Pongputhan Thamdee ศิลปินผู้เปลี่ยนมวลในจิตใจ ให้กลายเป็นภาพ ‘มนุษย์’ เหนือจริงสุดซับซ้อน
เวลานั่งมองภาพสุดเซอร์เรียลของศิลปินหลาย ๆ คน ทุกคนเคยนึกสงสัยเหมือนกันบ้างไหมว่า ศิลปินเหล่านั้นเขามีเบื้องหลังแนวคิดอย่างไร ถึงได้เลือกวาดภาพรูปทรงประหลาด ๆ เหนือจริงเหล่านี้ออกมา แล้วพวกเขาต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบไหนบ้าง ถึงได้ตีความโลกออกมาหน้าตาแบบนี้?
ภาพผลงานศิลปะของ ‘โดม - พงษ์ภูธาร ทำดี’ ศิลปินแนวเซอร์เรียลหน้าใหม่ที่เพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศจาก ‘Asia Plus Art Contest’ มาได้ ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ดึงดูดความสนใจให้เราตั้งคำถามนี้ขึ้นมาเหมือนกัน เพราะเขาได้วาดภาพที่ชื่อว่า ‘กำเนิดอนาคต’ ขึ้นมา โดยถ่ายทอดรูปร่างของมนุษย์สุดพิศดารได้อย่างแปลกตาและน่ากลัวในคราวเดียวกัน ทำให้เราอยากลองพูดคุยกับเขา เพื่อถามถึงมุมมองและเบื้องหลังแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เขาตีความ ‘มนุษย์’ ออกมาเป็นรูปแบบเช่นนี้
“ตอนที่วาดภาพนี้ผมได้วาดความรู้สึกอึดอัดและความบีบคั้นลงไปด้วยครับ” โดมได้บอกกับเราอย่างเป็นกันเอง
“ผมได้นำประสบการณ์สมัยที่เป็นนักศึกษาฝึกสอนมาใช้เป็นแรงบันดาลใจ เวลานั้นผมได้พบเห็นเด็กนักเรียนที่เป็นเหยื่อของสังคมในทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้ เรียกว่าสิ่งที่ทุกคนเห็นบนหน้าข่าว และมองว่าเป็นเพียงข่าวธรรมดาในแต่ละวัน สำหรับผมแล้วมันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ได้อยู่ใกล้ชิด และได้สัมผัสถึงความสะเทือนใจเหล่านั้นจริง ๆ ครับ มันรุนแรงต่อความรู้สึกมาก”
“เหตุการณ์ที่ว่านั้นก็คือ เราได้เจอกับเด็กที่บอบบางกับสถานที่ที่เขาไม่ควรอยู่ แต่มนุษย์บางกลุ่มกับสภาพแวดล้อมโดยรวมกลับบีบคั้นให้เขาต้องทนอยู่แบบนั้นอย่างไร้ทางออก”
“ต้องบอกว่าผมเริ่มต้นทำงานศิลปะจากการวาดรูปเหมือนของคนครับ เป็นคนแบบปกติ จำได้ว่าช่วงนั้นผมนั่งวาดทั้งวันทั้งคืน ติดต่อกันยาวนานเป็นปี ๆ ที่เป็นแบบนั้นไม่ใช่เพราะผมเป็นคนขยันหรืออะไร แต่สถานการณ์ด้านการเงินบีบให้ผมต้องหักโหมและทำงานหนัก เพื่อหาเงินมาใช้ในการดำรงชีวิตและเรียนต่อ ความกดดัน อึดอัน สับสน ในช่วงนั้น มันเกิดขึ้นวนเวียนอยู่ในตัวผมไม่รู้จบ นานวันเข้ามันก็ได้บีบเค้นให้มุมมองของผมเปลี่ยนแปลงไปแบบไม่รู้ตัว เหมือนว่ามนุษย์คนแรกที่รับผลกระทบจากความกดดันจนทำให้มนุษย์เหนือจริงปรากฏขึ้นมา ก็คงเป็นตัวผมเองนี่แหละครับ”
“นับจากนั้น ความชอบในกล้ามเนื้อและสัดส่วนของมนุษย์ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนรูปแบบไปจนดูเหนือจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจและความรู้สึกของผมออกมา ผ่านความสลับซับซ้อนของเนื้อหนังกับกล้ามเนื้อ บวกกับความเคลื่อนไหวดังที่เห็นในทุกผลงานของผม”
เรียกได้ว่าผลงานภาพมนุษย์สุดเหนือจริงที่โดมตีความและวาดออกมา ก็เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนถึงความเป็นจริงของมนุษย์ ที่ไม่ได้สวยงามเหมือนคำจำกัดความที่เราวางกันเอาไว้ เพราะในขณะที่เราบอกว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา เป็นสัตว์ประเสิรฐ์ แต่สังคมของเรากลับเต็มไปด้วยความไม่สมประกอบทางสังคม ที่ผลักดันมนุษย์ด้วยกันให้ตกอยู่ในอันตราย หรือสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการดำรงชีวิตอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน
ชิ้นนี้เขียนขึ้นช่วงที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพศิลปินรุ่นใหม่ ปี 2565 ใช้เวลา 4 วันนิด ๆความประทับใจในผลงานชิ้นนี้ คือเรื่องราวระหว่างทำการได้พบเจอกับเพื่อน ๆ จากสถาบันอื่น ๆ ที่รักในการทำงานศิลปะ และได้พบเจอครูบาอาจารย์ที่ค่อยให้คำแนะนำระหว่างทำงานชิ้นนี้ มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและรู้สึกถึงความรักของศิลปินชั้นครูที่มีต่อศิลปินรุ่นใหม่อย่างผมครับ
ขอขอบคุณทางโครงการพัฒนาศักยภาพศิลปินรุ่นใหม่ ที่ทำให้ผมได้มีประสบการณ์ในครั้งนี้ชี้นเล่าถึงความสัมพันธ์ของชีวิตครับการเรียนรู้ปรับตัวและเข้าใจเปลี่ยนแปลง มันคือความงามของ ชีวิตในมุมมองของผมครับ ชิ้นนี้ได้รับรางวัลชมเชยจากการเข้าร่วมโครงการครับ
ผลงานชิ้นนี้เป็นชิ้นแรกที่งานของผมเริ่มมีใบหน้าคน ซึ่งผมชอบมาก ๆ งานชุดหลัง ๆ จะเห็นมีใบหน้าเกือบทุกชิ้นและชิ้นนี้ได้ร่วมแสดงในนิทรรศการศิลปนิพนธ์ยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวที่ดีมาก ๆ ในชีวิตการทำงานศิลปะของผม อีกความประทับใจคือเป็นชิ้นที่ทำให้ผมได้มีโอกาศได้พบเจอ บุลคลซึ่งเป็น แรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะของผม ที่เคารพมาก ๆ
เหตุผลที่ประทับใจในผลงานชิ้นนี้ เป็นชิ้นที่ผมได้ถ่ายทอดสิ่งที่ผมได้สัมผัสมาโดยตรง ที่จริงงานหลาย ๆ ชิ้นก็เหมือนกันความพิเศษของชิ้นนี้คือช่วงที่ทำคือผมฝึกสอนไปด้วยต้องใช้ความเพียรพยายามมากๆเลิกจากการสอนก็กลับมาเขียนงานต่อเหมือนกับว่าได้ไปพบเจอเรื่องราวในช่วงเช้าแล้วก็กลับมาเขียนงานในช่วงเย็นได้รับแรงบันดาลใจในทุกๆวันที่เขียนและอีกเหตุผลคือเป็นงานที่ได้รางวัลทำให้ผมมีทุนในการสร้างสรรค์ผลงานต่อและเป็นทุนที่ผมได้ใช้ในการเรียนต่อปริญญาโท ที่ศิลปากรครับ เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานต่อไปครับ
ผลงานชิ้นนี้พูดถึงปัญหามลพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เป็นอีกหนึ่งในการทดลองสิ่งใหม่ๆ ของผมและผมสนุกมากที่ได้เขียนงานชิ้นนี้ ถ้าลองสังเกตดูจะเห็นรูปทรงที่อยู่ตรงกลางคือรูปกวางหันหลัง ถ้าไม่สังเกตคงมองไม่ออก ผมเลยชอบชิ้นนี้ครับ ความไม่ชัดเจน แล้วแต่ผู้ชมจะมองออกครับ ไม่ออกก็ไม่มีอะไรเสียหาย
ชิ้นนี้ผมอยากพูดถึงความบอบบางในความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต เป็นชิ้นที่ผมได้ทดลองเขียนสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ นอกจากคน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับตัวผมเองครับ
สามารถติดตามชมผลงานของ Pongputhan Thamdee ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/dome.may.1 Instagram: https://www.instagram.com/pongputhan_ TikTok: https://www.tiktok.com/@pongputhan