นี่คือ Ai Weiwei ศิลปินร่วมสมัยชาวจีนเจ้าของศิลปะการเมืองที่โด่งดังที่สุดในโลก และในมือของเขาก็คือโบราณวัตถุล้ำค่าอายุ 2,000 ปีของราชวงศ์ฮั่นซึ่งกำลังถูกทิ้งลงพื้นอย่างหน้าตาเฉย – คำถามที่หลายคนสงสัยคือทำไม Ai Weiwei ต้องทำลายวัตถุโบราณของชาติตัวเองขนาดนี้
เราต้องย้อนกลับไปช่วงที่ Ai Weiwei กลับมายังประเทศจีนในช่วงกลางทศวรรษ 90 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนกำลังเจริญอย่างรวดเร็วจนมรดกทางวัฒนธรรมหลาย ๆ อย่าง เช่น วัตถุโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของสูงกลับเป็นสินค้าไร้ราคาที่ไม่มีใครอยากซื้อ เขาจึงเริ่มรวบรวมโบราณวัตถุหลายชิ้นมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยเพื่อสื่อสารประเด็นการเปลี่ยนแปลง การเกิดใหม่ การอนุรักษ์ และการทำลาย ซึ่งหนึ่งในวัตถุโบราณที่ Ai หยิบมาใช้ก็คือแจกันโบราณสมัยราชวงศ์ฮั่นที่มีอายุ 2,000 ปี แต่กลับมีราคาเพียงไม่กี่เหรียญเมื่อ 20 กว่าปีก่อน
ทั้ง 3 จังหวะใน 3 ภาพที่แจกันอันมีค่ากำลังร่วงหล่นสู่พื้น เขาต้องการสื่อสารถึงการถือครอง ทิ้งทำลาย และยืนตระหง่านบนซากอดีตเหล่านั้นเพื่อสะท้อนถึงครั้งที่รัฐบาลเหมาเคยปฏิวัติวัฒนธรรมจีนโดยกวาดล้างสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าจนแทบไม่เหลือร่องรองแห่งประวัติศาสตร์ ทั้งยังเพื่อตั้งคำถามว่าค่านิยมทางวัฒนธรรมนั้นถูกสร้างขึ้นอย่างไรและโดยใครเพราะเมื่อนักสะสมวัตถุโบราณโกรธเคืองกับการกระทำของเขา เขาก็ได้โต้กลับว่าครั้งหนึ่งท่านประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า
วิธีเดียวที่จะสร้างโลกใหม่ได้คือเราต้องทำลายโลกเก่าก่อน
หลายคนอาจตั้งคำถามว่าแล้วการกระทำของเขาต่างจากรัฐบาลในอดีตอย่างไร ที่จริงแล้ว การนำวัตถุโบราณของศิลปินฝีมือดีในอดีตของ Ai มาสร้างเป็นงานศิลปะครั้งนี้กลับถือเป็นการฟื้นฟูและเพิ่มคุณค่าด้วยซ้ำ เพราะในตอนนั้น วัตถุโบราณเหล่านี้แทบจะไม่มีใครซื้อไปเก็บ แต่เขาเป็นคนหนึ่งที่นำความเป็นศิลปะกลับมาให้แจกันใบนี้อีกครั้ง
ณ ปัจจุบันก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เช่ือว่า Ai Weiwei จะใช้แจกันจริงในการสร้างงานชิ้นนี้
อ้างอิง :
guggenheim