คริสต์ศาสนา vs. โหราศาสตร์ เหตุใด ‘มูเตลู’ จึงขัดต่อความเชื่อของคริสต์ศาสนิกชน

Post on 25 April

เมื่อวานนี้ได้เกิดกระแสถกเถียงบนโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง เกี่ยวกับเวที Miss Grand Thailand 2023 ในประเด็นเรื่องเสรีภาพทางศาสนา หลังจากเฌอเอม–ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์ลำพูน ได้ปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมดูดวง หลังจากได้รางวัลป๊อปปูลาร์โหวตเป็นอันดับหนึ่งจากแฟน ๆ โดยเธอให้เหตุผลว่าตัวเองนับถือศาสนาคริสต์ จึงไม่สะดวกใจ เมื่อเจ้าของเวทีอย่างณวัฒน์ อิสรไกรศีลทราบเรื่อง ก็ได้อธิบายให้เธอฟังว่าไม่ควรยึดติดและควรอยู่กับความหลากหลายให้ได้เหมือนกับตน

ท้ายที่สุดแล้วเฌอเอมก็เลือกที่จะปฏิเสธการดูดวงและขออนุญาตลงจากเวทีไป จนสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่งที่มองว่า เวทีนางงามควรเปิดกว้างด้านเสรีภาพในความเชื่อและศาสนา ในขณะที่อีกฝั่งก็มองว่า ผู้เข้าประกวดควรเตรียมใจว่า หากได้รับตำแหน่งจากการประกวด จะต้องมีการทำภารกิจและรับงานโฆษณามากมาย ซึ่งผู้เข้าประกวดควรมีใจที่เปิดกว้าง เพราะกองประกวดคงไม่สามารถเลือกรับงานให้นางงามได้

แล้วทำไมโหราศาสตร์หรือความมูต่าง ๆ จึงขัดแย้งกับความเชื่อทางศาสนาคริสต์?

ในการตอบคำถามนี้ ต้องย้อนกลับไปดูที่แก่นสำคัญของศาสนาคริสต์ นั่นก็คือ การเป็นศาสนาแบบ ‘เอกเทวนิยม’ หรือศาสนาที่นับถือ ‘พระเจ้าเพียงองค์เดียว’ และเชื่อว่าไม่มีอำนาจใดเหนือกว่าหรือสูงส่งกว่าอำนาจของพระเจ้า โดยนอกเหนือจากศาสนาคริสต์แล้ว แก่นความเชื่อนี้ก็ยังเป็นรากฐานของศาสนายูดายและศาสนาอิสลาม ซึ่งที่จริงแล้วทั้งสามศาสนาใต้ร่มเอกเทวนิยมนี้ก็มีต้นกำเนิดจากตำราเล่มเดียวกัน

แต่ถ้าเราหันไปมองความเชื่ออื่น ๆ ที่ล้อมรอบคริสต์ศาสนาอยู่ ณ เวลานั้น เราก็จะพบว่าแทบจะทุกความเชื่อล้วนเป็น ‘พหุเทวนิยม’ ที่บูชาเทพเจ้าหลายองค์กันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อของบาบิโลน เทพเจ้าอียิปต์ เทพเจ้ากรีก-โรมัน หรือศาสนาทางฝั่งยุโรปตอนเหนืออย่างเหล่าเทพนอร์สก็ด้วยเหมือนกัน

แต่หลังจากที่ศาสนาคริสต์รุ่งเรืองและคริสตจักรเริ่มมีอำนาจในฝั่งโลกตะวันตก ศาสนาหรือความเชื่อใด ๆ ที่นับถือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ นอกเหนือไปจากพระเจ้า (รวมไปถึงการบูชาธรรมชาติหรือวิญญาณผีบรรพบุรุษ) ก็ถูกประกาศให้เป็นพวก ‘นอกรีต’ ส่งผลให้การกระทำอันใดก็ตามที่เป็นการบูชา ‘สิ่งอื่น’ นอกเหนือไปจากพระเจ้า ล้วนเป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎของศาสนจักร ซึ่งในอดีต กฎของศาสนจักรก็มีความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับกฎหมาย

ถึงแม้ว่าโหราศาสตร์จะกำเนิดขึ้นมานานพอ ๆ กับทุกศาสนาบนโลก หรือจะบอกว่าเกิดก่อนศาสนาคริสต์ก็คงไม่ผิดนัก แต่หลังจากที่ศาสนาคริสต์ได้รับความนิยมจนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในศาสนาหลัก โหราศาตร์ก็ถูกจัดให้เป็นการกระทำของคนนอกรีตไป เพราะสนับสนุนให้ผู้คนเชื่อในเรื่องพลังงานอื่น ๆ นอกเหนือจากพระเจ้า อย่างพลังงานของผีสาง เทพเจ้าองค์อื่น ๆ หรือพลังงานจากดวงดาว ที่เรานำมาผูกเข้ากับวันเกิดของตัวเองเพื่อหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง

ซึ่งการกระทำทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมานี้ ถือว่าเป็นการลบหลู่พระเจ้าทั้งสิ้น เพราะสำหรับชาวคริสต์แล้ว พระเจ้าเป็นผู้กำหนดทุกอย่างในจักรวาล เป็นผู้สร้างและเป็นผู้ลิขิตชะตามนุษย์ การดูดวงเลยเป็นการกระทำของคนที่ไม่เชื่อมั่นในลิขิตที่พระเจ้าเตรียมไว้ จนต้องพึ่งพาสิ่งอื่นมาแอบดูดวงชะตาของตัวเอง มิหนำซ้ำสิ่งที่ได้ดูไปอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นคำลวงของซาตาน หรือสิ่งชั่วร้ายอื่นที่จงใจหลอกลวง เพื่อพาเราออกไปจากทิศทางที่ควรจะเป็นอีกด้วย

ซึ่งในคัมภีร์พระคำสอนอย่างไบเบิล ก็ได้บันทึกถึงเรื่องนี้เอาไว้อยู่หลายครั้ง โดยในบทเฉลยธรรมบัญญัติ 18: 9-14 ได้มีการระบุไว้ชัดเจนเลยว่า การถวายบูชาบุตร การทำนาย และการใช้เวทมนตร์เป็นสิ่งต้องห้ามในศาสนาคริสต์ มีเนื้อความว่า

“เมื่อท่านเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน อย่าเรียนรู้ที่จะทำสิ่งพึงรังเกียจตามชนชาติเหล่านั้น ห้ามใครในพวกท่านยอมให้บุตรชายหรือบุตรหญิงของตนลุยไฟ เป็นคนทำนาย เป็นหมอดู เป็นโหร หรือเป็นนักวิทยาคม เป็นหมอผี เป็นคนทรง เป็นพ่อมด แม่มด หรือเป็นหมอพราย ทุกคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นที่รังเกียจแด่พระยาห์เวห์ และเพราะสิ่งพึงรังเกียจเหล่านี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจึงทรงขับไล่พวกเขาไปพ้นหน้าท่าน ท่านจงเป็นคนปราศจากตำหนิต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะว่าชนชาติเหล่านี้ซึ่งท่านกำลังจะไปยึดครองนั้น เชื่อฟังหมอดูและคนทำนาย แต่ส่วนตัวท่านนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ทรงยอมให้ท่านทำเช่นนั้น”

ด้วยเหตุนี้ ในมุมมองของศาสนาคริสต์แล้ว โหราศาสตร์และเวทมนตร์ต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นในฐานะคนทำ หรือฐานะคนใช้บริการก็ไม่ควรทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ศาสนาอื่นหรือคนนอกรีตทำ ไม่ใช่เหล่าชาวคริสต์ผู้นับถือใน ‘เอกเทวนิยม’

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าสำหรับคนที่ยึดถือว่าตัวเองนั้นเชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ เชื่อในผีสางเทวดา ดวงดาวหรืออำนาจอื่น ๆ ‘การทำนาย’ ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ตามความประสงค์ของแต่ละคน แต่สำหรับชาวคริสต์บางคนที่เคร่งในหลักคำสอนทางศาสนามาก ๆ ก็อาจจะลำบากใจในแง่ที่ว่า การดูดวงนั้นเป็นการบอกเป็นนัยว่ามีอำนาจอื่นที่ลิขิตและส่งอิทธิพลต่อชีวิตของตัวเอง นอกเหนือไปจากพระผู้เป็นเจ้า

อ้างอิง

Billy Graham Evangelistic Association. "Is it All Right for a Christian to Believe in Astrology and Discover God's Plan for His or Her Life Through a Horoscope?" Accessed April 25, 2023. https://billygraham.org/answer/is-it-all-right-for-a-christian-to-believe-in-astrology-and-discover-gods-plan-for-his-or-her-life-through-a-horoscope/.

BibleInfo. "Is Astrology Mentioned in the Bible?" Accessed April 25, 2023. https://www.bibleinfo.com/en/questions/astrology-mentioned-bible.

Bible. Thai Standard Version. “Deuteronomy 18:11”. Accessed April 25, 2023. https://www.bible.com/th/bible/174/DEU.18.THSV11.