สำรวจวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองผ่าน Saint Patrick’s Day เทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของชาวไอริช

Post on 18 March

หากศาสนาพุทธมีวันมาฆบูชาเพื่อรำลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ศาสนาคริสต์ก็มีวันที่ให้คนที่นับถือศาสนาคริสต์ได้รำลึกถึงเหตุการณ์หรือคำสอนเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือวันเซนต์แพทริก (Saint Patrick’s Day) วันที่ชาวไอริชจะรำลึกถึง ‘นักบุญแพทริก’ (St. Patrick) นักบุญผู้อุปถัมภ์คนสำคัญของประเทศไอร์แลนด์ที่นำศาสนาคริสต์มาเผยแผ่ให้กับชาวไอริช และหลังจากที่นักบุญแพทริกได้เสียชีวิตลง ชาวไอริชจึงยกให้วันที่ 17 มีนาคมของทุกปีเป็นวันเฉลิมฉลองเพื่อรำลึกถึงนักบุญแพทริก

วันเซนต์แพทริกไม่เพียงแต่เป็นวันที่ชาวไอริชจะรำลึกถึงนักบุญแพทริกเท่านั้น แต่ยังเทศกาลเฉลิมฉลองของชาวไอริชที่ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับสีเขียว ซึ่งสีเขียวมีที่มาจากใบโคลเวอร์สามแฉก (Shamrock) ที่นักบุญแพทริกใช้สอนผู้คนเรื่องแนวคิดตรีเอกานุภาพ และยังเป็นหนึ่งในสีประจำธงชาติไอร์แลนด์ โดยในขบวนพาเหรดชาวไอริชบางคนจะแต่งกายเป็นภูตจิ๋วสีเขียว (Leprechaun) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภาพจำในงานด้วย นอกจากการเดินพาเหรดแล้ว สิ่งที่น่าสนใจในเทศกาลนี้ก็คือวัฒนธรรมการเต้นระบำไอริช (Irish Dance) ที่นำเสนอเสน่ห์ความสนุกสนานของชาวไอริชได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งวัฒนธรรมที่เป็นภาพจำของเทศกาลของวันเซนต์แพทริกก็คือการกินดื่มที่ถูกถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งโดยทั่วไปไอร์แลนด์ถือว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว เห็นได้จากการขยายตัวของโรงงานผลิตเครื่องดื่ม ผับบาร์ และแบรนด์เครื่องดื่มชื่อดังต่าง ๆ ที่มีต้นกำเนิดมาจากที่นี่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในวันเซนต์แพทริกผู้คนต่างจะเฉลิมฉลองด้วยการกินดื่มอย่างสนุกสนาน

และหากพูดถึงเครื่องดื่มที่ขึ้นชื่อและเป็นภาพจำของวันเซนต์แพทริก คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘กินเนสส์ (Guinness)’ แบรนด์เครื่องดื่มสเตาต์สัญชาติไอริชแท้ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 265 ปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมของชาวไอริชมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กินเนสส์อาจไม่ใช่ภาพจำแค่ในเทศกาลวันสำคัญนี้เท่านั้น แต่ยังโด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก เพราะเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งการเฉลิมฉลองและสร้างสีสันให้กับผู้คน นอกจากนี้ กินเนสส์ยังคงฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมไอริช ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ ไลฟ์สไตล์ และวัฒนธรรมป๊อบด้วยเช่นกัน

เบื้องหลังความโดดเด่นและความพิเศษของกินเนสส์ มาจากกระบวนการผลิตที่มีความพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบธรรมชาติไปจนถึงเทคนิคการคั่วบาร์เลย์ด้วยไฟที่อุณหภูมิ 232 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและครองใจนักดื่มทั่วโลกได้อย่างน่าประทับใจ กินเนสส์จึงอาจจะไม่ใช่เพียงเครื่องดื่ม แต่เป็นการได้รับประสบการณ์ผ่านรสชาติที่หาที่ไหนไม่ได้นั่นเอง

นอกจากกินเนสส์จะได้รับความนิยมในหมู่คนไอริชและทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยเองก็นิยมไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน เห็นได้จากการวางจำหน่ายกินเนสส์ดราฟต์ในเอาต์เล็ตกว่า 200 แห่ง เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยก็หลงใหลในเสน่ห์ของสเตาต์ระดับตำนาน และในเร็ว ๆ นี้ กินเนสส์เตรียมนำอีเวนต์สุดพิเศษมาเสิร์ฟคนไทยด้วยการจัดงาน Guinness Time: St. Patrick’s Day Festival ที่จะเนรมิตพื้นที่ใจกลางสีลมให้เต็มไปด้วยบรรยากาศเฟสติวัลสไตล์ไอริชที่ผสมผสานเข้ากับเสน่ห์แบบไทยได้อย่างลงตัว

โดยในอีเวนต์ครั้งนี้มีกิจกรรมพิเศษที่จะชวนทุกคนมาร่วมจอยกับโซนคนรักสายอาร์ตอย่าง Art of Guinness ที่นำกิจกรรม Live Painting โดยศิลปินไทย Bully Boy (IG: wuko.g) ที่ผสมผสานสตรีทอาร์ตแบบไทยเข้ากับศิลปะร่วมสมัย ในคอนเซปต์ Let’s Celebrate Together เพื่อสะท้อนเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรมของทั้งไทยและไอร์แลนด์ และสำหรับใครที่เป็นสายจอยเวิร์กช็อปเขาก็มี Guinness Art Space พื้นที่ที่ให้กลุ่มคนรักศิลปะอย่างเราได้มาร่วมสนุกกับกิจกรรมวาดภาพลงบนแก้วกินเนสส์, พวงกุญแจ DIY และออกแบบผ้าพันคอลายใบแชมร็อก ซึ่งกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในงาน Guinness Time: St. Patrick’s Day Festival ถือเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรมของสองประเทศได้เป็นอย่างดี

ตามมาร่วมสนุกกับอีเวนต์สุดพิเศษที่จะเต็มไปด้วยสีสันแห่งการเฉลิมฉลอง ได้ในวันที่ 20-21 มีนาคม 2568 ที่ลานหน้า Park Silom สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ IG:guinness.th