เมื่อนึกถึงอาชีพ “แพทย์” สิ่งที่เราจะนึกถึงเป็นอันดับแรกคือความทุ่มเท และความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เราก็มักจะเห็นภาพของบุคลากรทางการแพทย์ผู้ขยันขันแข็ง ปรากฏในซีรีส์คู่กับเคสผู้ป่วยหนักท่ามกลางความกดดันจากญาติของพวกเขา รวมถึงการต่อสู้กับระบบการเมืองภายในโรงพยาบาลเสมอ แต่เราอาจจินตนาการไม่ออกว่าในชีวิตประจำวันของแพทย์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง..
จากความสำเร็จอย่างล้นหลามผ่านแนวทางที่แปลกใหม่ในการบอกเล่าชีวิตประจำวันในโรงพยาบาลผ่านกลุ่มแพทย์เพื่อนสนิท 5 คนในแผนกที่แตกต่างกันของซีซันแรก ส่งผลให้ “Hospital Playlist” ผลงานจากผู้กำกับมากความสามารถ ชิน วอน-โฮ (Shin Won-ho) ที่เคยสร้างผลงานประทับใจมากมายอย่าง Reply1988 และ Prison Playbook กลับมาสร้างความอิ่มเอมใจให้ผู้ชมอีกครั้งผ่านบรรยากาศในโรงพยายาลยุลเจที่เราคุ้นเคย
ต่อยอดจากความเดิมในซีซันที่แล้ว ซึ่งเกริ่นนำให้ผู้ชมได้รู้จักกับแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิตและความสัมพันธ์ของแพทย์แต่ละคนกันไป ซีซัน 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ก็นำพาผู้ชมก้าวเข้าสู่ความวุ่นวายในแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาล พร้อมกับเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวของเหล่าแพทย์ในที่แห่งนี้เพิ่มเติมต่อจากซีซันก่อนหน้า โดยเฉพาะเรื่องราวของซอกฮยองและภรรยาเก่าที่เปิดมาชนิดที่ไม่เว้นช่วงให้ผู้ชมได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตัวเรื่องจะไม่มีการเกริ่นถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แต่น่าแปลกที่แค่เรามองเพียงแวบเดียว ความทรงจำจากซีซันที่แล้วเช่นการสารภาพรักของอิกจุนต่อเพื่อนกลุ่มเดียวกันอย่างซองฮวา ก็ย้อนกลับมาอย่างน่าอัศจรรย์
ถึงแม้งานด้านการแพทย์จะเป็นงานที่หนักและอาศัยความทุ่มเททั้งกายใจ แต่การเป็นแพทย์ก็ได้สร้างมิตรภาพอันแสนยาวนานจนทำให้พวกเขาสนิทใจกันโดยแท้จริง ความสัมพันธ์ของคนหนึ่งเชื่อมโยงถึงอีกหลายคนจนเกิดเป็นโครงข่ายทางความรู้สึก ถึงแม้ผู้ชมจะไม่สามารถไปอยู่ในที่แห่งนั้นได้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้แสดงให้เห็นมุมมองใหม่ รวมถึงสร้างความรู้สึกมากมาย จากการได้เรียนรู้ชีวิตของผู้คนในโรงพยาบาล
“ ฉันเองก็กลัว แต่ถ้าคิดถึงแค่เรื่องที่แย่ ก็จะทำอะไรต่อไม่ได้ ”
ในขณะที่เรามองเห็นการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของแพทย์ในซีรีส์เรื่องอื่น ๆ Hospital Playlist กลับเผยให้เห็นถึงความอดหลับอดนอน ความเหนื่อยล้า รวมถึงความ “กลัว” ของแพทย์ที่มีต่อเคสอันยากลำบาก ถึงแม้เราจะเห็นว่าพวกเขาเก่งขนาดไหนก็ตาม ขณะที่โรงพยาบาลยังคงคอยรองรับความทุกข์ เป็นที่พึ่งทางกายและใจให้แก่ผู้คนเหมือนเช่นซีซันก่อนหน้า สถานการณ์อันคาดไม่ถึงมากมายก็ส่งผลให้การทำงานของแพทย์ทุกคนต้องเร่งรีบตามไปด้วย ดังนั้น หากเพียงแพทย์วินิจฉัยโรคไปตามจริงอย่างผิวเผิน ผลลัพท์ที่ได้ก็อาจพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งหมายความว่าชีวิตของคนคนหนึ่งกำลังจะถูกทำลายลงเพียงชั่วพริบตา การเรียนรู้ที่จะมองทุกสิ่งอย่างลึกซึ้งรอบด้าน และสื่อสารความจริงใจออกมาผ่านคำพูด ท่าทาง ด้วยวิธีการที่เหมาะสมในช่วงเวลาอันถูกต้อง จึงเป็นหัวใจหลักที่แพทย์ในซีรีส์ชุดนี้ พยายามบอกกับเราเสมอ และแม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ยังคงเรียนรู้จากประสบการณ์ที่พวกเขาเผชิญ
เพลงที่บรรเลงในฉากจบของแต่ละตอน จึงไม่เพียงแค่เปิดเผยหนึ่งงานอดิเรกของกลุ่มแพทย์ แต่ยังเป็นบทสรุปทางความรู้สึกที่เรียงร้อยขึ้นเพื่อสะท้อนเรื่องราวในชีวิตของทั้งตัวแพทย์ ผู้ป่วย โรงพยาบาล รวมถึงผู้ชม บทสรุปของเพลงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้ จึงเป็นเหมือนเพลย์ลิสต์ที่รวบรวมชีวิตของผู้คนมากมายในทุกมิติไม่เพียงแค่ความสุขเท่านั้น และเพราะมิติอันหลากหลายนี้เอง ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เข้าไปนั่งในใจผู้คนมากมายอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลแห่งนี้ คงช่วยให้เรามอง ฉุกคิด และรู้สึกไปกับแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างกว้างและลึกซึ้งมากขึ้นเช่นกัน
สามารถรับชม Hospital Playlist Season 2 ได้ใน Netflix
คลิกเพื่อรับชมตัวอย่างซีรีส์