รู้หรือไม่? ต้นกำเนิดของ Barbie มาจาก ‘ตุ๊กตายาง’ และของเล่นชายแท้
เคยนึกสงสัยกันหรือไม่ว่า เจ้าตุ๊กตาบาร์บี้หน้าตาน่ารัก ที่เราเคยเล่นกันตอนเด็ก ๆ มีต้นแบบมาจากอะไร? ถ้าเราลองค้นหาข้อมูลบน Google แบบเร็ว ๆ ก็จะได้ความประมาณว่า ผู้ที่คิดค้นตุ๊กตาเหล่านี้ขึ้นมา คือ รูธ แฮนด์เลอร์ (Ruth Handler) นักธุรกิจหญิงชาวอเมริกัน หนึ่งในเจ้าของบริษัทผลิตของเล่น Mattel, Inc. ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตุ๊กตาที่ลูกสาวชอบเล่นนามว่า ‘Bild Lilli’
ทว่าเมื่อเราค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ‘Bild Lilli’ ต่อว่าเธอคือใคร ก็พบว่าเธอไม่ใช่ตุ๊กตาสามมิติธรรมดา ๆ ที่ออกแบบมาให้เด็กเล่น แต่เป็นตัวการ์ตูนสาวดาวยั่ว ต้นตำรับนักขุดทองที่ล่อลวงผู้ชายรวย ๆ ที่โลดแล่นอยู่บนหน้ากระดาษของหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์อย่าง ‘Bild-Zeitung’ ของเยอรมัน มาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 40 แล้ว โดยมี ไรน์ฮาร์ด บิวเทียน (Reinhard Beuthien) เป็นคนวาดเธอขึ้นมา
คาแรกเตอร์ของเธอจะเป็นหญิงสาวที่มีความก๋ากั่น หัวสมัยใหม่ กล้าต่อปากต่อคำ และมีไหวพริบในการเจรจากับผู้ชายที่เป็นเลิศ แต่ถึงกระนั้นก็ยังโดนนักวิจารณ์ค่อนขอดว่าเป็นคนสมองน้อย ไร้ยางอาย และเป็นภาพแทนของความลามกอนาจารอยู่เสมอ อย่างฉากที่เป็นภาพจำ ก็คือฉากที่เธอโดนตำรวจเข้ามาตักเตือนเรื่องใส่ชุดบิกินีระหว่างเดินอยู่ริมทางสาธารณะว่าไม่เหมาะสม ซึ่งแทนที่สาวเจ้าจะเหนียมอายหาอะไรมาปกปิดส่วนสงวน เธอก็กลับเลือกที่จะตอบกลับไปโต้ง ๆ ว่า “โอ๊ะโอ ถ้าอย่างนั้นในความคิดของคุณ ฉันควรถอดชิ้นไหนออกก่อนดีหรือคะ?”
และด้วยความสวยปนแซ่บ ที่สุดแสนจะเซ็กซี่ของ ‘Bild Lilli’ เธอจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปี 1953 ทางหนังสือพิมพ์ก็ได้ตัดสินใจสร้างเธอขึ้นมาในรูปแบบสามมิติ เพื่อจัดจำหน่ายในฐานะตุ๊กตาของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ ที่สามารถหาซื้อได้จากบาร์ ตู้จำหน่ายยาสูบ และร้านขายของเล่นสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น โดยกลุ่มลูกค้าที่มักจะซื้อเธอไป ก็จะเป็นบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งหลาย ที่ชอบนำไปมอบเป็นของขวัญให้แก่กันและกันช่วงปาร์ตี้สละโสด หรือไม่ก็นำไปแขวนไว้ตรงกระจกมองหลัง ให้เป็นตุ๊กตาหน้ารถของแต่ละคนไป
ไม่เพียงผู้ชายในเยอรมันเท่านั้นที่หลงรัก ‘Bild Lilli’ แต่เธอยังดังไกลไปในอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก จนถูกขนานนามว่าเป็น ‘ตุ๊กตายาง’ ที่เป็นดาวของทุกบาร์ และถึงแม้ว่าผู้ปกครองหลายคนจะเริ่มกังวลถึงความไม่เหมาะสมของตุ๊กตาตัวนี้ แต่พอเด็ก ๆ เห็นว่าสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าสวย ๆ ให้กับเธอได้ ทุกคนก็รู้สึกชอบเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใหญ่มากกว่าอยู่ดี
ซึ่งคนที่เข้ามาล้างภาพจำให้ ‘Bild Lilli’ กลายเป็นของเล่นเด็กฉบับสามัญประจำบ้าน ที่ทุกคนสามารถหยิบขึ้นมาเล่นได้อย่างสนิทใจ ก็คือแฮนด์เลอร์นั่นเอง โดยระหว่างที่เธอและลูกสาวกำลังท่องเที่ยวสวิสซเซอร์แลนด์ด้วยกันในปี 1956 เธอก็สะดุดตาและถูกใจตุ๊กตา ‘Bild Lilli’ เป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่บริษัทของเธอได้ผลิตตุ๊กตา ‘Raggedy Ann’ ที่มีลักษณะเป็นเด็กหญิงผมแดงออกมาจนได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง เธอก็พยายามที่จะผลิตตุ๊กตาแนวใหม่ที่มีรูปร่างเป็นผู้ใหญ่มาโดยตลอด เพราะเธออยากให้เด็ก ๆ ได้จินตนาการถึงสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็นในอนาคตบ้าง นอกเหนือจากบทบาทของการเป็นแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก และทำกับข้าวให้สามีทาน ทว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชายกลับไม่เห็นด้วยที่เธอจะทำตุ๊กตาแบบนั้น แถมพวกเขายังตกใจมากที่เธอคิดจะทำตุ๊กตาสำหรับเด็กให้มีหน้าอก
ดังนั้น เมื่อเธอได้เห็นตุ๊กตา ‘Bild Lilli’ ที่มีรูปร่างเป็นสาวสะพรั่ง อีกทั้งยังมีหน้าอกและทรวดทรงองค์เอวครบถ้วน เธอจึงรู้สึกตะลึงมาก ๆ และตัดสินใจซื้อกลับบ้านถึง 11 ตัว ก่อนจะสั่งให้ส่งตามหลังมาทางไปรษณีย์อีกหนึ่งโหล และทำการดีไซน์ตุ๊กตาตัวนี้ขึ้นมาใหม่ร่วมกับคนในทีมทันที โดยพวกเขาได้ออกแบบให้ตุ๊กตารุ่นใหม่มีริมฝีปากและคิ้วที่ดูอ่อนโยนมากขึ้น รวมไปถึงสีผิวก็ปรับให้ขาวขึ้นมาอีกหลายเฉด ส่วนเสื้อผ้าก็ปรับให้ดูสวยงามตามแฟชั่นนิยม
หลังจากออกแบบเสร็จแล้ว พวกเขาก็ตั้งชื่อให้กับตุ๊กตาใหม่ว่า ‘บาร์บี้’ หรือชื่อเต็ม ๆ ก็คือ 'บาร์บารา มิลลิเซนต์ โรเบิร์ตส์’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อของ ‘บาร์บารา’ ลูกสาวของแฮนด์เลอร์เอง และถัดจากนั้นไปอีกสามปี ในปี 1959 บริษัท Mattel, Inc. ก็ทำการเปิดตัว ‘ตุ๊กตาบาร์บี้’ ในงานมหกรรมของเล่นสุดยิ่งใหญ่อย่าง ‘American International Toy Fair’ และในปี 1964 พวกเขาก็สามารถซื้อลิขสิทธิ์ทั้งหมดของ ‘Bild Lilli’ มาเป็นของตัวเองได้อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองเทียบ ‘Bild Lilli’ กับตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นแรกที่เปิดตัวออกมาแล้ว ก็ต้องบอกตามตรงว่าแทบไม่แตกต่างกันสักเท่าไร หรือถ้าจะหาจุดต่างจริง ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของสีผิวที่ขาวขึ้นเท่านั้น จนหลาย ๆ คนในบริษัทพากันกังวลว่าจะสามารถขายตุ๊กตารูปร่างแบบนี้ออกสู่ตลาด ในฐานะของเล่นเด็กได้จริงหรือ แล้วเหล่าผู้ปกครองจะยอมซื้อให้ลูกหรือไม่
สำหรับในส่วนนี้แฮนด์เลอร์ ก็ตัดสินใจใช้กลยุทธ์และจิตวิทยาทางการตลาด ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดของผู้คนให้สลัดภาพความฉาวของ ‘Bild Lilli’ ออกไปจนหมด แล้วหลงเหลือแต่ความงดงามและสถานะไอดอลผู้เป็นแบบอย่างของเด็กผู้หญิงให้เป็นภาพจำของบาร์บี้เท่านั้น และนับจากนั้น ‘การใส่ส้นสูง’ ก็ไม่ถูกผูกอยู่ความเป็นโสเภณีหรือผู้หญิงกร้านโลก แต่เป็นลุคที่งดงามของหญิงสาวชนชั้นกลางข้างบ้านของทุกคน
อ้างอิง
Maham Javaid. 2023. “Barbie’s ‘pornographic’ origin story, as told by historians”. The Washington Post. 13 July, 2023. https://www.washingtonpost.com/lifestyle/2023/05/25/barbie-trailer-creator-pornographic-origin-doll/
Janifer Latson. 2015. “The Barbie Doll's Not-for-Kids Origins”. Time. 13 July, 2023. https://time.com/3731483/barbie-history/
Messynessy. 2016. “Meet Lilli, the High-end German Call Girl Who Became Barbie”. Messynessy. 13 July, 2023. https://www.messynessychic.com/2016/01/29/meet-lilli-the-high-end-german-call-girl-who-became-americas-iconic-barbie-doll/