GC-beingartist_Benedict.jpeg

Benedict Cumberbatch คนเท่แห่งเกาะอังกฤษที่เล่นได้สารพัดบทบาทจากนักสืบสู่มังกร

Post on 18 March

เมื่อพูดชื่อ Benedict Cumberbatch ขึ้นมา หลายคนอาจตะโกนทันทีว่า Doctor Strange ไม่ก็ Sherlock Holmes เพราะปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า 2 บทบาทนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Cumberbatch หรือ ‘พี่เบน’ ของใครหลายคนดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลก

หากย้อนกลับไปดูลิสต์บทบาทการแสดงทั้งหมดที่ Cumberbatch เคยแสดงมา จะเห็นว่าเขาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่ไม่เกี่ยงบทใดทั้งสิ้น เพียงแต่บทบาทนั้น ๆ ต้องหลากหลายมากพอที่จะท้าทายการแสดงของเขา นอกจากนั้น เราอาจจะคุ้นชินกับภาพ Cumberbatch ในจอภาพยนตร์เสียส่วนใหญ่ แต่ที่จริงแล้ว เขาปรากฏตัวทั้งในละครเวที โทรทัศน์ แถมยังเคยใช้เสียงอันมีเสน่ห์พากย์อนิเมชั่นอยู่เนือง ๆ 

มากความสามารถ–คำชมนี้คงไม่มากเกินไปสำหรับนักแสดงจากเกาะอังกฤษที่มุ่งมั่นเป็นนักแสดงตั้งแต่ยังเป็นเด็กประถม เราจึงอยากชวนทุกคนไปขุดคุ้ยชีวิตของ Cumberbatch ในฐานะนักแสดงว่าทำไมชื่อของเขาจึงได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลอยู่เสมอ

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นหรือจะสู้ความหลงใหลที่เอ่อล้น
 

Benedict Timothy Carlton Cumberbatch หรือ Benedict Cumberbatch คือนักแสดงชาวอังกฤษที่เกิดเมื่อวันที่  19 กรกฎาคม 1976 เขาเป็นลูกของ Timothy Carlton และ Wanda Ventham นักแสดงมากความสามารถของอังกฤษ –ใช่แล้ว พ่อแม่ของ Sherlock ในซีรีส์ Sherlock Holmes ก็คือพ่อแม่จริง ๆ ของ Cumberbatch ด้วย

ความสนใจด้านการแสดงของเด็กชายในตระกูลชนชั้นสูงของอังกฤษคนนี้เกิดขึ้นหลังจากเห็นแม่ของตนเองแสดงละครได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากจบการศึกษาที่โรงเรียนประจำอย่าง Brambletye เขาจึงเข้าศึกษาด้านศิลปะต่อที่ Harrow School โดยช่วงแรกก็เน้นการวาดภาพบนแคนวาส แต่ภายหลังเขาได้เป็นสมาชิกในชมรมศิลปะการแสดง Rattigan Society ของโรงเรียน 

<p>คนที่ 1-3 จากทางซ้าย–ตระกูล Cumberbatch ใน Sherlock Holmes</p>

คนที่ 1-3 จากทางซ้าย–ตระกูล Cumberbatch ใน Sherlock Holmes

Cumberbatch รับบทในละครเวทีของเชกสเปียร์จำนวนมาก บทเดบิวต์แรกของเขาคือไททาเนีย ราชินีแห่งนางฟ้าใน A Midsummer Night's Dream ของวิลเลียม เชกสเปียร์ และ As You Like It ความสามารถด้านการแสดงอันล้นเหลือของเขา อาจารย์การแสดงที่เป็นที่รู้จักของสหราชอาณาจักอย่าง Terence Rattigan ยังบอกว่า Cumberbatch ในวัย 12 ปีนั้นเป็นนักเรียนการแสดงชายที่ดีที่สุดที่เขาเคยพบเจอ 

แม้พ่อแม่นักแสดงของ Cumberbatch จะไม่สนับสนุนให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเป็นนักแสดงอีกคนของตระกูล และอาจารย์ของเขาจะเตือนว่าอาชัพนักแสดงนั้นเป็นอาชีพที่ยากลำบาก แต่หลัง Gap Year ไปสอนภาษาอังกฤษให้พระทิเบตในอินเดีย 1 ปี Cumberbatch ก็หันหน้าสู่เส้นทางการเป็นนักแสดงเต็มตัวโดยเข้าเรียนด้านการละครที่มหาวิทยาแมนเชสเตอร์ แถมในระดับปริญญาโท เขายังจบด้านการแสดงคลาสสิกจาก London Academy of Music and Dramatic Art

<p>1993</p>

1993

<p>1994</p>

1994

เจ้าพ่อละครเวทีและละครโทรทัศน์ในช่วงแรกของชีวิต

เมื่อเรียนจบ Cumberbatch ก็มุ่งสู่การเป็นนักแสดงเต็มตัวโดยใช้ชื่อในวงการของพ่ออย่าง Carlton ในช่วงเริ่มแรกก่อนจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเต็มของเขาโดยคำแนะนำของผู้จัดการเพื่อดึงดูดความสนใจจากมืออาชีพมากขึ้น 

งานแรกของ Cumberbatch เริ่มต้นด้วยบทบาทสำคัญในละครคลาสสิกหลายสิบเรื่องที่โรงละครชื่อดังหลายที่ ทั้ง Regent's Park Open Air, Almeida, Royal Court และ Royal National Theatres ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Olivier Award สาขา Best Performance บทบาท George Tesman ใน Hedda Gabler ซึ่งเขาแสดงที่โรงละคร Almeida เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2005 หรือเพียง 4-5 ปีหลังเป็นนักแสดง และตลอดชีวิตการเป็นนักแสดงละครเวที Cumberbatch ก็ยังได้รับรางวัลและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอีกจำนวนมาก

ระหว่างที่เล่นละครเวทีไปด้วย Cumberbatch ก็ขยายขอบเขตความสนใจในการแสดงของเขามาเป็นนักแสดงตัวประกอบในละครและซีรีส์ทางโทรทัศน์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Charles ใน Heartbeat (2000 และ 2004) ละครโทรทัศน์ของอังกฤษที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุค 90  รับบทเป็น Fredie ในมินิซีรีส์  Tipping the Velvet (2002)

<p>Hedda Gabler (2005)</p>

Hedda Gabler (2005)

<p>Heartbeat (2000)</p>

Heartbeat (2000)

<p>Tipping the Velvet (2002)</p>

Tipping the Velvet (2002)

นักแสดงเจ้าของบทบาทที่สร้างจากชีวิตจริงและนวนิยาย

ถ้าย้อนดูบทบาทที่เขาได้เล่น Cumberbatch มักจะได้เล่นป็นบุคคลสำคัญของโลกเสมอ

หลายเรื่องถูกดัดแปลงจากเรื่องจริง ตั้งแต่นักฟิสิกส์ชื่อดังที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่าง Stephen Hawking ในเรื่อง Hawking (2004) อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ William Pitt the Younger ในภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา Amazing Grace (2006) ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ขวัญใจประชาชนอย่างเสด็จพ่อแวนโกะห์ในเรื่อง Van Gogh: Painted with Words (2010) นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะอย่าง Alan Turing ใน The Imitation Game (2014)ฯลฯ เมื่อปี 2021 เขายังได้แสดงเป็น Loius Wain ศิลปินชาวอังกฤษที่โด่งดังจากภาพแมวในเรื่อง The Electrical Life of Louis Wain ด้วย

<p>Hawking (2004)</p>

Hawking (2004)

<p>Van Gogh: Painted with Words (2010)</p>

Van Gogh: Painted with Words (2010)

<p>Imitation Game (2014)</p>

Imitation Game (2014)

ไม่แน่ใจว่าเพราะหน้าตาที่ดูคลาสสิกแต่โดดเด่น หรือเพราะความสามารถทางการแสดงของเขาจึงทำให้หลาย ๆ ทีมอยากให้เขาเป็นตัวแทนบุคคลสำคัญที่คนทั้งโลกต่างจดจำ

Sherlock Holmes และ Doctor Strange บทบาทเปลี่ยน

แต่ถ้านับจุดเปลี่ยนใหญ่ ๆ ในชีวิตของ Cumberbatch ในฐานะนักแสดง เราอาจต้องเริ่มตั้งแต่บทบาท Stephen Hawking ในละครโทรทัศน์ของอังกฤษเมื่อปี 2004 ที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง BAFTA TV Award สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Golden Nymph สาขาภาพยนตร์โทรทัศน์  จนเขาได้โอกาสการแสดงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

อีกหนึ่งในสามจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ชื่อของ Benedict Cumverbatch กระหึ่มอีกครั้งคือบทบาทในซีรีส์ของ BBC อย่าง Sherlock Homles ซึ่งดัดแปลงบทมาจากนวนิยายสืบสวนสอบสวนของ Sir Arthur Conan Doyle นอกจาก Sherlock Homles เวอร์ชั่นนี้จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีในระดับนานาชาติ กับเหตุผลด้านบทที่เขียนได้ละเอียดและน่าติดตามแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือการแสดงของ Cumberbatch ที่แสนจะสมจริงแม้ตัวละครจะตรงข้ามกับเขาสุด ๆ  ในซีซัน 3 ปี 2014 เขาจึงได้รับรางวัลจาก Emmy Award ด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน Cumberbatch ก็ดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลกอีกครั้งจากบทบาทใน Doctor Strange (2016) และบทบาทอื่น ๆ ในจักรวาล Marvel เช่น Thor: Ragnarok (2017) และ Avengers: Infinity War (2018) ที่จริง ๆ แล้ว เขาเคยปฏิเสธทาง Marvel ไปเพราะมองว่าบทหมอแปลกนั้นล้าสมัยเกินไป แต่เพราะสายตาของ Marvel ว่าเขานั้นคู่ควรกับบทนี้ที่สุด จึงได้ติดต่อและต่อรองกับ Cumberbatch อีกครั้งจน Doctor Strange เกิดขึ้นและเดินทางมาถึง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ในปี 2022 

นักแสดงหลากบทบาทที่ทุ่มเทให้การแสดงทุกหยดหยาด

เมื่อย้อนกลับไปดูผลงานการแสดงของเขา Cumberbatch ไม่ได้รับแต่บทตัวละครหลักสุดเท่เท่านั้น แต่เขายังขยันรับบทแปลกใหม่อยู่เสมอ ทั้งบทเจ้าของทาสผู้มีเจตนาดี คนธรรมดาทั่วไปในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์แสนดำมืดและซับซ้อน ชายผู้มีร่างอวตารอย่างแฟรงเคนสไตน์แสนน่ากลัวในร่าง บทบาทตัวร้ายครั้งแรกในชีวิตของเขาอย่าง Khan ใน Star Trek หรือจะเป็นบทบาทในเรื่อง The Power of the Dog ภาพยนตร์ตะวันตกเกี่ยวกับเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ที่สะท้อนให้เห็นประเด็น Toxic Masculinity ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์

นอกจากงานแสดงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ Cumberbatch ก็ยังใช้เสียงทุ้มต่ำอันมีเสน่ห์ของเขาพากย์ในอนิเมชั่นและภาพยนตร์ดังหลายชิ้น เช่น เหล่ามังกรใน The Hobbit หลังจากนั้น พอร์ตโฟลิโอด้านการพากย์เสียงของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ

<p><span style="background-color:transparent;color:#202124;">Star Trek (2013)</span></p>

Star Trek (2013)

<p>The Power Of The Dog (2021)</p>

The Power Of The Dog (2021)

ตลอดสายธารการเป็นนักแสดงของ Cumberbatch หรือพี่เบนของแฟนคลับหลาย ๆ คน รับบทบาทมากมายและหลากหลายเกินกว่าเราจะพูดได้หมดใน 1 บทความ ซึ่งข้อนี้นี่เองที่อาจทำให้นักแสดงชายจากเกาะอังกฤษคนนี้ยืนอยู่ในแวดวงการแสดงที่หลากหลายทั้งละครเวที ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์อย่างยาวนานกว่า 2 ทศวรรษได้

คุณภาพและความหลากหลายของงาน
คือสิ่งที่สำคัญสำหรับผม