ท่ามกลางงานศิลปะมากมายภายในงาน ‘The Armory Show’ อาร์ตแฟร์เก่าแก่ของชาวนิวยอร์ก ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 1994 ก็ได้มีบูธหนึ่งที่สะดุดสายตาของทุกคนภายในงานทันที่ที่มองเห็น นั่นก็คือบูธของ ‘โจนาธาส เดอ อันดราเด (Jonathas de Andrade)’ ศิลปินร่วมสมัยชาวบราซิล ที่นำเอากางเกงในแฟนเก่าถึง 68 ตัวมาซีลไว้อย่างดีในถุงสุญญากาศ แล้งแขวนไว้เพื่อขายให้ทุกคนในงาน ด้วยราคา 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,700,000 บาท
ซึ่งที่มาของกางเกงในเหล่านี้ก็มาจากแฟนเก่าของตัวศิลปินเอง ที่มักทิ้งกางเกงในไว้ในบ้านของเขาเสมอ เขาก็เลยปิ๊งไอเดีย และนำมาทำเป็นงานศิลปะแบบจัดวางเสียเลย ทำให้ใครที่ผ่านมาเห็นก็รู้สึกสะดุดตาและอดที่จะตั้งคำถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “นี่เขามีคนรักมากขนาดนี้เลยหรอ?” หรือ “หรือนี่จะเป็นภาพเหมือนของคนอกหักหรือเปล่า?” กับอีกหลายสารพัดคำถามที่ชวนให้นึกถึงชีวิตรักอันน่าสงสัยของศิลปิน และแน่นอนว่าไม่มีคำตอบใดที่ได้รับการยืนยันจากปากเขาเลย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผลงานชิ้นนี้ต้องการจะสื่อออกมาจริง ๆ ก็คือเรื่องราวเบื้องหลังของชาว LGBTQ+ ในประเทศบราซิล ที่ยังคงไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองเรซิฟี (Recife) ที่ศิลปินอยู่อาศัย ดังนั้นการที่เขาทำผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา ก็เท่ากับเขาได้ยอมรับว่าตัวเองเป็น LGBTQ+ และมีคนอีกมากมายในเมืองนี้ ประเทศนี้ และโลกนี้ ที่ก็เป็นเหมือนกัน (วัดจากปริมาณกางเกงใน)
ผลงานชิ้นนี้ ไม่ใช่ผลงานชิ้นแรกที่ศิลปินใช้สื่อถึงการเป็น LGBTQ+ เพราะเขาเคยทำงานศิลปะจัดวางชื่อ ‘Achados e Perdidos (Lost and Found)’ ซึ่งเขาแกะสลักชิ้นส่วนของร่างกายท่อนล่างผู้ชายจากดินเหนียว และประดับด้วยกางเกงในหลายสไตล์
เฟรด วอน บูลโลว์ (Fred Von Bullow) ฝ่ายขายประจำแกลเลอรี São Paulo ได้ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า “ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในเมืองริโอ หรือ เซา เปาโล การเป็นเกย์จะเป็นเรื่องที่ยากและลำบากกว่ามาก เพราะเรายังมีเรตการฆาตกรรมที่สูงอยู่”
อ้างอิง
https://news.artnet.com/.../jonathas-de-andrade-armory...