แม้ว่างาน Pakk Taii Design Week 2025 ที่สงขลาใกล้จะจบลงแล้ว แต่ภาพจำ สีสัน และความหรอยแรงในปีนี้ก็ยังคงชัดเจนและประทับอยู่ในใจเรา ด้วยคอนเซปต์ South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน (หวันหมายถึงสวรรค์) ที่หยิบเอาของดีและเอกลักษณ์ของทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้มาถ่ายทอดและสะท้อนถึงการเป็นพื้นที่แห่งความผ่อนคลาย สบายใจ และเยียวยาใจ ทำให้การหลบบ้านมาใต้ครั้งนี้ของเราที่นอกจากจะได้กลับไปกินข้าวฝีมือแม่แล้ว ก็ยังได้มาเดินเล่นดูงานออกแบบที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและได้รู้จักจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้เพิ่มขึ้นด้วย

Pakk Taii Design Week 2025 เป็นงานที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่สาม ภายใต้การดูแลของ CEA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ที่ร่วมกับภาครัฐ เอกชน นักออกแบบในพื้นที่ รวมไปถึงคุณลุง คุณป้าจากร้านค้าในชุมชนต่าง ๆ มาร่วมแจมร่วมจอยให้งานเทศกาลออกแบบปักษ์ใต้ในครั้งนี้คึกคักและเรียกสีสันให้สมกับที่เป็นคนใต้แบบจัดเต็ม

และก่อนที่งานจะจบลงในวันที่ 7 กันยายนนี้ เราขอพาทุกคนไปเดินเล่นในตัวเมืองสงขลาผ่านถนนนครนอก ถนนนครใน ถนนนางงาม รวมไปถึงในอำเภอหาดใหญ่ ตามเราไปดูงานออกแบบและนิทรรศการเก๋ ๆ จากศิลปิน นักออกแบบ และกลุ่มนักสร้างสรรค์ที่ขนทั้งทัพกันมาโชว์เสน่ห์ของจังหวัดตัวเองพร้อมกันได้เลย

📍นครศรีธรรมราช
นิทรรศการ: Hip & Holy - เมืองแห่งศรัทธา
สถานที่: วัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร (วัดกลาง)

คนคอนทำถึงมาก! สำหรับนิทรรศการ Hip & Holy ที่นำเสนอเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา เพราะอย่างที่รู้กันว่านครศรีธรรมราชเขาเด่นเรื่องการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะวัดดังอย่างวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ที่เป็นหมุดหมายของสายมูทั้งหลาย

สำหรับนิทรรศการนี้เป็นการทำงานร่วมกันของกลุ่มนักสร้างสรรค์ Creative Nakhon ทั้งศิลปิน นักออกแบบ สถาปนิก นักเขียน ที่หยิบเอาเรื่องความเชื่อความศรัทธามาขยายต่อให้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่แห่งความสบายใจ

จากโจทย์ที่ได้รับจากทีมคิวเรเตอร์พวกเขาได้ตีความให้นครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่แห่งแสงและสี เพื่อสร้างความบายใจให้กับผู้ชม โดยในนิทรรศการนี้จะจัดขึ้นในพื้นที่ของวัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร ซึ่งบอกเลยว่าเป็นความพอเหมาะพอดีที่เกิดมาคู่กับการจัดแสดงงานมาก ๆ โดยเฉพาะพื้นที่จัดแสดงที่อยู่ใน พาวิเลียนในชื่อ แกนกลางแห่งความสงบ (Axis of Silence) ออกแบบโดยนิ่ม-แก้วตระการ จุลบล ที่ถ้าใครได้มาตอนกลางคืนก็จะได้เห็นการจัดแสงสีที่สวยสะกดตา โดยพาวิเลียนนี้ศิลปินหยิบแนวคิดเรื่องของการหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอกมาสู่ความสงบภายในจิตใจ

ตัวโครงสร้างพาวิเลียนได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดพระมหาธาตุที่จะมีการสร้างเป็นเลเยอร์ให้เห็น โดยศิลปินเลือกใช้ผ้ามาเล่นกับแสงสี และมีกิจกรรมให้ผู้ชมได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชิ้นงานไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ โยคะ ดนตรีบำบัด และการแสดง Performance Art ซึ่งแต่ละกิจกรรมสามารถเลือกเข้าร่วมได้ตามวันเวลาที่กำหนดสามารถติดตามได้ที่เพจ Pakk Taii Design Week

นอกจากตัวพาวิเลียนแล้วก็ยังมีโซนนิทรรศการจากนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่หยิบเอาของขึ้นชื่อจากนครศรีธรรมราชมาถ่ายทอดเป็นผลงานต่าง ๆ และวางจำหน่ายในพื้นที่จัดแสดงงานด้วย

📍สุราษฎร์ธานี
นิทรรศการ: Island Frequencies: Music, Art & Paradise
สถานที่: ห้องสมุด ยับ เอี่ยน ฉ่อย และด้านข้าง

สายปาร์ตี้ชอบความบันเทิงรื่นเริงใจต้องแวะที่นี่ สุราษฎร์ธานีกับพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่ตอบโจทย์คอนเซปต์เทศกาลออกแบบปักษ์ใต้ ‘มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน’ ของปีนี้ได้อย่างเข้มแข็ง รู้ไหมว่านอกจากสุราษฎร์จะมีหมู่เกาะที่โดดเด่นและชูภาพลักษณ์การเป็นแหล่งบันเทิงของทั้งนักท่องเที่ยวและคนไทยแล้ว ที่นี่ยังโดดเด่นในแง่ของศิลปะ วัฒนธรรม ชุมชน และการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วย

นิทรรศการ Island Frequencies: Music, Art & Paradise จะชวนเราเข้าไปสัมผัสกับ 3 เกาะสุดเก๋จากสุราษฎร์ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ผ่านการเปลี่ยนพื้นที่ห้องสมุด ยับ เอี่ยน ฉ่อย และบริเวณด้านข้างให้กลายเป็นงานศิลปะจัดวางที่หยิบเอกลักษณ์ของแต่ละเกาะมานำเสนอ โดยเชื่อมโยงเรื่องของดนตรี ศิลปะ ชุมชน และผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน แต่ละจุดจะเป็นการหยิบวัสดุธรรมชาติ เศษขยะจากเกาะต่าง ๆ มาสร้างเป็นงานศิลปะ โดยขยะเหล่านี้ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มชาวประมงจากทั้ง 3 เกาะ ผู้ประกอบการบนเกาะสมุย และน้อง ๆ นักเรียน ซึ่งถือว่าเป็นงานศิลปะที่ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมกับงานครั้งนี้ด้วย

ภายในนิทรรศการจะมีการจัดแสดงดนตรี การแสดงวาดภาพสด และมีการจัดแสดงแสงไฟให้ผู้ชมได้เห็นบรรยากาศทะเลสุราษฎร์ยามค่ำคืนด้วย สำหรับใครที่อยากแวะไปชมการแสดงในเทศกาล Island Frequencies สามารถแวะไปชมได้ตั้งแต่เวลา 17:00 - 21:45 น. และวันสุดท้ายชมได้ตั้งแต่ 18:00 - 20:30 น.

📍สงขลา
นิทรรศการ: Mermaid Song.exe
สถานที่: ภิญโญลิฟวิ่ง

ลบภาพจำนางเงือกสงขลาไปก่อนได้เลย เพราะนี่คือนิทรรศการที่จะพาทุกคนเข้าไปรู้จักนางเงือกในอีกมิติ กับการนำเสนอรูปปั้นนางเงือกที่มาพร้อมกับการผสมผสานของเทคโนโลยีได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ เพราะนางเงือกแบบใหม่ที่จัดแสดงอยู่ที่ชั้นสองของภิญโญลิฟวิ่ง เป็นงานที่จะถอดเสียงของนางเงือกออกมาผ่านไฟล์ข้อมูล ซึ่งข้อมูลนั้นก็ได้มาจากการไปสัมภาษณ์คนสงขลาหลากหลายเจเนอเรชัน ทั้งเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับนางเงือก

ประติมากรรรมนางเงือกเวอร์ชันนี้ ได้หยิบเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาขยะและทะเลมาเล่า วัสดุที่ใช้ในการทำทั้งหมดมาจากขยะเหลือใช้ไม่ว่าจะเป็นขวดพลาสติก เศษอะลูมิเนียมจากท่อแอร์ ลวดทองแดง และมีการหยิบกิ่งต้นสนของหาดสมิหลามาใช้ในส่วนหนึ่งของชิ้นงาน พร้อมกับการนำผักตบชวาโดยช่างฝีมือของสงขลามาทำเป็นชิ้นส่วนของแขนและมือ

ความสนุกของงานชิ้นนี้คือการที่เขาหยิบเรื่องการทำงานร่วมกับ AI chatbot มาเล่นกับผู้ชม โดยที่เราสามารถถามคำถามหรือพูดอะไรก็ได้ที่ต้องการ นางเงือกก็จะประมวลผลและตอบเรากลับมาด้วยภาษาใต้แบบที่ว่า แหลงใต้ชับเปรียะเลยล่ะ (คนที่พูดภาษาใต้เก่ง พูดได้ไว) ใครอยากลองเปิดมุมมองในการดูนางเงือกรูปแบบใหม่ต้องไม่พลาดปักหมุดนิทรรศการนี้เลย

📍ปัตตานี
นิทรรศการ: WAQAF
สถานที่: ลานโรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ ถนนนางงาม

ผลงานอีกหนึ่งชิ้นที่เราชอบมาก ๆ ก็คือ WAQAF (วากัฟ) จังหวัดปัตตานี โดยทีมนักสร้างสรรค์ Malayu Living ที่หยิบเอาแนวคิดเรื่องการเป็นพื้นที่พักผ่อนและสร้างความสบายใจมาถ่ายทอดผ่านงานสถาปัตยกรรมในรูปแบบของวากัฟที่หมายถึงศาลา

ศาลาเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ของคนในสังคม ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม โดยตัวหลังคาทำจากเศษผ้ามือสองเหลือทิ้ง ที่สะท้อนถึงความไม่สมบูรณ์ ส่วนถ้าเดินเข้าใต้หลังคาจะมีผลงานปลาตานี ที่นำเรื่องราวของสายพันธุ์ปลาในปัตตานีมาถ่ายทอดลงบนผ้าผืนขนาดยาว โดยใช้เทคนิคการย้อมครามที่ใช้ดินมาแทนเทียนไขในการกั้นพื้นที่ย้อม ส่วนด้านหลังสุดจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของวากัฟออกมาเป็นผลงานแกะสลักไม้สามมิติ แล้วก็ยังมีผลงานชิ้นอื่น ๆ จากทีมนักออกแบบ สถาปนิก และศิลปินจากปัตตานีอีกเพียบ

📍พังงา
นิทรรศการ: ห้องยาเจริญอ่านเภสัช
สถานที่: สวีท พิสต้า x บลูสไมล์

ถ้าเจ็บป่วยทางกายให้กินยาที่หมอจ่าย แต่ถ้าเจ็บป่วยทางใจให้แวะมาที่เจริญอ่านเภสัช ห้องยาบำบัดที่ใช้หนังสือในการรักษาอาการป่วย โดย Soul Friend & Spiritual Garden Studio ร้านหนังสืออิสระจากเขาหลัก จังหวัดพังงา ที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ร้านสวีท พิสต้า x บลูสไมล์ มาเป็นร้านขายหนังสือ โดยทางคุณไปป์-ธวิศรุต บุรพัฒน์ และ คุณเฟิน-ชนชญา ไชยอิ่นคำ สองผู้ก่อตั้ง หยิบไอเดียจากร้านขายยามาใช้ โดยจินตนาการว่า ถ้าร้านขายยาไม่ได้ให้คำปรึกษาหรือจ่ายยาทางกาย แต่เป็นการเยียวยาใจแทนจะเป็นยังไง

โดยวิธีการก็คือ การสร้างสถานการณ์สมมติให้เหมือนว่า เรากำลังมารับคำปรึกษาจากคุณหมอ ในร้านขายยาก็จะมีใบเขียนอาการ แล้วให้เราเลือกติ๊กอาการความเจ็บป่วย จากนั้นแพทย์ที่ดูแลอาการก็จะมาประเมินอาการป่วยของเรา พร้อมกับแนะนำหนังสือเล่มที่เหมาะสมที่สุดให้กับเรา นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะช่วยฮีลใจภายในร้านยาเจริญอ่านเภสัชทั้งกิจกรรมนั่งสมาธิ โยคะ การบำบัดด้วยเสียง และเวิร์กช็อปของชำร่วยจากวัสดุท้องถิ่นด้วย

📍ตรัง
นิทรรศการ: ลิ้มรสตรัง
สถานที่: Area36

คนตรังเขากินกัน 9 มื้อไม่เกินจริง! นี่คือนิทรรศการที่จะพาไปดูความอุดมสมบูรณ์ของอาหารที่คนตรังกิน และจะพาเราไปสำรวจความหลากหลายของวัฒนธรรมที่ผสมผสานเข้ากันในจังหวัด ทั้งจากไทย จีน และมุสลิม ผ่านเมนูอาหาร เครื่องปรุง เมนูที่เกิดขึ้นจากพิธีกรรม ความเชื่อต่าง ๆ โดยเป็นการนำเสนอผ่านผลงานการออกแบบไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ปิ่นโต จาน ชามจากเซรามิกที่หยิบลวดลายมาจากผ้าปาเต๊ะซึ่งบอกเลยว่าเป็นลวดลายที่สวยและมีรายละเอียดให้ส่องเยอะมาก

และนอกจากนิทรรศการหลักของตรังแล้ว ทุกคนสามารถแวะเดินเล่นในพื้นที่ Area36 ก็ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อป นิทรรศการ และศิลปะการจัดวางภายในคอมมูนิตี้นี้ด้วย

📍ระนอง
นิทรรศการ: แรร์นอง
สถานที่: ไททัน โปรเจ็กต์ สเปซ

สัมผัสเสน่ห์และการบอกเล่าความแรร์ของเมืองระนอง เมืองที่ถึงแม้จะเล็กแต่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม ผ่านนิทรรศการ Immersive Mineral Bath ที่เนรมิตบรรยากาศเหมือนว่าเรากำลังนั่งอยู่ในบ่อน้ำแร่ ท่ามกลางป่าขณะฝนตก พร้อมกับเปิดประสบการณ์ฟังเสียง Sound Design และกลิ่นจาก SAN Maison Recycle Art Sculpture แบรนด์เครื่องหอมจากสงขลาที่ชวนเราเข้าไปดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองระนองแบบเต็มรูปแบบทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิตของผู้คน และบรรยากาศความเป็นเมืองฝน 8 แดด 4

📍ชุมพร
นิทรรศการ: ล่องเสียงเล
สถานที่: Studio 55 ชั้น 2 ถนนนครนอก

ชุมพร จังหวัดที่ติดอันดับเมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์เบอร์ต้นของไทย โดยเฉพาะเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ของทะเล ซึ่งในงานเทศกาลออกแบบปักษ์ใต้ปีนี้ ทางทีมนักออกแบบจาก Hear and Found เลยหยิบเรื่องราวของทะเลมาบอกเล่าเป็นนิทรรศการภาพและเสียงให้ผู้คนได้สัมผัสทะเลชุมพรในมองที่ลึกขึ้น โดยหนึ่งในนักออกแบบได้เล่าว่า ส่วนใหญ่คนจะรู้จักทะเลชุมพรในภาพของการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ในนิทรรศการนี้ พวกเขาอยากนำเสนอว่าจริง ๆ แล้วทะเลชุมพรโดดเด่นทั้งในเรื่องการเป็นแหล่งอาหารและทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญเช่นกัน

ภายในนิทรรศการจะมีการนำเสนอทั้งเรื่องของเสียงจากคลื่นและชายหาดของทะเลชุมพร พร้อมกับภาพถ่ายทางน้ำที่เห็นสัตว์ใต้ทะเลจากการบันทึกจริงของทีมนักออกแบบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทุกคนได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดูแลทะเลอ่าวไทยในเวอร์ชันของตัวเองด้วย

📍อำเภอหาดใหญ่
นิทรรศการ: มาหาเสน่ห์ - C'MON SANEHA
สถานที่: ย่านเสน่หานุสรณ์, หาดใหญ่

อยู่สงขลากันมานานพอสมควรแล้ว เราขอพาทุกคนนั่งรถจากเมืองเก่าสงขลามาต่อกันที่หาดใหญ่กับนิทรรศการ มาหาเสน่ห์ - C'MON SANEHA ที่จัดบริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งงานนี้เป็นเหมือนโมเดลต้นแบบที่ให้คนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักออกแบบ ศิลปิน และชุมชนได้โชว์ศักยภาพของเมืองหาดใหญ่ พร้อมทั้งปลุกย่านคืนสีสันให้หาดใหญ่กลับมาคึกครื้นอีกครั้ง
.
สำหรับการจัดแสดงงานให้ครั้งนี้ทีม Hatyai Connext ได้รวบรวมกลุ่มศิลปินและนักออกแบบในพื้นที่มาร่วมกับเปลี่ยนพื้นที่ห้างเก่าแก่อย่างลีการ์เดนส์พลาซ่าให้เป็นครีเอทีฟสเปซ เพื่อเชื่อมโยงผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วมกับงานให้ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดสายอาร์ต คอมมูนิตี้คนรักกาแฟ การจัดแสดงงานศิลปะ โดยงานเหล่านี้ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไม่ซ้ำกิจกรรมกัน
.
นอกจากนี้ก็ยังมีห้างสรรพสินค้าโอเดียน ที่นำเสนอนิทรรศการเรื่องราวของย่านและนำเสนอศิลปินคาบาเร่ต์โชว์เพื่อให้ทุกคนเห็นสีสันของหาดใหญ่ในมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น อย่างงานที่เราชอบมาก ๆ ในพื้นที่หาดใหญ่รอบนี้ก็คือการที่เขาพาไปดูเรื่องราวของพี่ ๆ ที่ทำการแสดงคาบาเร่ต์โชว์ เหมือนได้เห็นความสวยงามของการแสดงและการถ่ายทอดประสบการณ์ของพี่ ๆ กลุ่มความหลากหลายทางเพศ ทำให้เราได้เข้าใจและสัมผัสกับวิถีชีวิตของพวกเขามากขึ้นด้วย