120889919_190753895901326_6640185482577896364_n.jpg

เปิด 11 โลเกชั่นสุดสวยทั่วปารีส จากซีรีส์ Emily in Paris Emily ไปที่ไหนบ้างใน Paris ?

Post on 30 May

วินาทีนี้คงไม่มีสิ่งใดจรรโลงใจไปกว่าการนั่งดูคุณเอมิลี หรือ ลิลี คอลลินส์ วิ่งหัวหมุนชุลมุนไปทั่วปารีสในซีรีส์ Emily in ซีรีส์ที่กำลังมาแรงสุด ๆ บน Netflix ในตอนนี้ โดย Emily in Paris ก็เล่าเรื่องราวของหญิงสาวนาม เอมิลี ที่ได้ทำงานในฝันของสาว ๆ หลายคน นั่นก็คือการเป็นมาร์เกตติงของบริษัทน้ำหอมสุดหรูในกรุงปารีสนั่นเอง

ซึ่งความ Charming ของซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่เสน่ห์ของทีมนักแสดงและเรื่องราวกุ๊กกิ๊กหัวใจตามสไตล์รอมคอม แต่ความดีงามอีกประการหนึ่งก็คือบรรดาโลเกชั่นต่าง ๆ ในปารีสที่ถูกใช้เป็นฉากหลังของเรื่องราว ที่หากใครเคยไปเยือนปารีสมาแล้ว มาดูเรื่องนี้ต้องคิดถึง ส่วนใครที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไป ดูเรื่องนี้จบก็ต้องเริ่มหยอดกระปุกเตรียมตัวแน่นวล

และต่อไปนี้คือ 10 โลเกชั่นจากซีรีส์ Emily in Paris ที่เรารวบรวมมาให้ไปเดินตามรอยและปักหมุดกันให้ฉ่ำใจ
 

Palais Garnier

โรงอุปรากรแห่งศตวรรษที่ 19 ที่เอมิลีไปดูการแสดง Swan Lake ในเอพิโสดที่ 6 โดย Palais Garnier สร้างขึ้นในปี 1861 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในโบราณสถานสำคัญของกรุงปารีส ตัวสถาปัตยกรรมสร้างในสไตล์ฟื้นฟูบาโรก หรือ Beaux-Arts architecture เกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาคารแห่งนี้ก็คืออุบัติเหตุโคมระย้าที่ตกลงมาใส่ผู้ชมจนมีคนเสียชีวิตในปี 1896 ซึ่งต่อมาเหตุการณ์นี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ กัสตง เลอรูซ์ แต่งวรรณกรรมเรื่อง The Phantom of the Opera นั่นเอง

Le Grand Véfour

ใน Emily in Paris เอมิลีพยายามจองโต๊ะในร้านอาหารสุดหรูเลิศอย่าง Le Grand Véfour เพื่อให้เพื่อนร่วมงานและลูกค้าได้ไปดินเนอร์กันสวย ๆ แต่ความพินาศก็คือเธอดันจองผิดเดือนซะนี่! อย่างไรก็ตามแต่ Le Grand Véfour ได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารแบบเป็นทางการแห่งแรกในกรุงปารีสที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1784 ซึ่งแต่เดิมทีอยู่ในบริเวณอาณาเขตของ Palais-Royal หรืออดีตวังหลวงของราชวงศ์ฝรั่งเศส ปัจจุบัน Le Grand Véfour บริหารภายใต้การนำของเชฟ กีย์ มาร์แตง ผู้ทำให้ร้านสุดหรูแห่งนี้คว้า 3 ดาวมิชลินมาได้ (แต่ลดเหลือ 2 ดาวในปี 2008)

Pont Alexandre III

สะพานเก่าแก่แห่งกรุงปารีสที่สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 1900 นี้ ปรากฏใน Emily in Paris ในฉากที่ทีมงามของเอมิลียกกองกันไปถ่ายทำโฆษณาน้ำหอมตัวใหม่กันที่บริเวณสะพานแห่งนี้ โดย Pont Alexandre III เป็นสะพานที่ทอดไปสู่บริเวณถนน Champs-Élysées และมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือรูปปั้นบรอนซ์รูปเทพธิดาแห่งไฟที่ประดับอยู่ที่มุมทั้ง 4 ของปลายสะพานทั้งสองด้าน 

เกร็ดน่าสนใจของสะพาน Pont Alexandre III แห่งนี้ก็คือการที่มันเป็นต้นแบบของสะพานมัฆวานรังสรรค์ที่เป็นสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม และสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างถนนราชดำเนินนอก

Musée des Arts Forains

พิพิธภัณฑ์สวนสนุกและของเล่นแห่งนี้เป็นฉากหลังในเอพิโสด 7 ที่เอมิลีไปงานปาร์ตีที่จัดขึ้นที่นี่ Musée des Arts Forains สร้างขึ้นในปี 1996 โดย ฌอง พอล ฟาวองด์ นักแสดงและนักสะสมของเก่าที่นำคอลเลกชั่นส่วนตัวมาจัดแสดงให้คนทั่วไปได้เข้าชม โดยสิ่งที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีตั้งแต่ม้าหมุนโบราณ ชิงช้าสวรรค์ ไปจนถึงจักรยานโบราณอายุนับ 100 ปี

 

Rue de Valois

ถนนโบราณที่สองข้างทางเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมตึกแถวแสนสวยนี้คือเส้นทางการที่เอมิลีใช้เพื่อเดินไปทำงานในแต่ละวัน ปัจจุบันถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงวัฒนธรรม โรงแรมห้าดาว Grand Hôtel ร้านอาหารเก่าแก่ Le Bœuf à la mode ที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้น

 

Jardin du Luxembourg

สวนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี ที่กินเนื้อที่กว่า 23 เอเคอร์ ถือได้ว่าเป็นปอดของชาวปารีส และเป็นสวนที่เอมิลีมาวิ่งจ็อกกิงยามเช้าในเอพิโสดแรกนั่นเอง

 

Place de l’Estrapade

จตุรัสที่เป็นที่ตั้งอพาร์ตเมนต์ของเอมิลี ร้านอาหารของเกเบรียล และร้านเบเกอรีท้องถิ่นที่เอมิลีชอบไปเป็นประจำ โดยจตุรัสแห่งนี้เป็นจุดตัดระหว่างถนน rue de l’Estrapade และถนน rue Lhomond

 

Monnaie de Paris

หนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงปารีสซึ่งยืนหยัดค้ำตระหง่านมาตั้งแต่ปี 846 และถูกใช้เป็นที่ตั้งของโรงกษาปณ์หรือสถานที่ผลิตเหรียญยูโรของฝรั่งเศสมาจนถึงปัจจุบัน

อาคาร Monnaie de Paris ปรากฏใน Emily in Paris ในฉากที่เอมิลีไปงานแฟชั่นโชว์ ซึ่งใช้อาคารเก่าแก่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงาน

Trocadéro

Trocadéro คือชื่อที่ใช้เรียกพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของหอไอเฟลที่คั่นกลางด้วยแม่น้ำแซน ถือเป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานคู่เมืองปารีส โดยปัจจุบัน
เป็นที่รู้จักในฐานะสวนสาธารณะที่มีเครื่องเล่นเด็ก อควาเรียม และหอสำหรับจัดแสดงงานต่าง ๆ โดยเฉพาะการเป็นหนึ่งในจุดชมวิวหอไอเฟลที่สวยที่สุด เพราะสามารถมองเห็นหอไอเฟลได้ตรง ๆ โดยปราศจากสิ่งใด ๆ มาบดบังทัศนวิสัย โดยใน Emily in Paris สถานที่แห่งนี้ก็เป็นจุดที่ใช้จัดงานเปิดตัวน้ำหอมของบริษัท Savoir ที่เอมิลีทำงานอยู่
 

La Château de Sonnay

ใน Emily in Paris โลเกชั่นแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากบ้านพักตากอากาศในชนบทของตัวละครที่ชื่อ กามีลล์ ที่เอมิลีได้รับเชิญให้ไปพักผ่อน โดย La Château de Sonnay เป็นโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่ตั้งอยู่ในแถบหุบเขา Loire ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปารีส 3 ชั่วโมง

 

L’Atelier des Lumières

แกลเลอรีศิลปะที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1835 โดยปัจจุบันมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะที่เน้นแสง สี เสียง และการฉายภาพโปรเจกเตอร์ ที่แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาต่อคิวเข้าชมกันไม่ขาดสาย โดยปีที่แล้ว ทางแกลเลอรีเพิ่งจัดแสดงผลงานของ Vincent Van Gogh ในรูปแบบแสงสีตระการตา ที่เอมิลีก็ได้ควงเกเบรียลไปเดทมาเช่นกัน