ถ้าพูดถึงคริสต์มาสในเยอรมนี ภาพที่หลายคนนึกถึงคงเป็น แสงไฟอบอุ่น ขนมหวานหอมหวาน และตลาดคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยสีสัน แต่รู้ไหมว่าตลาดคริสต์มาสเยอรมันนั้นมีประวัติยาวนานกว่า 500 ปี เพราะประเทศเยอรมนีถือเป็นบ้านเกิดของตลาดคริสต์มาสยุคใหม่ที่เราเห็นกันทั่วโลก โดยเฉพาะ Striezelmarkt ในเดรสเดน ซึ่งจัดครั้งแรกในปี 1434 ตลาดนี้กลายเป็นต้นแบบที่รวมของกิน งานฝีมือ และของขวัญ เข้ากับบรรยากาศเทศกาลอย่างลงตัว

ตลาดคริสต์มาสดั้งเดิมเริ่มจากการเป็น ‘วันตลาดพิเศษ’ สำหรับซื้ออาหารและสิ่งจำเป็นในช่วงเทศกาล แต่ไม่นานนัก แผงขายของขวัญ ขนมอบ และของตกแต่งก็เริ่มปรากฏเข้ามา ทำให้ตลาดธรรมดากลายเป็นงานเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและบรรยากาศของการเฉลิมฉลองช่วงเวลาสุดพิเศษ

และรู้หรือไม่ว่า ต้นคริสต์มาสที่เราเห็นทุกวันนี้ ก็มีต้นกำเนิดมาจาก มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) นักบวชชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียงจากการเป็น ผู้นำการปฏิรูปศาสนาคริสต์ในศตวรรษที่ 16

มาร์ติน ลูเธอร์ไม่ได้เป็นแค่คนวิพากษ์โบสถ์ แต่ยังเป็นนักคิดและนักปฏิรูปทางสังคมที่อยากให้เทศกาลคริสต์มาสมีความหมายมากขึ้นสำหรับครอบครัวและเด็ก ๆ เขาจึงคิดค้นไอเดียใหม่ ๆ อย่างการตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยแสงไฟเล็ก ๆ เพื่อจำลองดวงดาวที่ส่องผ่านป่า และการสร้างตัวละคร Christkind (พระกุมารเยซู) ให้มาแจกของขวัญแทนการเน้นนักบุญนิโคลัส (St. Nikolaus) หรือซานตาคลอสแบบเดิม

ไอเดียของเขาไม่เพียงทำให้ต้นคริสต์มาสและตลาดคริสต์มาสเยอรมันมีเอกลักษณ์ แต่ยังส่งอิทธิพลไปทั่วโลก จนกลายเป็นประเพณีที่เรารู้จักกันทุกวันนี้

และต่อไปนี้คือสามสิ่งที่เราจะพบได้ที่ตลาดคริสต์มาสเยอร์มันเท่านั้น และทำให้การไปเยือนตลาดคริสต์มาสเยอรมันคือการเดินทางย้อนเวลาเพื่อสัมผัส ‘ต้นกำเนิด’ และดื่มด่ำกับประเพณี ศิลปะ และประวัติศาสตร์ของการฉลองคริสต์มาส

Glühwein เครื่องดื่มแห่งความอบอุ่นที่สืบทอดมานับพันปี

เครื่องดื่มยอดนิยมประจำเทศกาลคริสต์มาสนี้เป็น ไวน์ร้อนที่ต้มพร้อมเครื่องเทศ อบเชย และน้ำส้ม มอบทั้งรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสร้างบรรยากาศเทศกาลให้สดใสในฤดูหนาว

Glühwein ในรูปแบบใกล้เคียงกับที่ดื่มกันทุกวันนี้ มีหลักฐานเก่าแก่ที่สุดปี 1420 คำว่า Glühwein แปลตรงตัวว่า ‘ไวน์ที่เรืองแสง’ หรือ ‘ไวน์ร้อนจนเปล่งประกาย’ สื่อถึง ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านทั่วร่างกาย

เอกลักษณ์น่าสนใจที่พ่วงมากับการดื่ม Glühwein ก็คือแก้ว Glühwein ประจำตลาด ซึ่งมักมีลวดลายหรือดีไซน์เฉพาะของตลาดในแต่ละปี เราสามารถเก็บแก้วไว้เป็นของที่ระลึกก็ได้ ถือเป็นธรรมเนียมที่ทำให้ตลาสคริสต์มาสเยอรมันสนุกและแตกต่างจากที่อื่น

Stollen ขนมปังคริสต์มาสเยอรมันที่ ‘ห่อตัว’ ด้วยประวัติศาสตร์และรสชาติ

ขนมปังสโทเลน (Stollen) เป็นขนมปังคริสต์มาสแบบดั้งเดิมของเยอรมนี มีต้นกำเนิดย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 14 ในแคว้นซัคเซิน ขนมปังชนิดนี้เป็นขนมปังยีสต์รสหวาน ภายในสอดไส้ด้วยผลไม้แห้ง เปลือกส้มเชื่อม ถั่ว และมักมีมาร์ซิแพน (Marzipan) ปรุงรสด้วยเครื่องเทศอบอุ่น เช่น ลูกจันทน์เทศ กานพลู และขิง

สโทเลนมักถูกปั้นเป็นทรงยาวและพับเป็นลักษณะที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เปรียบเสมือนพระกุมารเยซูที่ถูกห่อตัวในผ้าห่อตัวทารก ด้านนอกเคลือบด้วยน้ำตาลไอซิ่งหรือผงน้ำตาลอย่างหนา ซึ่งเปรียบเสมือนหิมะในฤดูหนาวและเสริมสัญลักษณ์ของพระกุมาร ทำให้สโทเลนเป็นขนมประจำเทศกาลคริสต์มาสที่ขายในตลาดคริสต์มาสเยอรมัน และถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของคริสต์มาสในเยอรมนี

Nutcracker (Nussknacker) ตุ๊กตาทหารหาญ สัญลักษณ์แห่งความโชคดีในวันคริสต์มาส

Nutcracker ในรูปแบบที่เราคุ้นเคยมีต้นกำเนิดจาก Erzgebirge หรือ “ป่าแร่” ในแคว้นซัคเซินของเยอรมนี เดิมชาวบ้านทำเหมืองเป็นอาชีพหลัก แต่เมื่อเหมืองถดถอย พวกเขาหันมาแกะสลักไม้เป็น งานหัตถกรรมฤดูหนาว โดย Nutcracker กลายเป็นหนึ่งในผลงานเด่นที่สุด

ในช่วงแรก Nutcracker เป็นเพียงเครื่องมือกะเทาะถั่ว แต่ด้วยสีสันสดใสและเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาส ตุ๊กตาเหล่านี้มักถูกแกะสลักเป็น ทหาร กษัตริย์ หรือผู้พิทักษ์ และตามความเชื่อพื้นบ้านของเยอรมนี พวกมันไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่ง แต่ยังถือเป็นผู้พิทักษ์บ้านที่ช่วยขับไล่วิญญาณร้ายและนำโชคดีมาให้ในช่วงฤดูหนาว

สัมผัสเทศกาลคริสต์มาสแบบเยอรมันที่สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย

ตลาดคริสต์มาสเยอรมัน คือเสน่ห์แห่งประเพณีและวัฒนธรรมอันอบอุ่น ของฤดูหนาวยุโรปที่มีมายาวนาน ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและผู้คนทุกวัยให้มาสัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษ ทุกคนสามารถลิ้มลอง อาหารและเครื่องดื่มประจำเทศกาล เช่น ขนมปัง Stollen หรือไวน์ร้อน Glühwein เคล้ากับเสียงเพลงจากการแสดง ดนตรีสด ทำให้ความอบอุ่นท่ามกลางหิมะของตลาดคริสต์มาสมีเอกลักษณ์และน่าประทับใจ

ในวันที่ 29 - 30 พฤศจิกายนนี้ ทุกคนสามารถมาสัมผัสเทศกาลคริสต์มาสแบบเยอรมันได้ด้วยตัวเอง ผ่านอาหารและเครื่องดื่มประจำเทศกาลที่ สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย สาทรซอย 1 (MRT ลุมพินี ทางออก 2) พร้อมเลือกซื้อของฝากแฮนด์เมดจากกว่า 50 บูธ เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีสด และร่วมกิจกรรมคริสต์มาสสำหรับทุกเพศทุกวัย

ราคาบัตรเข้าชมงาน:

📍ผู้ใหญ่ 100 บาท
📍ครอบครัว 120 บาท (สำหรับผู้ใหญ่ 1 ท่าน และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี สูงสุด 5 คน)

สามารถจองบัตรล่วงหน้าได้ผ่าน Ticket Melon