เคยชมนิทรรศการไหนที่รวมทั้งศิลปะ งานคราฟต์ การทดลองด้านกลิ่น การชิมชา การเสวนา การเปิดตัวหนังสือ กระทั่งคอร์สเรียนออกแบบเข้าไว้ด้วยกันไหม ถ้าไม่ เราขอชวนทุกคนสาวเท้ามาที่ happening exhibition นิทรรศการ 9 ห้อง ที่จัดติดต่อกัน ณ River City Bangkok 24 วัน

นี่คือความตั้งใจของทีมงาน happening และ River City Bangkok ที่จะผสมผสานบรรยากาศของการพบปะเสวนาและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันเพื่อชวนทุกคนมาเปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 รับชมงานศิลปะที่แตกต่าง

ไฮไลต์แรกของงานคือกิจกรรมทอล์กในแต่ละวันที่จะหมุนเวียนศิลปินมาเล่าถึงประเด็นที่แตกต่าง ทั้งมาโนช พุฒตาล, แสตมป์-อภิวัชร์, เมื่อย วง Scrubb, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์, จอร์จ RUBSARB PRODUCTION, ฮ่องเต้ กนต์ธร ฯลฯ

ส่วนไฮไลต์ที่เราเก็บมาฝากแบบจัดเต็มคือห้องนิทรรศการทั้ง 9 ห้อง ที่จัดแสดงผลงานของศิลปิน 9 คน เริ่มจาก ‘mini’ by Peace 和 oriental teahouse, ตุล ไวฑูรเกียรติ (Apartment Khunpa) และ ภากร มุสิกบุญเลิศ, Atelier Pakawan, Lula Craft Studio & Friends, Wax Valley Candle Co., happening, Aura Cherrybag, PRACTICAL school of design และ ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์

ว่าแต่ทั้ง 9 ห้องจะสนุกแบบสดใหม่แค่ไหน ตามไปดูกัน! ส่วนใครที่ยังไม่ได้ซื้อบัตรก็จิ้มที่ go.eventpop.me/happeningex

ชิมชาเปิดผัสสะกับ ‘mini’ by Peace 和 oriental teahouse

เพราะการดื่มชานั้นถือเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่งไม่ต่างจากการเสพศิลป์ประเภทอื่น ชาว happening จึงพาเราประเดิมนิทรรศการด้วยการชิมชาจาก mini อันเป็น oriental speedbar ที่เพิ่งเปิดให้บริการโดยร้านชาตะวันออกเกรดคุณภาพอย่าง Peace

ชาที่ว่าคือชา ‘เปิดผัสสะ’ ที่จะทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเราตื่นตัว พร้อมรับชมห้องนิทรรศการอื่นๆ ต่อไปได้ ความสนุกอยู่ตรงที่ mini ชวนเราตีความความรู้สึกที่ได้จากการชิมชาแล้วเลือกสีดินสอไปบรรยายบนผนัง นอกจากนั้น mini ยังเปิดบาร์เครื่องดื่มหลากหลายประเภทให้เราได้ลองชิม ทั้งยังมอบ mini tea giveaway ให้เรานำกลับบ้านอีกด้วย

เสี่ยงเซียมซีรับบทกวีของ ‘ตุล ไวฑูรเกียรติ’ และ ‘ภากร มุสิกบุญเลิศ’

เดินต่อมายังห้องที่ 2 อย่างห้องหลบเวลาของ ‘ตุล ไวฑูรเกียรติ’ และ ‘ภากร มุสิกบุญเลิศ’ เราจะพบกับบทกวีประดับที่ผนังห้อง แต่ละบทกวีนั้นคัดสรรมาจากหนังสือรวมบทกวีของ ‘ตุล ไวฑูรเกียรติ’ ในช่วงวัยรุ่น  ประกอบกับภาพถ่ายที่บีม ภากรได้ตีความ

ไฮไลต์ที่ใครก็ต้องทำคือเสี่ยงเซียมซีรับบทกวีของศิลปินไปเก็บไว้ นอกจากนั้น ชุดของบทกวีในช่วง 12 วันแรกของนิทรรศการกับ 12 วันสุดท้ายจะแตกต่างกันด้วยนะ

ชมงานปั้นจากเรื่องราวใกล้ตัวของ Atelier Pakawan

เราอาจรู้จัก Atelier Pakawan หรือ ‘ยุ้ย–ภควรรณ ทองวานิช’ ในญานะนักวาดเจ้าของลายเส้นน่ารัก ชุดสีละมุน และเรื่องราวที่ดีต่อใจ แต่ในครั้งนี้ยุ้ยจัดแสดงงานของตนเองแตกต่างออกไป เราจะได้พบกับงานปั้นน่ารักๆ ที่เธอปั้นขึ้นหลังจากร่ำเรียนเทคนิคเซรามิจากเมืองเซโตะ ประเทศญี่ปุ่น

เชื่อว่าใครที่ได้เห็นงานของเธอ อาจจะได้ผลงานกลับบ้านมาสักชิ้น

ชมงานคราฟต์และของสะสมขอ Lula Craft Studio & Friends

ถ้าพูดถึง ‘ลุลา–กันยารัตน์ ติยะพรไชย’ เราจะได้ยินเสียงเพลงหวานๆ เป็นเอกลักษณ์ของเธอคลอไปในโสตประสาท แต่นอกจากความสามารถด้านการร้องเพลง ลุลายังเป็นเจ้าแม่งานคราฟต์ที่มีฝีมือทั้งงานปัก ตัด ถัก เย็บ และย้อม ฯลฯ

ในห้องที่ 5 นี้ เราจึงจะเห็นงานทำมือละลานตาไปหมด ในบรรดาของเหล่านี้ประกอบด้วยของสะสมและของที่เธอทำขึ้นเอง แอบกระซิบว่าถ้าใครหลงรักลายผ้าพิมพ์อินเดีย นี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้จับจองผ้าพิมพ์ในราคาจับต้องได้!

สูดกลิ่นหอมเคล้าเสียงเพลงดีๆ กับ Wax Valley Candle Co.

เดินมาถึงห้องที่ 6 สายเครื่องหอมต้องถูกใจจนไม่อาจเคลื่อนย้ายตัวไปไหน เพราะ Wax Valley Candle Co. แบรนด์เครื่องหอมของ ‘หนึ่ง–อภิชาติ คชพัฒน์ทรัพย์’ ชวนเรามาสนุกกับกลิ่นอย่างเต็มอิ่ม

ตั้งแต่เทียนหอมที่ตีความจากเพลงซิตีป็อปยุค 80 ของญี่ปุ่น น้ำมันหอมระเหยที่ตีความจากความรู้สึก และสารพัดเครื่องหอมที่เขารังสรรค์ขึ้นพ่วงไปกับกิจกรรมสนุกๆ แบบไม่ซ้ำกันทุกวัน อย่างการนำเสนอกลิ่นควบคู่กับการเปิดแผ่นเสียง บางวันก็เปิดเวิร์กช็อปเครื่องหอมด้วย

แลกโปสการ์ดกับคนแปลกหน้าและสนทนากับศิลปินในห้อง happening

ห้องนี้เป็นห้องของ happening เอง ไฮไลต์ของห้องนี้มี 2 อย่างคือหนึ่ง–ช่วงเย็นของทุกวัน happening จะเชิญศิลปินหลากหลายแวดวงมาสนทนาในหัวข้อที่แตกต่างกัน ตั้งแต่นักดนตรี ช่างภาพ นักเขียน และกราฟิกดีไซเนอร์ ฯลฯ

สอง–เราจะได้แลกเปลี่ยนโปสการ์ดกับคนแปลกหน้าได้ที่นี่ เพียงเตรียมโปสการ์ดของตัวเองมาจากบ้าน แปะลงบนผนัง แล้วหยิบโปสการ์ดของคนอื่นกลับไป หรือถ้าใครไม่ได้เตรียมมาก็มีโปสการ์ดบางส่วนให้เราได้เขียนด้วยนะ ถือเป็นกิจกรรมอบอุ่นหัวใจที่ช่วยเยียวจิตใจได้ดีทีเดียว

ชมงานศิลปะสดใสจากหนังสือเล่มใหม่ของ Aura Cherrybag

ถ้าพูดถึงนักวาดภาพประกอบคนไทย ชื่อของ Aura Cherrybag หรือ ‘ออร่า–ศศิพรรณ ศิริพร’ ต้องผุดชึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะงานคอลลาจผสมงานวาดของเธอนั้นเป็นเอกลักษณ์สุดๆ ในนิทรรศการครั้งนี้ ออร่านำอาร์ตเวิร์กที่กำลังทำในหนังสือเล่มใหม่มาจัดแสดงเรียกน้ำย่อยให้เราดูแบบเต็มตา

สำรวจ PRACTICAL school of design

PRACTICAL school of design หรือ PS±D คือโรงเรียนสอนออกแบบที่นำโดย ‘สันติ ลอรัชวี’ ‘กนกนุช ศิลปวิศวกุล’ และเพื่อนๆ ในวงการ PS±D เชื่อว่าการออกแบบเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็เรียนรู้ได้ แถมวิธีการสอนยังเป็นเอกลักษณ์เพราะผู้เรียนจะได้แสดงนิทรรศการร่วมกันในตอนจบคอร์ส

ในนิทรรศการครั้งนี้ PS±D มาจัดคอร์สให้กับเหล่านักวาดได้เปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ซึ่งผู้ร่วมงาน happening exhibition ก็แอบเข้ามาฟังและเรียนรู้ไปด้วยได้ ตลอดนิทรรศการ 24 วันเรายังจะได้เห็นพัฒนาการของนักวาด 12 คนด้วย

ไฮไลต์ที่สายอ่านน่าจะชอบคือโต๊ะกลางที่เต็มไปด้วยกระดาษแนะนำหนังสือให้หลายคนได้หนังสือเล่มใหม่ๆ กลับไปอ่น หรือโควตที่ชอบเก็บไว้ในใจ

ทำความเข้าใจเรื่องแสงและภาพกับห้องของ ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์

เดินทางมาถึงห้องสุดท้ายกับห้องที่ช่างภาพขาวดำ อาจารย์มหาวิทยาลัย นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียนสังเคราะห์แสงอย่าง ‘ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์’ ได้สร้างมุมสนุกๆ ให้เราได้เรียนรู้การถ่ายภาพแบบเข้าใจง่าย