึงความยิ่งใหญ่ อำนาจ และความสูงส่งในเชิงอุดมคติ ผ่านองค์ประกอบและการสร้างสรรค์ของศิลปินมากกว่า
📌 เบื้องหลังของชื่อสองกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่บนก้อนหิน
หนึ่งในรายละเอียดเชิงสัญลักษณ์ที่โดดเด่นในภาพ Napoleon Crossing the Alps (1801) คือชื่อของฮันนิบาล (Hannibal) และชาร์เลอมาญ (Charlemagne หรือ Karolus Magnus) ที่สลักไว้บนก้อนหินใกล้เท้าของม้า เพราะการที่ศิลปินนำชื่อของพวกเขามาใส่ในภาพนี้ แถมยังจารึกไว้บนก้อนหินย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจที่จะเชื่อมโยงนโปเลียนเข้ากับตำนานของผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ของเขาในฐานะวีรบุรุษแห่งยุคสมัยที่มีความกล้าหาญและความสำเร็จเทียบเท่ากับบุคคลในประวัติศาสตร์เหล่านั้น
เริ่มต้นกันที่ ฮันนิบาล’ แม่ทัพของคาร์เธจผู้กล้าหาญที่นำทัพข้ามเทือกเขาแอลป์พร้อมช้างศึกในปี 218 ก่อนคริสต์ศักราช ระหว่างสงครามพิวนิกครั้งที่สอง การกระทำนี้แสดงถึงความกล้าหาญและอัจฉริยภาพทางการทหาร ด้าน ‘ชาร์เลอมาญ’ หรือ ‘พระเจ้าชาร์ลมหาราช’ จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้นำทัพข้ามเทือกเขาแอลป์เพื่อปราบปรามชนเผ่าลอมบาร์ดในอิตาลี
จะเห็นได้เลยว่าทั้งสองคนนี้คือกษัตริย์ยอดนักรบที่เคยนำทัพข้ามเทือกเขาแอลป์อันยากลำบากมาก่อน ทั้งสองเลยเป็นตัวแทนของผู้นำที่ท้าทายขีดจำกัดและสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งดาวิดตั้งใจใส่เอาไว้เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่า นโปเลียนเองก็เป็นหนึ่งในกษัตริย์เหล่านั้นที่กำลังจารึกรอยเท้าบนเส้นทางประวัติศาสตร์นี้เช่นกัน การอ้างอิงถึงบุคคลในตำนานเหล่านี้เลยช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของนโปเลียนในฐานะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ความกล้าหาญ และความยิ่งใหญ่ทางการทหาร เปรียบเสมือนการสืบทอดความรุ่งโรจน์ของวีรบุรุษในอดีตมาสู่ยุคของเขานั่นเอง
จากเบื้องหลังภาพทั้งหมดนี้ จะเห็นได้เลยว่า ภาพ Napoleon Crossing the Alps (1801) ไม่ได้เป็นเพียงภาพเหมือนบุคคลสำคัญธรรมดา ๆ แต่ยังเป็นตัวอย่างของสื่อโฆษณาชวนเชื่อชิ้นสำคัญแห่งศตวรรษที่ 18 ที่ยกย่องอำนาจและความยิ่งใหญ่ของนโปเลียนผ่านสัญญะที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงประวัติศาสตร์และศิลปะได้อย่างแยบยล
อ้างอิง
Zaczek I. Napoleon Crossing the Alps | painting by Jacques-Louis David. Encyclopedia Britannica. Published April 6, 2023. Accessed February 3, 2025. https://www.britannica.com/art/Napoleon-Crossing-the-Alps
Bonaparte crossing the Great St Bernard Pass - napoleon.org. napoleon.org. Published December 17, 2018. Accessed February 3, 2025. https://www.napoleon.org/en/history-of-the-two-empires/paintings/bonaparte-crossing-the-great-st-bernard-pass/