From Past to Present: The Inauguration Day  
ย้อนเวลาภาพประวัติศาสตร์ วันสาบานตนประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

From Past to Present: The Inauguration Day
ย้อนเวลาภาพประวัติศาสตร์ วันสาบานตนประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

From Past to Present: The Inauguration Day ย้อนเวลาภาพประวัติศาสตร์ วันสาบานตนประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1937 เป็นต้นมา ทุกๆ 4 ปีของวันที่ 20 มกราคม เวลาเที่ยงวัน ตามเวลามาตรฐานมลรัฐฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา คือที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารและผู้นำสูงสุดของประเทศ นับเป็นจุดเริ่มต้นของศักราชใหม่แห่งการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี ในกรณีที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกัน 2 สมัย วันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นับว่ามีความสำคัญชนิดที่ทั้งโลกจับตามองอย่างไม่ละสายตา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก และยังรวมถึงของโลกอีกด้วยในแง่ของประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงผู้นำโลกคนสำคัญ ซึ่งประธานาธิบดีแต่ละคนต่างสร้างบทบาทและผลกระทบต่อสังคมโลกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นภาพถ่ายในเหตุการณ์ของวันนี้ จึงนับได้เป็นการบันทึก "วินาทีประวัติศาสตร์" หนึ่งในประเทศผู้นำโลกเสรีอย่างสหรัฐอเมริกา ที่บุคคลนี้ไม่เพียงจะกำหนดทิศทางของประเทศ แต่ยัง(อาจ)กำหนดทิศทางของโลกได้เช่นกัน
และเนื่องด้วยวันนี้คือวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธาณาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา GroundControl พาขอทุกคนย้อนดูประวัติศาสตร์วันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ผ่านภาพถ่ายที่บันทึกวินาทีแห่งยุคสมัยของเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ดินแดนแห่งเสรีชนกว่าสองร้อยปีแห่งนี้กัน

20 มกราคม ค.ศ.2021

โจ ไบเดน (Joe Biden) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธาณาธิบดีลำดับที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา อดีตรองประธานาธิบดีสองสมัยในยุคของบารัค โอบามา และกลายเป็นประธาณาธิบดีที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ (79 ปี)

20 มกราคม ค.ศ.2017

โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (Donald John Trump) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา เป็นประธาณาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักหน่วงของสังคมอเมริกัน จนเกิดกระแสวิจารณ์ทั้งบวกและลบในวงกว้างจนถึงปัจจุบัน และอาจเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ที่อาจถูกคณะกรรมการตั้งสอบสวนว่ามีความผิดคณะดำรงตำแหน่งประธาณาธิบดี

20 มกราคม ค.ศ.2009

บารัค ฮุสเซน โอบามา (Barrack Hussein Obama) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา นับเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประวัติศาสตร์สหรัฐ ดำรงตำแหน่งจนครบวาระทั้งสองสมัย คือตั้งแต่ ค.ศ.2009-2017

20 มกราคม ค.ศ.2001

จอร์ช วอร์คเกอร์ บุช (George Walker Bush) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 43 ของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีผู้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์เปลี่ยนโลกครั้งสำคัญอย่าง 9/11 ซึ่งนำโลกเข้าสู่ยุคสมัยของสงครามการก่อการร้ายที่ยังคมส่งผลกระทบโลกใบนี้จนถึงปัจจุบัน

20 มกราคม ค.ศ.1993

วิลเลี่ยม เจฟเฟอร์สัน คลินตัน (William Jefferson Clinton) หรือที่รู้จักกันในชื่อบิล คลินตัน (ฺBill Clinton) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 42 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศที่ถูกฟ้องร้องให้ขับออกจากตำแหน่ง

20 มกราคม ค.ศ.1981

โรนัลด์ วิลสัน เรแกน (Ronald Wilson Reagan) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 40 ของสหรัฐอเมริกา

จากชายหนุ่มผู้มีอดีตเส้นทางจากนักแสดงในวงการฮอลลีวู้ด จนชะตาพลิกผันก้าวเข้าสู่รั้วทำเนียบขาว ผู้ผลักดันนโยบายการต่างประเทศที่มีส่วนสำคัญในการยุติสงครามเย็น (Cold War) ระหว่างสหภาพโซเวียตที่กินระยะเวลานานกว่าสี่ทศวรรษ

20 มกราคม ค.ศ.1969

ริชาร์ด มิลเฮาส์ นิกสัน (Richard Milhous Nixon) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 37 ของสหรัฐอเมริกา อดีตรองประธาณาธิบดีในยุคของ ดไวด์ ดี ไอเซนฮาวร์ ( Dwight D. Eisenhower) ผู้มุ่งหาข้อยุติสงครามเวียดนามที่กินเวลากว่า 25 ปี ก่อนจะโด่งดังกับคดีวอเตอร์เกตอันอื้อฉาว จนนำไปสู่การเป็นประธาณาธิบดีที่ถูกฟ้องร้องให้ขับออกจากตำแหน่งคนที่ 2 ของประเทศ

22 พฤศจิกายน ค.ศ.1963

ลินดอน เบน จอห์นสัน (Lyndon Baines Johnson) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 36 ของสหรัฐอเมริกา ประธาณาธิบดีคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ส วัน (Air Force One) ทันทีหลังรัฐบาลยืนยันการเสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้ (John F. Kennedy) ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในช่วงเวลาเที่ยงครึ่งของวัน

ประธานาธิบดีจอห์นสันได้กลายเป็นคนนำสหรัฐเข้าสู่สงครามเวียดนามอย่างเต็มตัว โดยการส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่เวียดนามใต้ เพื่อสกัดกั้นการรุกรานของลัทธิคอมมิวนิสต์ จนนำไปสู่จุดเริ่มต้นของขบวนการลุกฮือของเหล่านักคิด นักศึกษาและบุปผาชนครั้งสำคัญของประเทศในเวลาต่อมา

20 มกราคม ค.ศ.1961

จอห์น ฟิตเจอรัลด์ เคเนดี้ (John Fitzgerald Kennedy) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา เป็นประธานาธิบดีที่มีอายุน้อยที่สุดขณะเข้ารับดำรงตำแหน่ง (44 ปี) และเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหรัฐจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของประโยคในตำนานอย่าง "ask not what your country can do for you, ask what you can do for your country." บทบาทผู้นำประเทศเข้าสู่สงครามเย็นเพื่อต่อการกับสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์วิกฤติการคิวบา ในปี ค.ศ.1962 (Cuban Missile Crisis) และเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในวันที่เขาถูกลอบสังหาร ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ.1963 ก่อนจะดำรงตำแหน่งครบวาระเพียง 2 เดือน

4 มีนาคม ค.ศ.1933

แฟรงคลิน เดลาโน รูสเวลต์ (Franklin Delano Roosevelt) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 32 ของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีผู้นำสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นประธานาธิบดีลำดับที่ 5 ที่เสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เทียบเท่า จอร์จ วอชิงตัน และอับราฮัม ลินคอร์น

และหลังจากสมัยของรูสเวลต์ วันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เปลี่ยนจากช่วงเดือนมีนาคม มาเป็นวันที่ 20 มกราคม นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1937 เป็นต้นมา

4 มีนาคม ค.ศ.1861

อับราฮัม ลินคอร์น (Abraham Lincoln) สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลำดับที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีผู้ยุติสงครามกลางเมืองสหรัฐ (American Civil War, 1861-1865) ที่กินเวลานานกว่า 4 ปี และสิ้นสุดลงด้วยการรวมชาติพร้อมการประกาศเลิกทาส ที่ได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบัน

อ้างอิง: The oddities of Inauguration Day, PHOTOS: Inauguration Day from past to present, Vintage Photos of Presidential Inaugurations Throughout History, Inauguration at the U.S. Capitol