ว่ากันว่าประวัติศาสตร์อยู่รอบตัวเรา ปะปนอยู่กับสิ่งคุ้นตาที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเก่าแก่ ต้นไม้ใหญ่ วัดวาอาราม หรือถนนใกล้บ้านที่เราเดินผ่าน ทุกมุมล้วนซ่อนเรื่องราวให้สืบค้นต่อยอดสู่ประวัติศาสตร์ผืนใหญ่ที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น และนั่นเองที่ทำให้ชาว GROUNDCONTROL ตอบรับคำชวนจาก SKECHERS ออกไปเดินเล่นยามเช้ากับกิจกรรม SKECHERS GOWALK CLUB CITY TOURS EXPERIENCE WITH SKECHERS GOWALK 8 กิจกรรมที่ไม่ได้มีแค่การเดิน แต่ยังเป็นการพาไปรู้จักรากเหง้าของย่านเก่าในกรุงเทพฯ ผ่านมุมมองที่ใกล้ชิดและอบอุ่นกว่าที่เคย

เมื่อถึงวันนัดหมาย ทีม GroundControl ก็ไปรวมตัวกันที่จุดนัดพบ One Bangkok เพื่อพบปะกับเพื่อน ๆ ร่วมทริป รวมไปถึงนักเล่าเรื่องคนสำคัญอย่าง คุณโอ เล่าไปเรื่อย ที่จะมาทำหน้าที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้พวกเราฟังกัน โดยทริปนี้ทาง SKECHERS เขาได้แบ่งทัวร์ออกแบบสามเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางสายมูเตลู เส้นทางสายเสน่ห์ชุมชนย่านบางลำภู และเส้นทางสาย Street Art ตลาดน้อย ซึ่งเส้นทางที่ชาว GroundControl ได้เดินทางไปก็คือเส้นทางย่านบางลำพูนั่นเอง

จุดหมายแรกที่พวกเราเดินเท้าไปถึงคือ สวนสันติชัยปราการ ที่ตั้งของ ป้อมพระสุเมรุ หนึ่งในสองป้อมที่ยังคงอยู่ (อีกแห่งคือ ป้อมมหากาฬ) ที่นี่พวกเราได้ทำความรู้จักกับ ‘ต้นลำพู’ ต้นไม้เก่าแก่ที่ยืนต้นมาตั้งแต่สมัยก่อนน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ก่อนจะถูกปลูกขึ้นใหม่ในภายหลัง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาดและความทรงจำ เพราะต้นลำพูสามารถอยู่ได้ในน้ำจืดและน้ำกร่อย หากบริเวณไหนมีต้นลำพูแสดงว่าเป็นน้ำสะอาด

จากนั้นเราก็ไปกันต่อที่ ถนนพระสุเมรุ ย่านของกินที่แค่เดินเข้าไปใกล้นิด ๆ ก็ได้กลิ่นอาหารอบอวลแบบไม่ซ้ำสัญชาติ ซึ่งเมื่อเดินเลี้ยวเข้ามาอีกหน่อยเราก็จะเจอกับซอยชนะสงครามอันเงียบสงบ ที่ตั้งของต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์อายุ 200 ปี ไม่ใกล้ไม่ไกลกันคือ วัดชนะสงคราม เดิมชื่อ วัดตองปุ (ภาษารามัญของพม่า) ก่อนถูกเปลี่ยนชื่อใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังชัยชนะครั้งสำคัญใน สงครามเก้าทัพ วัดแห่งนี้จึงกลายเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนที่มาขอพรทั้งเรื่องการสอบ การงาน หรือแม้แต่ชัยชนะในชีวิตประจำวัน คุณโอยังเล่าอีกว่า อุโบสถ ของวัดคือหัวใจสำคัญ และถูกล้อมรอบด้วยใบเสมาที่มีสัญลักษณ์แทนสามเหล่าทัพประดับอยู่ ได้แก่ สิงโต แทนถึง กองทัพบก, นาคา แทนถึง กองทัพเรือ, ครุฑ แทนถึง กองทัพอากาศ บ่งบอกถึงความผูกพันระหว่างศาสนากับบ้านเมือง

เมื่อออกจากวัด เราก็เดินผ่าน สน.ชนะสงคราม และมุ่งสู่ ถนนจักรพงษ์ ตั้งชื่อตามเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาศ พระโอรสของรัชกาลที่ 5 แล้วต่อด้วย ถนนรามบุตรี ที่ในอดีตเคยเป็นสะพานข้ามคลอง ก่อนจะกลายมาเป็นถนนสายสำคัญของย่านเก่า เดินต่อมาอีกไม่นาน พวกเราก็มาถึง ถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่เต็มไปด้วยความคึกคัก และยังเคยปรากฏในภาพยนตร์ฮอลลีวูดอย่าง The Beach และ Hangover 2 จากนั้นจึงทะลุไปยัง ถนนสิบสามห้าง ศูนย์รวมของวัยรุ่นยุค 2500 ที่ครั้งหนึ่งเคยคึกคักด้วยร้านค้าของชาวจีนกวางตุ้ง เปรียบเสมือน ‘สยามสแควร์’ ของวันวาน เต็มไปด้วยเรื่องเล่าทั้งแสงสี เสียงหัวเราะ และตำนานยุคอันธพาลครองเมือง

ถนนเส้นต่อไปคือ ถนนตานี ที่ได้ชื่อจากชาวมุสลิมปัตตานีซึ่งมาตั้งรกราก หนึ่งในร้านที่เป็นที่รู้จักที่สุดคือ ร้านอาอีซะฮ์ อาหารดั้งเดิมที่อบอวลด้วยรสชาติและประวัติศาสตร์ จากนั้นเรามุ่งหน้าเข้า ตรอกสุเหร่า ที่ซ่อน มัสยิดจักรพงษ์ มัสยิดเก่าแก่ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ตั้งชื่อตาม

ก่อนปิดท้ายทริป เรายังได้ผ่าน ห้างตั้งฮั่วเส็ง และ ห้างนิวเวิลด์ พร้อมหยุดแวะชิม ขนมเบื้องแม่ประภา ขนมโบราณที่ยังคงรสชาติเหมือนวันวาน และจบลงอย่างอบอุ่นที่ ร้าน Tiracano ใน ตรอกไก่แจ้ ร้านเล็ก ๆ ที่เหมือนห้องนั่งเล่น ปล่อยให้เราได้พักขาและทบทวนความทรงจำที่เพิ่งได้รับ เพราะทุกการเดินเท้าในย่านบางลำพูครั้งนี้ เหมือนกำลังได้เดินอ่านหนังสือที่มีชีวิตไปทีละหน้า เป็นอีกหนึ่งกิจวัตรสบาย ๆ ยามเช้า ที่ถ้ามีโอกาสก็อยากสัมผัสอีกสักรอบจริง ๆ