45 ปีการต่อสู้ที่ควังจู ย้อนดูศิลปะการต่อสู้ของเกาหลีใต้ สะท้อนมองขบวนการเคลื่อนไหวไทยในคลื่นประชาธิปไตยโลก

Post on 9 June 2025

“ฉันจำช่วงเวลาที่จ้องมองไปที่ใบหน้าที่ถูกทำลายของหญิงสาวคนหนึ่งได้ดี ใบหน้าของเธอถูกแทงด้วยดาบปลายปืน มีบางสิ่งที่เคยสวยงามอยู่ภายในตัวฉันแตกสลายลงอย่างเงียบ ๆ มันจางหายไปทั้งแบบนั้น โดยไม่ทันรู้ตัว บางสิ่งที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่นั่น” ฮัน คัง นักเขียนชาวเกาหลีใต้เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ประจำปี 2024 เคยเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวของเธอกับเหตุการณ์ ‘สังหารหมู่ที่ควังจู’ (Gwangju Uprising) (สำนวนแปลโดยวันวิสาข์ โปทอง) หนึ่งในเหตุการณ์สะเทือนขวัญของโลก ที่ครบรอบ 45 ปี ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้

เหตุการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ ที่เปลี่ยนผ่านประเทศจากระบอบเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตย เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้แบบเสียเลือดเนื้อที่ยืนยันหลักการอย่างความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และการปกครองของประชาชน รวมทั้งเป็นความทรงจำที่หลอกหลอน และแทรกซึมอยู่ในตัวตนของชาติอีกด้วย ไม่ได้มีแค่โลกวรรณกรรมที่บันทึกความรู้สึกสะพรึงจากเหตุการณ์นั้นเอาไว้ ภาพยนตร์อย่าง A Petal (1996) เล่าประสบการณ์เสียแม่ไปจากการสลายการชุมนุมนั้นของเด็กหญิงอายุ 15 ปี หรือ The Old Garden (2006) ที่เล่าเรื่องราวของนักกิจกรรมวัยมหาวิทยาลัย ในวันที่ต้องเลือกระหว่างความรักกับการทำกิจกรรมต่อสู้เผด็จการ เหตุการณ์

แน่นอนว่าเหตุการณ์ระดับนี้ส่งผลต่อโลกศิลปะด้วยเช่นเดียวกัน ขบวนการเคลื่อนไหวทางศิลปะ-การเมืองอย่าง “Minjung Art” เติบโตขึ้นหลังเหตุการณ์นี้ ศิลปินหลายคนได้รวมตัวกันเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์สังคมและต่อต้านการปกครองโดยทหาร และเมื่อเวลาผ่านไปก็ยังมีงานรำลึกที่สำคัญอย่าง เทศกาลศิลปะ “Gwangju Biennale” ที่เริ่มต้นขึ้นส่วนหนึ่งเพื่อสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นในสังคมเกาหลีหลังเหตุการณ์สังหารหมู่

วันนี้เหตุการณ์ผ่านมา 45 ปีแล้ว GroundControl เลยอยากชวนมาทำความเข้าใจเหตุการณ์นี้ ผ่านงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ความหลากหลายของศิลปินที่ทำงานศิลปะ Minjung, บทบาทของงานอย่าง Gwangju Biennale ที่มีต่อความทรงจำนี้, ไปจนถึงอนุสรณ์สถานและงานศิลปะสาธารณะที่จดจำเหตุการณ์นี้อย่างเป็นทางการ

เกิดอะไรขึ้นที่ควังจู?

ปลายปี 1979 ชอน ดูฮวาน (Chun Doo-hwan) ผู้บัญชาการความมั่นคงกลาโหม (ขณะนั้น) ทำการรัฐประหารและขึ้นเป็นผู้นำเกาหลีใต้ในรูปแบบเผด็จการ ประกาศกฎอัยการศึก จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพข้อมูลข่าวสาร จับกุมประชาชนผู้เห็นต่าง และใช้กฎหมายสร้างความหวาดกลัว

18 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองควังจู กลุ่มนักศึกษารวมตัวกันชุมนุม ตำรวจและทหารเข้าสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง มีผู้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมสนับสนุนการชุมนุม ทหาร อากาศยาน รถถัง ถูกระดมใช้เพื่อปราบปรามผู้ชุมนุม

การชุมนุมยืดเยื้อยาวนาน ประชาชนจัดตั้งกองกำลังพลเรือนได้ ด้วยอาวุธที่ยึดมาจากคลังแสงและการปะทะกับทหาร เหตุการณ์จบลงในวันที่ 27 พฤษภาคม เมื่อกองกำลังปราบปรามเฉพาะกิจ 20,000 นาย ล้อมปราบ สังหารหมู่ผู้ชุมนุมอย่างโหดเหี้ยม มีผู้เสียชีวิตนับร้อย หรืออาจเป็นพัน

แล้วการชุมนุมก็จบลง ชอน ดูฮวาน กระชับอำนาจขึ้นอีกหลังเหตุการณ์นี้…

สมาชิกกลุ่ม Reality and Utterance ในปี 1982 ภาพจาก [HAKGOJAE GALLERY](https://koreajoongangdaily.joins.com/2020/07/10/culture/artsDesign/Reality-and-Utterance-Hakgojae-Gallery-40th-anniversary/20200710160700484.html)

สมาชิกกลุ่ม Reality and Utterance ในปี 1982 ภาพจาก HAKGOJAE GALLERY

ผลงาน Vindictive Spirits โดย Shin Yun-bok ภาพจาก [https://en.artsdot.com/@@/D49Q6U-Shin-Yoon-Bok-Vindictive-Spirits](https://en.artsdot.com/@@/D49Q6U-Shin-Yoon-Bok-Vindictive-Spirits)

ผลงาน Vindictive Spirits โดย Shin Yun-bok ภาพจาก https://en.artsdot.com/@@/D49Q6U-Shin-Yoon-Bok-Vindictive-Spirits

Korea Modern History-Gwangju โดย Shin Hak Chul ภาพจาก  [https://en.artsdot.com/@@/D49Q6U-Shin-Yoon-Bok-Vindictive-Spirits](https://en.artsdot.com/@@/D49Q6U-Shin-Yoon-Bok-Vindictive-Spirits)

Korea Modern History-Gwangju โดย Shin Hak Chul ภาพจาก https://en.artsdot.com/@@/D49Q6U-Shin-Yoon-Bok-Vindictive-Spirits

“ศิลปะประชาชน”

การชุมนุมถูกปราบปรามลง ขบวนการศิลปะหนึ่งเริ่มเบ่งบานขึ้น

ศิลปะมินจอง (Minjung Art : 민중미술) หรือ “ศิลปะประชาชน” คือขบวนการทางศิลปะในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งมักสนับสนุนประชาธิปไตยและความเท่าเทียม เชิดชูชนชั้นแรงงานด้วยภาพจากชีวิตประจำวันทั่วไปหรือธรรมชาติ และต่อต้านจักรวรรดินิยมและรัฐบาลอำนาจนิยม

แนวทางศิลปะแบบนี้เริ่มต้นจากกลุ่ม ‘ความเป็นจริงและวาจา’ (Reality and Utterance: 현실과 발언) ซึ่งต้องการนำศิลปะกลับเข้ามาสัมพันธ์กับความเป็นจริง และวิพากษ์วิจารณ์สังคมเกาหลี โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากนิทรรศการในชื่อเดียวกับกลุ่มเมื่อปี 1980 กับศิลปินอย่าง Lim Ok-sang, Min Joung-Ki, Oh Yoon และ Son Jang Sup ก่อนที่จะกลายเป็นองค์กรขนาดใหญ่ เป็นสหกรณ์ศิลปะประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มศิลปินผู้ทำงานศิลปะประชาชนจำนวนมาก

ศิลปินจำนวนมากในแนวนี้ ใช้เทคนิคภาพพิมพ์ไม้สร้างผลงาน ในแนวทางภาพแบบสัจนิยมสังคมนิยม ถ่ายทอดความเป็นจริงของชีวิตคนทำงาน เช่นภาพ “Cotton Gloves” ของ Jung-yeob Jung ซึ่งเป็นถุงมือคนงาน ห้อยอยู่บนราวตาก ด้วยตัวหนีบข้างหนึ่งสีแดง อีกข้างสีเขียว สะท้อนคนงานเพศหญิงและชายผู้สัมผัสพื้นผิวดิบแข็งหยาบกร้านของถุงมือนี้ ตามแต้มจุดดำที่ขรุขระในภาพของเขา

หรือภาพพิมพ์ไม้ขนาดเล็กชุด “Dawn” ของ Hong Sung Dam ก็แสดงฉากเดือด ๆ อย่างหญิงสาวผู้แบกก้อนหินมาเต็มอ้อมแขน ปลุกระดมมวลชนให้พุ่งไปยังรถยนต์ที่ลุกไหม้อยู่กลางเมือง หรือภาพตำรวจในเครื่องแบบจัดเต็มสองนาย กระชากหัวหญิงสาว ในขณะที่เท้าอีกคนเหยียบอยู่บนหน้าท้องของเธอ ในมือทั้งสองมีกระบองพร้อมฟาดสุดแรง หรือภาพลูกที่อยู่กับศพของแม่ ภาพเหล่านี้บันทึกได้ทั้งความรุนแรงของเหตุการณ์ และความรู้สึกสะเทือนใจจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น

Cotton Gloves โดย Jung-yeob Jung ภาพจาก [https://www.frieze.com/article/minjung-art-influence-south-korean-contemporary-art](https://www.frieze.com/article/minjung-art-influence-south-korean-contemporary-art)

Cotton Gloves โดย Jung-yeob Jung ภาพจาก https://www.frieze.com/article/minjung-art-influence-south-korean-contemporary-art

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ภาพพิมพ์ไม้โดย Hong Song-dam

ควังจูเบียนนาเล่: จากการเยียวยาสู่การวิจารณ์ประเด็นปัญหาร่วมสมัย

15 ปีหลังจากเกิดเหตุการณ์ เทศกาลควังจูเบียนนาเล่ (Gwangju Biennale) ถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลศิลปะรูปแบบเบียนนาเล่ (จัดขึ้นทุกสองปี) ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะร่วมสมัย

เทศกาลนี้เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในตอนนั้น และในขณะเดียวกันงานศิลปะร่วมสมัยเอง ก็สามารถมีส่วนในการเยียวยาบาดแผลทางใจที่มาจากเหตุการณ์นั้นได้อีกด้วย ผ่านการแสดงออกทางศิลปะ และแนวความคิดที่อยู่ในนั้น โดยที่ยังคงสร้างบทสนทนากับประเด็นปัญหาในโลกร่วมสมัยอีกด้วย โดยได้ศิลปินทั้งจากในท้องถิ่นเองและจากต่างชาติมาร่วมกันจัดแสดงผลงานที่นั่น

ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ กระบวนการคัดสรรศิลปะของควังจูเบียนนาเล่ สะท้อนความทรงจำและการรับรู้ต่อเหตุการณ์ผ่านศิลปะที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่การพยายามรำลึกและจดจำ การเยียวยาบาดแผล การเชื่อมโยงเหตุการณ์เข้ากับบริบทประวัติศาสตร์การลุกฮือของโลก ไปจนถึงการนิยาม “จิตวิญญาณแบบควังจู” และการขยายบทสนทนาจากเมืองนี้ไปสู่ประเด็นปัญหาร่วมสมัย

หนึ่งในปีที่โด่งดังที่สุดของงานนี้คือ ควังจูเบียนนาเล่ครั้งที่ 10 เมื่อปี 2014 ที่ตั้งชื่อตามเพลงดังของวงดนตรีนิวเวฟอังกฤษว่า “Burning Down the House” ซึ่งใช้ไฟ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งการทำลายล้าง แต่ก็หมายถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ได้ด้วยเหมือนกัน

การแสดง "Navigation ID" โดย Minouk Lim กระตุ้นความทรงจำและสำรวจผลกระทบจากความรุนแรงทางการเมืองตั้งแต่ประวัติศาสตร์สงครามเกาหลี โดยพาร่างไร้ชีวิตของผู้คนที่ถูกสังหารหมู่ อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ เดินทางมายังสถานที่จัดงานเบียนนาเล่ ซึ่งมีขบวนแห่ของแม่ผู้สูญเสียลูกไปในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ควังจูร่วมอยู่ในการแสดงนั้นด้วย แสดงสภาวะของประวัติศาสตร์ที่รอการชำระให้ผู้คนเห็นเป็นรูปธรรมกับตา

และศิลปินมินจองอย่าง Hong Sung Dam เองจริง ๆ ก็จะร่วมแสดงงานภาพวาดผนังในงานนี้ด้วย เป็นภาพล้อเลียนประธานาธิบดีเกาหลีขณะนั้น แต่กลับถูกนำออก และประธานเบียนนาเล่ก็ลาออกไปด้วย รวมทั้งในช่วงนั้นก็มีเหตุการณ์เรือข้ามฟากเกาหลีใต้ เอ็มวี เซว็อลล จม ทำให้ความตึงเครียดระหว่างศิลปะ และการเรียกร้องความรับผิดชอบทางการเมืองยิ่งเข้มข้นสูงขึ้นไปอีก

การแสดง Navigation ID โดย Minouk Lim

การแสดง Navigation ID โดย Minouk Lim

การแสดง Navigation ID โดย Minouk Lim

การแสดง Navigation ID โดย Minouk Lim

การแสดง Navigation ID โดย Minouk Lim

การแสดง Navigation ID โดย Minouk Lim

อนุสรณ์สถาน

รัฐบาลเกาหลีใต้ในปี 1997 จดจำเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งนั้นอย่างเป็นทางการด้วยการสร้าง “สุสานแห่งชาติ 18 พฤษภาคม” อุทิศให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น

ที่นั่น เสาสูง 40 เมตรสองต้นตั้งขนานกัน เป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ ด้วยลักษณะที่ดูคล้ายเสาธงแบบเกาหลี สื่อไปถึงชีวิต การอยู่รอด และความหวัง และยังมีงานศิลปะอีกจำนวนมาก เพื่อรำลึกถึงประชาชนควังจูผู้ลุกขึ้นสู้ในเหตุการณ์ รวมไปถึงประติมากรรมทองเหลือง แสดงฉากประชาชนผู้จับอาวุธขึ้นต่อสู้อำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม

May 18th Memorial Monument ภาพจาก [https://commons.wikimedia.org/wiki/File:May_18th_Memorial_Monument.jpg](https://commons.wikimedia.org/wiki/File:May_18th_Memorial_Monument.jpg)

May 18th Memorial Monument ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:May_18th_Memorial_Monument.jpg

ประวัติศาสตร์เปรียบเทียบ

ประเทศไทยเองก็เคยมีเหตุการณ์ที่รัฐปราบปรามการลุกขึ้นสู้ของประชาชนอย่างรุนแรงมาแล้วมากมาย กับสถานะและความหมายที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลา “วันมหาวิปโยค”, 6 ตุลา “การสังหารหมู่”, เหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ”, มาจนถึง “สงกรานต์เลือด-พฤษภาเลือด” โดยบ่อยครั้ง ประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ก็เป็นเรื่องเล่าคู่ขนานที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบเส้นทางการเปลี่ยนผ่านการปกครองไปสู่ประชาธิปไตย

ในปี 2016 ผลงานศิลปะ ‘มวลมหาประชาชน’ ของสุธี คุณาวิชยานนท์ ถูกจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะ The Truth_ to Turn It Over ที่หอศิลปะเมืองควังจู ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ที่ควังจูเมื่อปี 1980 ผลงานโปสเตอร์ที่มีองค์ประกอบภาพชวนให้นึกถึงงานสัจนิยมสังคมนิยม ด้วยสัญลักษณ์อย่างกำปั้น และสร้างขึ้นจากรูปทรงที่เรียบง่าย ใช้สีแบนเรียบ ชวนให้นึกถึงงานอาวองการ์ดฝ่ายซ้าย โดยมีคำอย่าง "ปฏิรูปก่อน" "ไทยอย่าเฉย" "ยึดคืนประเทศไทย" "อย่ากลับด้านประเทศไทย" ชุดนี้ สร้างขึ้นแบบให้ผู้ชมมีส่วนร่วม ในการชุมนุม กปปส. ระหว่างปี 2556-2557 เป็นการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์การชุมนุมในประเทศไทยเข้ากับประวัติศาสตร์ที่ควังจู อย่างไรก็ตาม การเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ขบวนการเคลื่อนไหวสองเรื่องนี้ ก็อาจแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสองเหตุการณ์นี้ด้วย

“ระหว่างการชุมนุมประท้วงปิดเมืองกรุงเทพฯ ของ กปปส. สุธีและเพื่อนศิลปินได้จัดกิจกรรม Art Lane เพื่อระดมทุนให้ขบวนการเคลื่อนไหว กปปส. แทนที่จะส่งเสริมประชาธิปไตยและการปกครองโดยรัฐบาลพลเรือน ผลงานของเขาที่นำไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจูเป็นผลงานที่ทำขึ้นระหว่างร่วมชุมนุมกับ กปปส. อันนำพาความถดถอยของประชาธิปไตยไทย อาทิ โปสเตอร์ที่ใช้เทคนิคฉลุลาย เสื้อยืดสำหรับผู้สนับสนุน กปปส. และ อื่น ๆ ศิลปิน กปปส. ยึดถนนเพื่อปิดกั้นการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งก่อชนวนเปิดโอกาสให้ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และเปลี่ยนจากประเทศที่มีอนาคตที่สดใสทางประชาธิปไตย กลับกลายเป็นการควบคุมโดยสมบูรณ์จากชนชั้นสูงและปกครองโดยทหารตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 [...] นิทรรศการของสุธีไม่เพียงแต่เป็นการดูหมิ่นขบวนการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยของไทยและ ประวัติศาสตร์การพัฒนาประชาธิปไตย แต่หมายรวมถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของชาวกวางจูเมื่อ 18 พฤษภาคม” นักกิจกรรมวัฒนธรรมเพื่อประชาธิปไตย" (กวป.) เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู สำหรับนิทรรศการนี้

อย่างไรก็ตามสุธี ได้ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเขาไม่ได้เป็นการสนับสนุนทหาร แต่คือการแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น และ “เผด็จการมีอยู่ในทุกรูปแบบ ทั้งในรูปแบบทหารและพลเรือน”

ผ่านมาแล้ว 45 ปี เส้นทางการเปลี่ยนแปลงความหมายของประวัติศาสตร์เหตุการณ์ที่ควังจู สะท้อนไปกับงานศิลปะในแต่ละยุคสมัย รวมทั้งการตีความที่เปรียบเทียบกับเมืองไทย สำหรับความรุนแรงในไทยที่เกิดขึ้นมากมาย ที่หลายเหตุการณ์อาจผ่านมานานกว่าครึ่งศตวรรษ อนุสรณ์สถานจะสามารถเกิดขึ้นได้ไหม? หน้าตาอย่างไร? เราควรตีความอย่างไร? มีความเหมือนหรือต่างระหว่างแต่ละขบวนการอย่างไร? เชื่อว่าอ่านถึงตรงนี้ทุกคนคงมีคำตอบคร่าว ๆ ในใจบ้างแล้ว รอไปขุดค้นศึกษาต่อ

The Truth_ to Turn It Over ภาพจาก [https://prachatai.com/journal/2016/06/66298](https://prachatai.com/journal/2016/06/66298)

The Truth_ to Turn It Over ภาพจาก https://prachatai.com/journal/2016/06/66298

อ้างอิง

วันวิสาข์ โปทอง. ฮัน คัง : นักเขียนรางวัลโนเบลชาวเกาหลีใต้ ผู้ตีแผ่ความชอกช้ำทางจิตวิญญาณผ่านงานประพันธ์ระดับโลก. thepeople. Published October 11, 2024. Accessed May 15, 2025. https://www.thepeople.co/social/global-citizen/54138
จักรกริช สังขมณี. 40 ปี การสังหารหมู่ที่ควังจู: ช็อนดูฮวัน ภาพความทรงจำ และความยุติธรรมที่ยังเปลี่ยนไม่ผ่าน. The 101 World. Published May 18, 2020. Accessed May 15, 2025. https://www.the101.world/gwangju-uprising/
5.18 Archives. 2015. The May 18 Gwangju Democratic Uprising. Gwangju: Gwangju Metropolitan City Historiography Commission.
School of Languages, Literatures, Cultures & Linguistics. “#10 - 5.18 the Kwangju Uprising,” April 16, 2024. https://www.monash.edu/arts/languages-literatures-cultures-linguistics/korean-studies-research-hub/research/on-this-day-in-korean-history/10-5.18-the-kwangju-uprising.
thepeople. “ชอน ดูฮวาน ผู้นำเผด็จการที่ถูกประชาชนเกาหลีใต้โค่นล้มจนพินาศ.” thepeople, May 7, 2020. https://www.thepeople.co/read/22734.
Frieze.com. “Minjung Art’s Influence on South Korean Contemporary Art,” May 7, 2025. https://www.frieze.com/article/minjung-art-influence-south-korean-contemporary-art.
World Socialist Web Site. “Resistance Is Not Always the Whole Picture: Hong Sung Dam’s Dawn Woodcuts and the Gwangju Uprising,” February 3, 2004. https://www.wsws.org/en/articles/2004/02/hong-f03.html.
Biennial Foundation. “Gwangju Biennale (South Korea) - Biennial Foundation,” March 6, 2024. https://biennialfoundation.org/biennials/gwangju-biennale/.
Kevin McGarry. “10th Gwangju Biennale, ‘Burning down the House’ - Criticism - E-Flux,” 2025. https://www.e-flux.com/criticism/236247/10th-gwangju-biennale-burning-down-the-house.
Park, Jeesun. “Gwangju Biennale: Burning down the House.” Ocula.com. Ocula, October 3, 2014. https://ocula.com/magazine/spotlights/gwangju-biennale-burning-down-the-house/.
ประชาไท. “ประท้วงหอศิลป์เกาหลีใต้จัดแสดงศิลปะ กปปส. เพื่อรำลึก 36 ปีสลายชุมนุมกวางจู | ประชาไท,” May 16, 2025. https://prachatai.com/journal/2016/05/65820.
matichon. “อ่านเต็มๆ! จม.‘สุธี’ แจง ‘กวางจู’ บอกเป็นแค่ ‘เกมการเมือง’ หวังพิพิธภัณฑ์ไม่ตกเป็นเหยื่อ.” มติชนออนไลน์, May 18, 2016. https://www.matichon.co.th/politics/news_140439.