นักโบราณคดีขุดพบร้าน Street Food แห่งปอมเปอี พร้อมภาพนางพราย น้องหมา และเมนูที่ถูกแช่แข็งไว้ในกาลเวลา!

ใครจะหยุด แต่นักโบราณคดีแห่งแหล่งโบราณสถานเมืองปอมเปอีไม่เคยหยุด แม้กระทั่งในช่วงเวลาแห่งโควิดที่ทุกกิจกรรมบนโลกหยุดเคลื่อนไหว ทีมนักโบราณคดีแห่งเมืองโบราณที่กาลเวลาถูกหยุดไว้ภายใต้เถ้าถ่านจากการระเบิดของภูเขาไฟก็ยังคงทำงานอย่างแข็งขันและไม่เคยหยุดขุดมาตั้งแต่ยุค 1920s ซึ่งการค้นพบล่าสุดที่ทางทีมนักโบราณคดีประจำไซต์ปอมเปอีได้ค้นพบก็คือ การค้นพบโครงสร้างของสิ่งที่เคยเป็นร้านขาย Street Food ที่มาพร้อมกับภาพวาดปูนเปียกที่เผยให้เห็นศิลปะป็อปอาร์ตแห่งยุคโรมัน รวมไปถึงหลักฐานซากเมนูอาหารจานด่วนซึ่งเป็นที่นิยมในประชาชนชาวอาณาจักรโรมัน! ซึ่งการค้นพบหลักฐานโบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปอมเปอีเมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อนในสภาพที่สมบูรณ์ขนาดนี้ ก็เป็นผลพวงมาจากอานุภาพของกรวดภูเขาไฟ (Pyroplastic) ที่ปะทุออกมาจากการะเบิดมหันตภัยที่คร่าทุกชีวิตในนครปอมเปอีอย่างฉับพลันกระทันหัน แต่มีคุณสมบัติในการช่วยเก็บรักษาสภาพของสิ่งก่อสร้าง สิ่งของ และร่างของชาวปอมเปอีที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ในสภาพดีเยี่ยม
 

‘Thermopolium’ ในภาษากรีกมีความหมายว่า ‘สถานที่ที่ขายอาหารจานร้อน’ ที่จริงแล้ว Thermopolium แห่งปอมเปอีนั้นได้รับการขุดพบตั้งแต่เมื่อปี 2019 แล้ว แต่ในการขุดพบครั้งนั้นยังเป็นแค่การพบโครงสร้างโดยรวม ส่วนรายละเอียดของงานศิลปะภาพวาดปูนเปียกนั้นยังถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ดินและฝุ่นถ่านหิน กระทั่งชาวคณะผู้ขุดค้นปอมเปอีได้ประกาศถึงการค้นพบรายละเอียดในแง่ศิลปะต่าง ๆ ของแผงขายอาหารจานด่วนแห่งนี้ โดยหลังจากขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขี้เถ้าภูเขาไฟก็คือภาพจิตรกรรมปูนเปียกประดับเคาน์เตอร์ขายอาหารที่เล่าตำนานปกรณัมกรีก โดยเป็นภาพของ Nereid หรือพรายน้ำ กำลังขี่ม้าทะเลหรือ Hippocampus สัตว์วิเศษในตำนานกรีกที่มีท่อนบนเป็นม้า ท่อนล่างเป็นปลา มีเกล็ดและหางขดเหมือนนางเงือก และกำลังเปลี่ยนสีเป็นสีรุ้ง ซึ่งนักโบราณคดีก็สันนิษฐานว่าภาพพรายน้ำนี้น่าจะเป็นโลโก้หรือตราประจำร้าน นอกจากนี้ยังมีภาพหุ่นนิ่ง หรือ Still Life ที่เป็นภาพไก่และสุนัขมีปลอกคอและสายจูง โดยสันนิษฐานว่าภาพไก่น่าจะหมายถึงเมนูไก่ที่มีขายที่ร้าน ส่วนภาพสุนัขน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าของร้าน ซึ่งใกล้ ๆ กับภาพสุนัขนั้นก็พบโครงกระดูกของสุนัขโตแล้ว แต่มีขนาดปานกลาง การค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับสุนัขในร้านแห่งนี้ก็ช่วยยืนยันเรื่องประวัติศาสตร์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านของมนุษย์ด้วย

นอกจากการค้นพบงานศิลปะ นักโบราณคดียังค้นพบเศษซากอาหารที่เหลืออยู่ในจาน เมื่อตรวจสอบแล้วจึงพบว่าเป็นเมนูที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา และหอยทากอยู่ในจานเดียวกัน ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเมนู paella antelitteram หรือที่ในปัจจุบันรู้จักกันในนามข้าวผัดสเปน นอกจากนี้ยังค้นพบภาชนะบรรจุไวน์แบบพิเศษที่มีแผ่นกระเบื้องอยู่ที่ก้นเหยือก สันนิษฐานว่าน่าจะไว้ใช้สำหรับแยกไวน์กับถั่ว ซึ่งในยุคนั้นนิยมใส่ถั่วลงไปในไวน์เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ได้รสของไวน์ที่ถูกต้องที่สุด

ในการขุดค้นครั้งนี้ยังพบโครงกระดูกของชายวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปีอยู่ที่ห้องด้านหลังของร้าน และอีกโครงหนึ่งอยู่ที่บริเวณห้องข้างหน้า สันนิษฐานว่าโครงกระดูกของชายวัยกลางคนน่าจะเป็นเจ้าของร้านที่เสียชีวิตขณะกำลังพักอยู่ในห้อง และน่าจะเสียชีวิตเพราะโครงสร้างของหลังคาที่พังลงมา ส่วนโครงกระดูกอีกโครงที่เหลือนั้นยังต้องตรวจสอบต่อไป

อ้างอิง:
Pompeiisites