จากซีรีส์ตีแผ่ปัญหาและความรุนแรงในรั้วโรงเรียนด้วยประเด็นสุดคลาสสิคที่พบเห็นได้ในสังคมอย่างการล่วงละเมิดทางเพศ การให้ค่าความงาม หรือการผลักให้เด็กแข่งขันกันเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคม ผ่านบอกเล่าของเด็กนักเรียนสุดลึกลับที่ชื่อ ‘แนนโน๊ะ’ ก้าวเข้าสู่การเดินทางครั้งใหม่ในฐานะ Netflix Original Series อย่างเต็มตัว

‘เด็กใหม่’ ซีซั่น 2 นี้ แนนโน๊ะกลับมาอีกครั้งด้วยการขยายประเด็นทางสังคมในวงกว้างที่มีความเข้มข้นและไปไกลกว่าซีซั่นก่อนหน้า ถึงแม้จะยังคงคอนเซ็ปต์ภายในร้ัวโรงเรียนเช่นเดิม แต่ ‘โรงเรียน’ ในครั้งนี้ กลับเป็นมากกว่าแค่พื้นที่ทางการศึกษา ครอบคลุมถึงพื้นที่ในสังคมจากระดับเล็กถึงโครงข่ายอำนาจในวงกว้างที่ฝังรากลึก เกี่ยวพันเป็นวงเดียวกัน

การเปิดตัวบนเน็ตฟลิกซ์ ส่งผลให้ความคิดสร้างสรรค์ในแง่ของการถ่ายทำ ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน และเป็นอิสระ สร้างความแปลกตาและแปลกใหม่จากซีซั่นที่แล้ว ในแต่ละตอนของเรื่องมีการใช้ภาษาภาพอย่างเหนือชั้น ช่วยขับเน้นเรื่องเล่าล้อไปกับจังหวะสับขาหลอกให้ผู้ชม รวมถึงมีการใช้เทคนิคภาพสีขาวดำในตอนหนึ่งของซีรีส์ เพื่อตอบรับกับคอนเซ็ปต์เรื่องที่ว่าด้วยการพาตัวเองออกจากกฎเกณฑ์เดิม ๆ มีการเปิดเผยความรุนแรงอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงเลือดเนื้อและฉากอันอุกอาจอย่างตรงไปตรงมา จนอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่ปลอดภัยตามตัวละครไปด้วย นอกจากนี้ในซีซั่น 2 ยังสอดแทรกเหตุการณ์และคำพูดที่เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบันทั้งในทางตรงและทางอ้อม

ถึงแม้ความรุนแรงในซีรีส์จะมีการบิดเบือนไปจากความเป็นจริงเช่นการที่ผู้ชายสามารถตั้งครรภ์ได้ รวมถึงเหล่าตัวละครในบางตอนที่แสดงออกทางอารมณ์ด้วยความเล่นใหญ่เหมือนฉากในละครเวที แต่สิ่งเหล่านี้ กลับสะท้อนความไม่ปกติของสังคมได้เป็นอย่างดี ความเกรี้ยวกราดที่ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน อาจเป็นภาพแทนความคิดที่ปะทุขึ้นในตัวของผู้คนปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากการถูกกดทับด้วยสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยกฎต้องห้ามมากเกินจำเป็น

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของเด็กนักเรียนคนใหม่ที่ชื่อ ‘ยูริ’ และคำถามถึง ‘ความถูกต้อง’ กลับทำให้แนนโน๊ะผู้เป็นเหมือนพระเจ้าที่คอยพิพากษาการกระทำของผู้คนอย่างเด็ดขาดต้องสั่นคลอน เกิดเป็นส่วนผสมทางอารมณ์ระหว่างแนนโน๊ะเวอร์ชันที่อ่อนข้อลง กับยูริที่พยายามจะดันตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดของอำนาจ ทำให้มวลรวมของเรื่องราวในครั้งนี้ ไม่สุดโต่งเท่าซีซั่นที่ผ่านมา

อาจมองได้ในอีกมุมหนึ่งว่า ผู้ชมเองก็มีสถานะเป็นผู้พิพากษาอยู่หน้าจอเช่นเดียวกับแนนโน๊ะและยูริ เราต่างมีทั้งความสับสนและความเด็ดขาดในเวลาเดียวกัน มาตรวัดที่เราใช้ตัดสินตัวละคร จึงกลายเป็นความคิดที่สะท้อนตัวตนของเราเอง และถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้ชี้นำสังคมในด้านใดเป็นพิเศษ แต่ก็อาจช่วยให้เราตระหนักรู้ และกล้าที่จะตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันผ่านมุมมองในหลายมิติมากขึ้น

‘เด็กใหม่ ซีซั่น 2’
ฉายแล้ววันนี้ใน Netflix

คลิกเพื่อรับชมตัวอย่างซีรีส์