ย้อนความหลังว่าด้วย Dune ฉบับ David Lynch ชวนดูเบื้องหลังหนังเนินทรายฉบับตราบาปของ เดวิด ลินช์

Post on 24 January

ในตอนที่ Dune ฉบับผู้กำกับ เดวิด ลินช์ ออกฉายเมื่อปี 1984 หรือเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน มันถูกแปะตราบาปว่าเป็นหนังที่ทั้งน่าเบื่อ เชื่องช้า และเย็นชา เมื่อเทียบกับหนังมหากาพย์ไซไฟร่วมยุคอย่าง Star Wars ที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ เร้าใจ และดูสดใสกว่า ซึ่งในที่สุดแล้ว ผลงานการดัดแปลงนวนิยายคลาสสิกขึ้นหิ้งปี 1965 ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต เป็นหนังฟอร์มยักษ์โดยผู้กำกับอินดี้ (ในยุคนั้น) ก็ถูกตอกฝาโลงด้วยการเป็นหนังยักษ์ที่ขาดทุนย่อยยับ (รายรับ 30 ล้านดอลลาร์จากทุนสร้างเกือบ 50 ล้าน) พร้อมกับคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์และคนดูในยุคนั้นที่สาปส่งแบบไม่เผาผี

ความตลกร้ายก็คือ หนังที่ขาดทุนยับเรื่องนี้กลับเป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในลิสต์หนังของปู่เดวิด ลินช์ (ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อดูจากรายชื่อหนังเรื่องอื่น ๆ ของลินช์ที่ล้วนเป็นหนังฟอร์มเล็กเน้นความหลอนเฮี้ยนแบบไม่ปรานีคนดูตามสไตล์ปู่) และแม้กระทั่งตัวลินช์เองก็ยังสับแหลกหนังตัวเอง และแทบไม่เคยพูดถึง Dune ฉบับของตัวเองอีก นอกจากครั้งหนึ่งที่เคยที่ปู่เคยทอดถอนใจว่า “เมื่อมองย้อนกลับไป มันไม่ใช่ความผิดของใครเลยนอกจากผมเพียงผู้เดียว ผมไม่น่าไปกำกับหนังเรื่องนั้นเลย แต่ตอนนั้นผมเห็นความเป็นไปได้มากมายที่จะได้ทำสิ่งที่ผมรัก และผมก็เห็นเค้าโครงความเป็นไปได้ในการทำสิ่งเหล่านั้น มันมีพื้นที่ให้ได้ลองสร้างโลกทั้งใบขึ้นมา แต่ผมได้รับคำแนะนำจากโปรดิวเซอร์ที่ชี้มาแล้วว่าพวกเขาอยากให้หนังออกมาเป็นแบบไหน และผมก็รู้ดีว่าหนังเวอร์ชันสมบูรณ์มันจะไม่ใช่หนังแบบที่ผมอยากให้เป็นเลย”

แต่เช่นเดียวกับหนังไซไฟยุค 80s ทั้งหลาย เมื่อเวลาผ่านไป Dune ฉบับเดวิด ลินช์ กลับค่อย ๆ ได้รับการยอมรับในหมู่ผู้ชมยุคหลัง หนังมหากาพย์อวกาศที่เคยถูกนำมาเปรียบเทียบว่าเป็นแฝดมืดกาสะลองซ้องปีบกับ Star Wars กลับค่อย ๆ ได้รับการยอมรับในแง่ของเรื่องราวที่สะท้อนความมืดหม่นและจินตนาการดาร์กหลอนได้อย่างถึงเครื่อง ในขณะที่ซีจีที่เคยถูกตราหน้าว่าราคาถูกและดูโหล่ยโท่ยก็กลับไปโดนเส้นเหล่าคนชอบดูหนังคัลต์ และทำให้ Dune ฉบับเดวิด ลินช์ กลายเป็นหนึ่งในหนังคัลต์ไซไฟขึ้นหิ้งของยุค 80s

เนื่องในโอกาสที่ Dune ฉบับผู้กำกับ เดนิส วีญเนิร์ฟ กำลังเข้าฉายอยู่ในโรงและเดินหน้ากวาดคำวิจารณ์ด้านการเล่าเรื่องและงานซีจี (รวมไปถึงความ ‘ไอ้ต้าว’ ของนุ้ง ทิโมธี ชาลาเมต์) เราจึงขอรวบรวมภาพเบื้องหลังการสร้าง Dune ฉบับเดวิด ลินช์ มาให้ชมกัน

Fun Fact

  1. ก่อนเดวิด ลินช์ จะเข้ามารับตำแหน่งผู้กำกับ หนังเคยวางตัว ริดลีย์ สก็อตต์ ที่กำลังขึ้นหม้อจาก Alien ให้มากำกับ แต่หลังจากอยู่กับกระบวนการโปรดักชันมาได้ 7 เดือน สก็อตต์ก็โบกมือลาไม่เอาแล้วจ้า แล้วไปทำ Blade Runner (1982) แทน

  2. เดวิด ลินช์ ปฏิเสธตำแหน่งผู้กำกับในหนัง Star Wars ภาค Return Of The Jedi เพื่อมากำกับ Dune

  3. แพทริค สจ๊วร์ต (aka โปรเฟสเซอร์ ชาร์ลส์ เซเวียร์ จาก X-Men) ได้มารับบท เกอร์นีย์ ครูฝึกของพระเอก พอล ในหนังเรื่องนี้ เพราะลินช์คิดว่าเขาคือ แพทริค สจ๊วร์ต อีกคน กว่าจะรู้ว่าผิดตัวก็ใกล้เปิดกล้องแล้ว เลยต้องเลยตามเลย

  4. Dune ฉบับในฝันของเดวิด ลินช์ ยาว 4 ชั่วโมง…

  5. ก่อนจะเป็นเดวิด ลินช์ โปรดิวเซอร์เคยไปทาบทาม อเลฮานโดร โจโดโรว์สกี แห่งหนังเซอร์เรียลสุดเมากาว The Holy Mountain (1973) ให้มากำกับเรื่องนี้ ซึ่งเราเกือบจะได้ดู Dune ฉบับโจโดโรว์สกีที่มี ซัลบาดอร์ ดาลี มาเล่น และมีเพลงประกอบจาก Pink Floyd กันแล้ว ติดอยู่อย่างเดียวคือโจโดโรว์สกียืนยันว่ายังไง Dune เวอร์ชั่นของเขาก็ต้องยาว 14 ชั่วโมง! โปรดิวเซอร์เลยไม่เอาด้วย

  6. Dune คือหนังเรื่องแรกของพระเอก ไคล์ แม็คคลาเคน และหลังจากที่ล่มหัวจมท้ายไปกับลินช์ในหนังยักษ์ล้มเรื่องนี้ เขาก็กลายเป็นพระเอกคู่บุญของลินช์ที่ไปผจญภัยต่อด้วยกันในหนังหลอนเฮี้ยนของลินช์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Blue Velvet (1986) หรือซีรีส์ Twin Peaks (1990 - 2017)

อ้างอิง : Behind the scenes of David Lynch's disowned science-fiction film 'Dune' from 1984