DiaLogic บทสนทนาระหว่างกราฟิกดีไซเนอร์กับนักดนตรี (และน้องหมาอีก 1 ตัว)
ตาเป็นประสาทที่มนุษย์ใช้มากที่สุด แต่บางทีเราก็ใช้มันมากเกินไป เราเอามันยึดโยงกับความจริงไปซะหมด โดยไม่ได้เอาประสาทอื่นมาร่วมพิสูจน์ ต่างจากหมาที่ใช้ทุกอย่างประกอบกัน อย่างเวลาวิดีโอคอลกัน เขาจะไม่รู้เลยว่านี่คือเรา กลิ่นไม่มา เสียงไม่ใช่ ภาพไม่ชัด อุณหภูมิไม่มี มันเป็นคนละความจริงไปแล้ว
มองเผิน ๆ ก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่า ชื่อนิทรรศการ DiaLogic คือส่วนผสมระหว่างคำ 2 คำอย่าง Dialogue (การสนทนา) และ Logic (เหตุผลหรือตรรกะ) ซึ่งเมื่อคำสั้น ๆ ทั้งสองถูกจับมัดรวมเข้าด้วยกัน Dialogic จึงหมายถึง การใช้บทสนทนานำพาให้เกิดการสำรวจความหมายของบางสิ่ง
บทสนทนาที่ว่าก็ของไม่ใช่ใครอื่น แต่คือของ อ.สันติ ลอรัชวี กราฟิกดีไซเนอร์ และผู้ร่วมก่อตั้ง Practical Design Studio กับ ผศ.ดร.อโณทัย นิติพน นักดนตรี และศิลปินร่วมสมัยดีเด่นรางวัลศิลปาธร สาขาดนตรี ที่มาร่วมตามหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ศิลปะเชิงทดลองระหว่างศิลปินจากต่างแวดวงอย่างการออกแบบและดนตรี ที่มีทั้งความเรียบง่ายและความโกลาหลผสมปนเปจนยากจะแยกออกจากกัน
จากการร่วมงานในอดีต สู่การเป็นกัลยาณมิตรที่ดีในปัจจุบัน สันติและอโณทัยจึงถือโอกาสจับมือกันสร้างสรรค์นิทรรศการศิลปะที่ควบรวมทั้งศาสตร์ของการมองเห็นและการได้ยินเข้าด้วยกันผ่านการสำรวจบทสนทนาที่ไม่ได้วนเวียนอยู่เพียงการนึกคิดของทั้งคู่ แต่ยังลามไปพูดคุยกับบุคคลรอบ ๆ ตัวที่ก่อให้เกิดชุดคำถามและคำตอบใหม่ ๆ ที่ทั้งสองคนไม่เคยคาดคิดมาก่อนเช่นกัน
“ผมเชื่อว่า ทุกครั้งที่เราได้คุยกัน เราก็จะเปลี่ยนไป แต่ว่าความเปลี่ยนแปลงตรงนั้นน่ะ คุณจะตรวจจับมันได้รึเปล่า ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนยังไง หรือเราจะต่อยอดกับมันแบบไหน ยังไงมันต้องได้อะไรบางอย่างกลับไปแน่นอน”
ผลงานของสันติภายในนิทรรศการ DiaLogic มีตั้งแต่การนำเสนอภาพลายเส้นและตัวอักษรอันบิดเบี้ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก CAPTCHA (ตัวอักษรและตัวเลขหน้าตาผิดรูปผิดร่างที่ถูกนำใช้เพื่อพิสูจน์ความเป็นมนุษย์ของผู้ใช้งาน) ไปจนถึงกระดาษสีขาวเปล่า ๆ ที่เมื่อเราลองพิจารณาลงไปดี ๆ ก็จะค้นพบร่องรอยของการพิมพ์ที่หลงเหลือเพียงบาง ๆ เท่านั้น
“ผมมาลองคิดดูว่า เราจะสามารถเอาความว่างมานำเสนอได้ไหม? แม้แต่กับเครื่องพิมพ์ ถ้าเราไม่มีอะไรเลยมันก็จะไม่ยอมพิมพ์ให้เรา สุดท้ายแล้ว ผมต้องหยอดอะไรบางอย่างลงไปมันถึงจะยอมพิมพ์กระดาษออกมา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็พิมพ์อะไรไม่ติดอยู่ดี”
นอกจากผลงานกราฟิกของสันติแล้ว อโณทัยเองก็ยังได้ทดลองสร้างสรรค์ ‘เสียง’ ที่เข้ามาสร้างความเชื่อมโยงกับพื้นที่ในปัจจุบันขณะผ่านเก้าอี้ที่ถูดจัดวางอยู่กลางพื้นที่แสดงงาน ที่แม้หน้าตาของมันจะดูเรียบง่ายและคุ้นชินกับความรับรู้ทั่วไปของเรา แต่เมื่อลองได้หย่อนก้นพักกายลงไป กลับมีเสียงแปลกประหลาดที่สร้างการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งร่างกาย
“เราอยากลองทำอะไรบางอย่างที่สามารถเคลื่อนย้ายเราจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้มันเป็นจริงได้ก็คือเสียง เก้าอี้ที่อยู่แต่ละทีก็ย่อมมีเสียงแวดล้อมที่แตกต่างกัน ถึงแม้ในเชิงกายภาพแล้ว เราจะอยู่ ณ ที่ตรงนี้ แต่ความทรงจำและความรู้สึกเราจะไปอยู่ที่ตรงอื่นได้ไหม?”
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ในพิธีเปิดนิทรรศการ อโณทัยยังได้พาเหล่านักดนตรีมากหน้าหลายตามาร่วมบันเลงเสียงดนตรีอันแปลกใหม่ที่มีจุดกำเนิดทั้งจากเครื่องดนตรีตามการรับรู้ทั่วไปของทุกคน และจากสิ่งของรอบตัวที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ พัดลม ลูกแก้ว โซ่ ซิป หรือแม้แต่ของเล่นสุนัข วัตถุสร้างเสียงดนตรีอันแปลกใหม่ที่ได้น้องหมาสีขาวตัวเล็กของสันติมาเป็นเพื่อนร่วมแสดงคนสำคัญ
“พอเราเริ่มเติบโตขึ้นก็ค้นพบว่า เสียงดนตรีมันไม่ได้มาจากเครื่องดนตรีอย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเราก็เป็นดนตรีได้รึเปล่า?”
ทั้งหมดนี้ อาจไม่ใช่การตั้งคำถามเพื่อสร้างสรรค์หรือคาดหวังสิ่งใหม่ แต่อาจเป็นการนิยามสิ่งต่าง ๆ ให้มีขอบเขตที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นผ่านการเปิดรับและเรียนรู้ซึ่งกันและกันของกราฟิกดีไซเนอร์กับนักดนตรี (และน้องหมาอีก 1 ตัว) ทั้งในแง่วิธีคิด และกระบวนการทำงาน
📍 DiaLogic นิทรรศการดูโอโดย สันติ ลอรัชวี และ อโณทัย นิติพน
วันที่ 6 สิงหาคม - 30 กันยายน 2022
Xspace Gallery (Main Hall)
เปิดทุกวันจันทร์ - เสาร์ (10:00 - 17:00 น.)