the.chair.encyclopedia ศิลปินผู้เชื่อว่าสักวันเก้าอี้จะครองโลก
เรามักได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า แมวคือสัตว์ที่คิดจะครองโลก แต่เนย - ปารณีย์ ประภาพรพิพัฒน์ นักเขียนคอนเทนต์และช่างสักมือฉมัง เจ้าของแอ็กเคานต์ the.chair.encyclopedia บน Instragram กลับบอกเราอีกอย่างว่า สิ่งที่จะครองโลกก็คือ ‘เก้าอี้’ ต่างหาก
ถ้าทุกคนลองเลื่อนดูรูปต่าง ๆ ในแอ็กเคานต์ the.chair.encyclopedia ก็จะพบกับภาพเก้าอี้ (ใช่ เก้าอี้ล้วน ๆ) พร้อม Bio บน Instagram ที่ระบุไว้ว่า ‘A new breed of chairs emerges every day. They evolve, and they might take over the world.’ หรือ ‘เก้าอี้สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในทุก ๆ วัน พวกมันวิวัฒนาการ และอาจจะยึดครองโลกได้!’
พอได้อ่านข้อความนี้แล้ว ก็กระตุ้นให้เราอยากรู้ขึ้นมาจริง ๆ ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้เจ้าของแอ็กเคานต์ the.chair.encyclopedia คิดว่าเจ้าเก้าอี้มากหน้าหลายตาเหล่านี้ จะสามารถยึดครองโลก (แข่งกับแมว) ได้กันนะ ซึ่งเธอก็อธิบายให้เราฟังอย่างจริงจังว่า
“เราคิดว่าเก้าอี้เกิดใหม่และเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน บางตัวมาจากโรงงาน บางตัวมาจากบ้านที่ไม่ใช้แล้ว และบางตัวก็มาจากการมัดรวมกันของอะไรก็ไม่รู้ พวกมันต่างโดนโมดิฟายจนดูกลายพันธุ์ไปหมดเลย หรือจะเรียกว่าวิวัฒนาการก็คงได้เหมือนกันนะ อีกอย่างถ้าเราพูดถึงประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เก้าอี้เองก็ต้องเพิ่มตามเช่นกัน”
เธอเสริมว่า “เพราะลมหายใจของเก้าอี้ผูกติดกับความจริงที่ว่ามนุษย์ทุกคนต้องนั่งพัก ถ้ามนุษย์คิดจะครองโลก มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่ให้เก้าอี้ครองโลกไปด้วยกัน”
ถือว่าเป็นคอนเซปต์ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะตราบใดที่มนุษย์ยังหมายมาดให้เผ่าพันธุ์ของตัวเองเป็นผู้ครองโลก ก็ต้องทำงานและขับเคลื่อนทุกสิ่งทุกอย่างให้ดำเนินต่อไป และแน่นอนว่าเราคงไม่สามารถพัฒนาสิ่งใดให้งอกเงยได้ ถ้าไม่รู้จักนั่งพักกันเหนื่อยเสียบ้าง และถ้าเราต้องนั่งพัก เก้าอี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ และนี่แหละคือเหตุผลที่มนุษยชาติไม่อาจแยกจากเก้าอี้ไปได้ตลอดกาล (ถ้าไม่โดนแมวยึดโลกไปก่อน)
โดยศิลปินยังเล่าต่ออีกว่า จุดเริ่มต้นของการนำความคิดเรื่องเก้าอี้ครองโลก มาเปลี่ยนให้เป็นแอ็กเคานต์ the.chair.encyclopedia มาจากการเห็นแอ็กเคานต์ subway hand ที่คอยถ่ายรูปมือผู้คนในรถไฟใต้ดิน แล้วจุดประกายให้อยากลองทำบ้าง เธอคิดว่าตัวเองก็สามารถทำสารานุกรมที่รวบรวมเก้าอี้ต่าง ๆ ขึ้นมาได้เหมือนกัน
“เราเป็นคนชอบเดินมาแต่ไหนแต่ไร แล้วเวลาเดินเราชอบถ่ายรูปของแปลก ๆ ตลก ๆ ข้างทาง อยู่มาวันหนึ่งเรารู้สึกว่ารูปเก้าอี้มันเริ่มเยอะ แล้วเราคลิกกับมันมาก ๆ จนอยากมีพื้นที่ให้มัน บวกกับเราชอบพวกโปสเตอร์รวมพันธุ์หมาแมวมาก ซึ่งเก้าอี้แต่ละตัวก็เป็นเหมือนสปีชีส์หรือพันธุ์เหมือนกัน เลยมาจบที่แอ็กเคานต์ The Chair Encyclopedia”
“แต่ถ้าพูดถึงแรงบันดาลใจที่เป็นชิ้นเป็นอันสำหรับเราคือแอ็กเคานต์ subway hand ที่ถ่ายมือคนในรถไฟใต้ดิน พอเราเริ่มทำจริงจังก็พบว่ามีคนที่สนใจของรอบตัวไม่น้อยเลย เราเจอแอ็กเคานต์กรวยจราจร เสาไฟ ป้ายโฆษณา หรือที่เป็นเก้าอี้เหมือนกันก็มี มันเป็นคอมมูนิตี้ที่น่ารักมาก ยิ่งถ่ายก็ยิ่งเห็น ยิ่งเห็นยิ่งสนุก หลายคนเห็นเก้าอี้แล้วนึกถึงเรา เราเห็นสิ่งของอื่นๆ ก็นึกถึงเขา แท็กกันไปมา”
แน่นอนว่าถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นการทำสารานุกรม ก็ต้องมีการบันทึกรายละเอียดจำพวกชื่อเฉพาะ หรือถิ่นที่อยู่ต่าง ๆ ให้กับเก้าอี้ด้วย แต่ในส่วนนี้เรากลับสังเกตเห็นว่า ศิลปินไม่ได้บันทึกเรื่องราวของเก้าอี้ต่าง ๆ ไว้แบบนั้น แต่ใช้คำบรรยายเหมือนพูดถึงใครสักคนหนึ่ง ที่มีสรรพนามว่า him/her/them/it ด้วย
“ด้วยความที่เราอยากทำให้เป็นเหมือนสารานุกรม ความตั้งใจแรกของเราคือตั้งชื่อ ใส่ถิ่นที่อยู่ แล้วก็ลักษณะนิสัยให้เก้าอี้ทุกตัว แต่พอมาทำจริงเราว่าเขียนบรรยายตามที่เรารู้สึกสนุกกว่า สุดท้ายเลยออกมาเป็นแบบที่เห็น เรายังมองอีกว่าเก้าอี้เป็นตัวแทนของคนหรือสถานที่นั้น ๆ ด้วย มันสะท้อนชีวิตในละแวกที่มันอยู่ เก้าอี้ยามก็มีกระบอง เก้าอี้ร้านก๋วยเตี๋ยวก็สีจัดจ้านเหมือนผ้ากันเปื้อนเจ้าของร้าน บางตัวมีหน้าที่ต้องตากผ้า ตากผักผลไม้ ไหว้เจ้าที่ ลักษณะและชีวิตของมันไม่ต่างจากคนเท่าไร” ศิลปินเล่าถึงเหตุผลที่เลือกบรรยายเก้าอี้แต่ละตัวตามความรู้สึก แทนที่จะทำตามขนบของสารานุกรมแบบที่ควรจะเป็น
จากแนวคิดทั้งหมดนี้สามารถเห็นได้เลยว่า นอกจากเก้าอี้อาจจะครองโลกได้แล้ว เก้าอี้ยังเป็นเหมือนเครื่องสะท้อนตัวตนของมนุษย์ได้ด้วย เพราะถึงแม้จะเป็นเก้าอี้เหมือนกัน และอาจจะมีหน้าตาเหมือนกันบ้าง แต่เมื่อถูกใช้งานโดยคนที่แตกต่างกัน และอยู่ในสถานที่แตกต่างกัน เก้าอี้แต่ละตัวก็จะมีเอกลักษณ์และสิ่งของแวดล้อมต่างกันไปด้วย เช่นเดียวกับมนุษย์ที่เมื่อเติบโตขึ้นมาจากคนละครอบครัว คนละสภาพสังคม แต่ละคนก็จะสร้างตัวตนในแบบของตัวเองขึ้นมา
เจ้าของสารานุกรมเก้าอี้สุดแหวก ยังแชร์เทคนิคในการเลือกรูปเก้าอี้ลง Instragram ในแต่ละวันให้เราฟังด้วยว่า “ตามปกติแล้วเราจะดูภาพรวมหน้าไอจีก่อน จะได้เลือกสีเก้าอี้ให้ไม่ซ้ำกันบ้าง แต่เอาจริง ๆ แล้ว ส่วนใหญ่เราจะลงตามอารมณ์เลย ปกติเวลาเราเดินไปไหนสักที่ก็จะได้รูปเก้าอี้กลับมาสัก 3-5 รูปอยู่แล้ว วันที่เราไม่ได้ออกไปไหนก็จะทยอยลงรูปที่มีอยู่”
“เก้าอี้สีเหลืองกับดอกดาวเรือง เราเจอที่ตลาดแถวที่ทำงานตอนพักเที่ยง มันทำให้วันน่าเบื่อๆ ของเรากลายเป็นวันที่ดีไปเลย ปกติเราเป็นคนไม่คุยกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าเก้าอี้ตัวนี้เป็นคนเราคงหันไปทักว่า ชุดสวยจังเลย”
“ตัวนี้เราเจอแถวบางรัก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเพิ่งเคยได้ยินคำว่า ‘Twin Flame’ คือคนที่คอนเนคกันทางจิตวิญญาณในระดับที่ลึกซึ้งและเข้มข้น เหมือนแฝดที่ใช้จิตวิญญาณดวงเดียวกัน และถูกดึงดูดให้มาเจอกัน วินาทีที่เราเห็นสิ่งนี้เรารู้เลยว่าถ้าจะเปรียบ Twin Flame เป็นเก้าอี้ มันต้องหน้าตาแบบนี้แน่ ๆ”
“เราเป็นคนไม่บ้าดารา ถ้าเห็นคนดังเราก็จะ อ๋อ คนเยอะเพราะคนดังมา แล้วก็เดินผ่านไปทำอย่างอื่น แต่ตอนเราเห็นเก้าอี้ตัวนี้ เราแบบ “โว้วว คนเล็กหมัดเทวดา ๆ” เราพูดกับเพื่อนแล้วหัวเราะคนเดียว ซึ่งเพื่อนก็ชินแล้วแหละ ตอนนั้นเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวละครนั้นชื่ออะไร มาเสิร์ชเอาทีหลังว่าคือเจ๊สี่”
“มีเก้าอี้ไม่กี่ตัวที่เราเห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ”
“เก้าอี้สามตัวนี้วางอยู่อีกฝั่งของถนนแถวเยาวราช เราเดินข้ามไปถ่ายแบบไม่ลังเล ตอนถ่ายก็ไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกว่าไม่เคยเห็นเก้าอี้เหมือนกันวางเรียงกัน แล้วแต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ที่ชัดขนาดนี้ พอมาดูดีๆ ถึงเห็นว่านี่มันกัปตันอเมริกา พาวเวอร์เรนเจอร์ตัวสีชมพู และลูฟี่จากเรื่องวันพีซ”
หากสงสัยว่าเก้าอี้จะครองโลกได้ยังไง สามารถตามไปดูขบวนการครองโลกของเหล่าเก้าอี้ตัวจี๊ดกันได้ที่: https://www.instagram.com/the.chair.encyclopedia/