20211027_GC_Bullentin_Jodorowsky's Dune_Cover copy.jpg

อยากดูไหม Dune ความยาว 14 ชม. ที่มีดาลีร่วมแสดง? สำรวจความทะเยอทะยานทางภาพยนตร์ของโจโดโรว์สกีที่เคยเกือบถูกสร้างจริงเมื่อ 50 ปีที่แล้ว

Post on 6 May

ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งรายได้และเสียงวิจารณ์ไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Dune ภาพยนตร์ไซไฟจากฝีมือของผู้กำกับ เดนิส วีญเนิร์ฟ ที่ไปหยิบเอาบทประพันธ์ในตำนานจากปี 1965 ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต มาปัดฝุ่นใหม่ และถ่ายทอดในสไตล์เฉพาะตัวจนกำเนิดเป็นภาพยนตร์ไซไฟที่มีรสชาติที่น่าสนใจไม่ซ้ำใคร ถือเป็นการล้างอาถรรพ์ของ Dune เวอร์ชั่น 1984 โดยผู้กำกับสุดล้ำ เดวิด ลินช์ ที่แป๊กสนิทด้านรายได้ (แต่คัลต์ถูกใจคนรักภาพยนตร์หลาย ๆ คน) ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

แต่นอกจาก Dune เวอร์ชั่นลินช์แล้ว ก่อนหน้านั้นก็มีความพยายามที่จะดัดแปลงบทประพันธ์สุดคลาสสิคนี้เป็นภาพเคลื่อนไหวทั้งบนจอแก้วและจอเงินอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็คงไม่มีครั้งไหนจะทะเยอทะยานและพา Dune ออกเดินทางไปได้ไกลมากเกินกว่าเวอร์ชั่นของ อเลฮานโดร โจโดโรว์สกี ผู้กำกับขวัญใจสายคัลต์ที่เคยฝากผลงานสุดเซอร์เรียลไว้ใน El Topo (1970) และ The Holy Mountain (1973) จนขึ้นหิ้งหนังคัลต์ระดับตำนานมาแล้ว อย่างไรก็ดี มันก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ Dune ของโจโดโรว์สกีไม่เคยเกิดขึ้นจริง คงเหลือไว้เพียงไอเดียอันยิ่งใหญ่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างสรรค์ทั่วทั้งโลก

หลังจากได้รับการติดต่อให้มาตีความและถ่ายทอด Dune (ที่ในขณะนั้นถือว่าเป็นนิยายไซไฟที่ประสบความสำเร็จในระดับ Bestseller แล้ว) ในรูปแบบภาพยนตร์ขนาดยาวในช่วงปี 1974 โจโดโรว์สกีจึงเดินเครื่องติดต่อทีมงานจากหลากหลายสาขาให้มาร่วมเนรมิตโลกทะเลทรายแห่งนี้ให้มีชีวิตโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มภายใต้โลกเหนือจินตนาการของเขา เริ่มตั้งแต่ ฌ็อง จีโรด์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Moebius ศิลปินและนักวาดการ์ตูนชื่อดังที่เข้ามาดูแลในส่วนการออกแบบตัวละครและการสร้างสตอรี่บอร์ดทั้งหมด, คริส ฟอส นักวาดภาพประกอบสายวิทยาศาสตร์ที่รับหน้าที่ออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ต ทั้งฉาก สถาปัตยกรรม และยานพาหนะต่าง ๆ และ ฮาแอร์ กีเกอร์ ศิลปินสายชีวกลศาสตร์ที่เข้ามาช่วยเสริมทัพสร้างตัวละครกึ่งจักรกลอีกแรง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็เต็มไปด้วยสไตล์อันจัดจ้านตรงตามใจของโจโดโรว์สกีแทบทุกประการ

นอกจากความทะเยอทะยานด้านงานภาพแล้ว โจโดโรว์สกียังรวบรวมเอาแคสต์ระดับตัวท็อปของแต่ละวงการมาใส่ไว้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ออร์สัน เวลส์ ผู้กำกับ นักเขียนบท และนักแสดงชั้นครูในบทบารอน ฮาร์คอนเนน, มิก แจ็กเกอร์ ฟรอนท์แมนแห่งวง The Rolling Stones ในบทเฟย์ดรอทา ฮาร์คอนเนน และซัลบาดอร์ ดาลี ศิลปินเซอร์เรียลิสม์ชื่อดังในบทจักรพรรดิพาดิชา ชาดดัมที่สี่ ที่จบดีลค่าตัวในการร่วมถ่ายทำไปสูงถึง $100,000 ต่อชั่วโมง แม้จะมีซีนปรากฏตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาดาลีก็ถูกถอดออกจากแคสต์เนื่องจากการออกตัวสนับสนุนฟรานซิสโก ฟรังโก ผู้นำเผด็จการของสเปนในขณะนั้น)

ไม่ใช่แค่ทีมนักแสดงเท่านั้นที่โจโดโรว์สกีคัดสรรมาอย่างน่าสนใจ แต่แม้แต่ดนตรีประกอบภาพยนตร์เขายังไปทาบทามวง Magma วงโปรเกรสซีฟร็อกจากฝรั่งเศส และวง Pink Floyd วงไซคีเดลิกร็อกจากเกาะอังกฤษที่กำลังมาแรงสุด ๆ จากความสำเร็จของอัลบั้ม The Dark Side of the Moon (ซึ่งมีกลิ่นอายทางดนตรีที่เข้ากับโลกหลอนประสาทตามจินตนการของโจโดโรว์สกีอย่างเหมาะเจาะ) เรียกได้ว่า Dune ในเวอร์ชั่นนี้ ‘ไปสุด’ ทุกทางจริง ๆ

อย่างไรก็ดี แม้โจโดโรว์สกีและทีมงานจะลงมือเตรียมงานสร้างมาถึง 2 ปีครึ่ง แต่เมื่อเขานำแผนเหล่านี้ไปนำเสนอกลับไม่มีสตูดิโอแห่งไหนยินดีลงทุนให้เขาเลยแม้แต่ที่เดียว แม้จะเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของ Dune ในฉบับนี้ก็ตาม เนื่องจากมันต้องใช้งบในการผลิตที่สูงลิ่วเกินศักยภาพของสตูดิโอไปไม่น้อย นอกจากนั้นโจโดโรว์สกียังตั้งใจให้ Dune ของเขามีความยาวถึง 14 ชั่วโมง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะไม่มีสตูดิโอไหนกล้าเสี่ยงไปพร้อมกับเขา เป็นอันจบสิ้นตำนานความล้ำของภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่อลังการที่ไม่เคยได้สร้างจริง

แม้โปรเจกต์จะถูกพับเก็บไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่หลงใหลในความคัลต์สุดจัดจ้านของ Dune เวอร์ชั่นนี้จนมีการหยิบยกขึ้นมาพูดถึงและถกเถียงอยู่บ่อย ๆ โดยในปี 2013 ก็มีการสร้างภาพยนตร์สารคดีในชื่อ Jodorowsky's Dune ออกมา ซึ่งนอกจากมันจะเปิดเผยให้เห็นภาพเบื้องหลังและกระบวนการทำงานของโจโดโรว์สกีและทีมงานระหว่างช่วงเตรียมการสร้างแล้ว ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ยังทำให้เราได้เข้าใจวิสัยทัศน์สุดแปลกแหวกขนบของโจโดโรว์สกีได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยในท่อนหนึ่งเขาได้กล่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้ต้องการจะ ‘เคารพ’ นิยาย ผมต้องการจะสร้างสรรค์มันขึ้นมาใหม่” ซึ่งนี่เองน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลังจากเขาได้ชมตัวอย่างภาพยนตร์ Dune ฉบับ 2021 ของวีญเนิร์ฟแล้ว โจโดโรว์สกีในวัย 92 ปีจะให้ความคิดเห็นกลาง ๆ ว่า “มันถูกสร้างมาอย่างดีมาก แต่ทุกอย่างสามารถคาดเดาได้มากเกินไป” เพราะแม้ว่ามันจะยังเต็มไปด้วยลายเซ็นการเล่าเรื่องในแบบเฉพาะตัวของวีญเนิร์ฟอย่างเด่นชัด แต่เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นของโจโดโรว์สกีแล้ว Dune ของวีญเนิร์ฟก็ยังคงไว้ซึ่งความเคารพต่อบทประพันธ์ต้นฉบับอยู่ไม่น้อย

อ้างอิง:
https://www.duneinfo.com/
https://www.inverse.com/entertainment/dune-jodorowsky-villeneuve
https://marketresearchtelecast.com/it-would-change-the-mind-with-lsd-effects-and-it-had-pink-floyd-and-dali-the-psychedelic-version-of-dune-by-jodorowsky-the-best-film-that-never-saw-the-light/164744/
https://www.denofgeek.com/movies/the-fall-and-rise-of-alejandro-jodorowskys-dune/