ลายเส้นที่มีเหลี่ยมมุมชัดเจนโดดเด่น การใช้แสงเงาแบ่งสัดส่วนภาพ การจับคู่สีที่สร้างความรู้สึกและชวนสะดุดตาต่างจากแอนิเมชันเรื่องอื่นในยุคนั้น ทำให้ภาพยนตร์แอนิเมชันสุดคลาสสิคอย่าง Sleeping Beauty ของ Disney Studio กลายเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายจนเข้าไปนั่งในใจผู้ชมทั่วโลก จากลูกผสมรสชาติศิลปะกอทิก แต่ก็ทันสมัยสมยุค 50s ในเวลาเดียวกัน ผลงานอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นี้ มีหัวเรือคนสำคัญ นั่นก็คือ ‘Eyvind Earle’
Eyvind Earle เป็นศิลปินชาวอเมริกันที่ได้รับอิทธิพลจากงานศิลปะในยุโรปตอนเหนือยุคก่อนเรอเนซองส์ รวมไปภาพวาดยุคกอธิก สิ่งทอในยุคกลาง และหนังสือตัวเขียนสีวิจิตร (Illuminated Manuscripts) โดย Earle หยิบเอาชุดสีที่สะดุดตาในหนังสือเหล่านี้มาใช้ในงานของเขา และไม่เพียงแค่อิทธิพลจากโลกศิลปะเท่านั้น Earle ยังได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบตัวละครในสไตล์ของ UPA Animation Studio คือการทำให้ทุกองค์ประกอบภาพมีความแบนราบและมีสีสันที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับ Earle แล้ว การได้รับมอบหมายงานชิ้นสำคัญอย่างการออกแบบแอนิเมชันเรื่อง Sleeping Beauty เหมือนเป็นการเติมเต็มฝันของเขา ในปี 1934 เมื่อ Earle อายุ 18 ปี ได้ยื่นสมัครงานไปที่ Disney Studio แต่ก็ถูกปฏิเสธ เขาทำแบบนี้นานกว่า 3 ปี แต่ก็ยังไร้คำตอบ หลังจากที่เขาเรียนรู้เพิ่มเติมด้านการวาดภาพ เขาตัดสินใจยื่นสมัครงานอีกครั้งในปี 1951 และได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ช่วยจิตรกรวาดภาพประกอบฉาก
Earle ใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ใน Disney Studio กว่า 8 ปี จึงได้รับมอบหมายให้นำทีมออกแบบฉากทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องใหม่ Sleeping Beauty ด้วยลายเซ็นบนลายเส้นที่ชัดเจนผสมกลิ่นอายของศิลปะในยุคกลาง และสีสันที่ได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือตัวเขียนสีวิจิตร รวมถึงภาพวาด Landscape ที่ลดทอนส่วนเว้าโค้งของเขา ทำให้งานของ Earle เสมือนเป็นภาพจิตรกรรมที่เคลื่อนไหวได้ ดั่งความตั้งใจของ Walt Disney เอง ที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการแอนิเมชั่น กลายเป็นผลงานศิลปะที่แข็งแรงคุมโทนของทั้งเรื่องไปโดยปริยาย
ถึงแม้ว่า Earle จะตัดสินใจออกจาก Disney Studio ก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉาย และจิตรกรท่านอื่นมองว่าสไตล์งานของเขาสร้างความหวาดกลัวให้ผู้พบเห็น แต่การนำเทพนิยายสุดคลาสสิคอย่าง Sleeping Beauty มาบอกเล่าใหม่ในแบบฉบับของ Disney ด้วยสไตล์แบบ Eyvind Earle ก็กลายมาเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน และเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์แอนิเมชันเรื่องการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นใหม่จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกในยุคหลังสงครามของ Disney Studio
อ้างอิง :