รู้จัก Kanya Kim ศิลปินผู้ผสมอดีตให้กลายเป็นจิตรกรรมหลากวัฒนธรรม

Post on 7 March

แว้บแรกที่ชมผลงานของ ‘Kanya Kim’ หรือ ‘ปาล์ม - กัญญาภัค เลาหศรีสกุล’ ศิลปินวาดภาพประกอบอิสระ ผู้เป็นศิลปินในเรดาร์คนล่าสุดประจำคอลัมม์ Artist on our radar ครั้งนี้ เราก็รู้สึกได้เลยว่าผลงานของเธอมีลายเส้นแบบจิตรกรรมไทยที่น่าค้นหา เพราะเมื่อเราซูมอินเข้าไปในรายละเอียดต่าง ๆ ภายในภาพ ก็จะเห็นเรื่องราวมากมายจากหลากหลายวัฒนธรรมที่ร้อยเรียงออกมาในสไตล์ไทยได้อย่างลงตัว

แต่กว่าปาล์มจะตัดสินใจเป็นศิลปินเต็มตัว เธอก็ได้เล่าให้เราฟังว่า จริง ๆ แล้วเธอเคยล้มเลิกความตั้งใจเรื่องการเป็นศิลปินมาก่อน ดังนั้น ก่อนที่เราจะขุดคุ้ยไปถึงเบื้องหลังที่มาและแรงบันดาลใจในผลงานของเธอ คำถามแรกที่เราอยากรู้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกเส้นทางการเป็นศิลปินแบบเต็มตัว

ปาล์มเล่า “จริง ๆ หลังจากเรียนจบปาล์มเคยเลิกทำงานศิลปะไปประมาณสองถึงสามปีเพราะเครียดธีสิส แบบผลงานมันไม่น่าพอใจ ผสมกับช่วงนั้นเป็นยุคโควิดระบาด ทางมหาวิทยาลัยเลยปรับมาตรการการเรียนใหม่ ก็เลยทำให้ไม่ได้แสดงธีสิสจบอย่างที่ตั้งใจไว้ด้วย พอทุกอย่างรวมกัน เราเลยรู้สึกยอมแพ้กับการวาดรูป จนคิดไปแล้วว่าตัวเองคงไม่มีความสามารถพอที่จะพัฒนาไปเป็นศิลปินอีกแล้ว”

“หลังเรียนจบ ช่วงหนึ่งปีแรกปาล์มเลยทำงานฟรีแลนซ์เป็นหลัก มีสอนศิลปะเด็ก ๆ แบบ Private Class ตามบ้าน ก่อนจะเปลี่ยนสายงานมาทำ Project Manager ใน Gallery ตอนนั้นเราเหมือนได้พบสกิลใหม่ของตัวเองด้านการจัดการ เลยทำงานที่นั่นสองปี ต่อมามีพี่ ๆ ที่ หอศิลป์ชวนให้มาทำงาน ในช่วงนี้แหละที่เราเริ่มกลับมาทำงานในชื่อ Kanya Kim และเริ่มมีโอกาสต่าง ๆ ติดต่อเข้ามา บวกกับได้รับการสนับสนุนและกำลังใจดี ๆ จากพี่ ๆ ที่ หอศิลป์ แลเพื่อนศิลปินอีกหลายคน เราเลยตัดสินใจลาออกจากที่นั่นและหันมาทำงานศิลปะแบบเต็มตัวเมื่อช่วงต้นปี 2024”

“สำหรับที่มาของนามปากกา ชื่อ Kanya Kim มาจากชื่อจริงของปาล์มคือ Kanyapak นำมาผสมกับนามสกุลของคุณตาคือ Kimawong เพราะคุณตาเป็นคนแรกที่สอนศิลปะให้ปาล์มและตอนที่คุณตามีชีวิตอยู่คุณตาอยากเป็นศิลปินแต่ที่บ้านไม่สนับสนุน แม่เคยเล่าว่าตอนแม่เด็ก ๆ เห็นคุณตาทำงานศิลปะอยู่ในบ้านเป็นงานคอลลาจจากนิตยสารฝรั่งมาแปะไว้บนผนังบ้านค่ะ แต่น่าเสียดายว่าตอนนั้นคนรอบตัวตาไม่มีคนเข้าใจศิลปะเลยไม่ได้สนับสนุนเพราะเมื่อ 40-50 ปีก่อน คนทั่วไปอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักศิลปะแบบคอลลาจนักคุณตาเลยล้มเลิกความฝันไปค่ะ”

“พอปาล์มมีโอกาสกลับมาทำงานศิลปะอีกครั้งเลยรู้สึกว่าอยากจะเอาสิ่งที่เป็นตัวแทนของคุณตามาใช้ในชื่อนามปากกานี้ ประหนึ่งว่าคุณตามีส่วนร่วมในทุกการทำงานศิลปะของปาล์มเหมือนเป็นการอุทิศและระลึกถึงคุณตาเสมอ” ปาล์มอธิบาย

หลังจากเข้าใจถึงเบื้องหลังที่มาของเส้นทางศิลปินแล้ว เราก็ถามเธอถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอมีลายเส้นและทิศทางการทำงานศิลปะสไตล์นี้ทันที ซึ่งเธอก็อธิบายให้เราฟังอย่างยินดีว่า “ย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ สองปีก่อน ปาล์มมีโอกาสกลับไปบ้านคุณยายและได้บังเอิญพบกับหนังสือศิลปะไทย ซึ่งเป็นหนังสือเก่าของคุณตาที่ได้ซื้อไว้เมื่อปี 2499 คาดว่าคุณตาคงซื้อไว้เพื่อเรียนรู้ศิลปะด้วยตัวเอง แต่ตลอดเวลาที่คุณตามีชีวิตอยู่ ไม่เคยมีใครเห็นหนังสือเล่มนี้มาก่อนจนกระทั่งปาล์มมาเจอ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ปาล์มอยากลองกลับมาสู้กับการวาดรูปอีกครั้ง เลยเริ่มจากการศึกษาศิลปะไทยจากหนังสือของคุณตาค่ะ”

“ตอนนั้นปาล์มพยายามค้นหาแนวทางของตนเองใหม่อีกครั้งว่าแท้จริงแล้วเราเป็นคนแบบไหน ชอบอะไร เลยนึกย้อนไปถึงวัยเด็กคุณตาชอบเล่าเรื่องของประวัติศาสตร์ให้แม่และหลาน ๆ ฟัง บวกกับคุณแม่ชอบพาปาล์มไปวัดและพิพิธภัณฑ์ ทุกวันเสาร์แม่จะพาไปวัดโพธิ์ วัดพระแก้ว วัดมหาธาตุ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พระที่นั่งวิมานเมฆ อยู่บ่อย ๆ เลยตั้งใจว่าจะเริ่มวาดรูปอีกครั้งจากการย้อนไปหาสิ่งง่าย ๆ ที่เราชอบ ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเหมือนตอนเรียน”

“แต่ช่วงแรกภาพก็ยังไม่ค่อยชัดเจนนักนะคะ” เธอย้ำ

ปาล์มเล่าต่อ “จริง ๆ ภาพทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อมีเพื่อนที่รู้จักแนะนำให้ส่งประกวดงานศิลปะจากโครงการกิจกรรมของภาพยนตร์เรื่อง แมนสรวง ค่ะ ตอนนั้นมีหัวข้อว่า พหุวัฒนธรรม พอเห็นคำนี้ก็คิดว่าหัวข้อนี้เหมาะกับเรานะ เลยลองวาดส่งไปด้วยเป้าหมายว่าใช้โอกาสนี้ในการหาแนวทางงานที่เป็นตัวเองค่ะ แต่เมื่อส่งไปปรากฏว่าได้รับรางวัลจากทีมงาน รวมถึงได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด จึงคิดว่าเริ่มมาถูกทางค่ะ จากนั้นก็เริ่มมีกำลังใจและพัฒนางานมาเรื่อย ๆ จนเริ่มชัดเจนขึ้นในปัจจุบันนี้”

“ในส่วนของเทคนิค ปาล์มจะทำงานในรูปแบบ Digital Painting เป็นส่วนใหญ่ เพราะช่วงที่ปาล์มเริ่มทำงานศิลปะในนาม Kanya Kim ปาล์มกำลังทำงานประจำอยู่ เลยเปลี่ยนจากการวาดสีอะคริลิก สีน้ำมัน มาวาดใน Ipad แทน เพราะสะดวกและพกไปวาดช่วงพักได้ง่าย ซึ่งช่วงแรก ๆ ปาล์มโลว์เทคมาก ๆ ต้องใช้เวลาฝึกกับยูทูปอยู่นานเลยค่ะ”

เธอยังเล่าถึงปัญหาในการทำงานด้วยว่า “วิธีฝึกฝนช่วงแรกหลังพยายามกลับมาวาดรูป ปาล์มพบว่าตนเองเครียดเกินไปเลยจะมีอาการมือสั่นทุกครั้งที่วาดรูป ตอนนั้นรู้สึกกลัวมากว่าตัวเองจะไม่สามารถกลับมาวาดรูปได้แล้ว เพราะอาการทางกายภาพมันแสดงออกอย่างรุนแรงมาก แต่เมื่อไปปรึกษากับทางนักจิตและคุณหมอก็แนะนำว่าต้องสู้และพยายามทำให้ได้ในทุก ๆ วัน”

“ปาล์มเลยซื้อสมุดมาหนึ่งเล่มและปากกาหมึกซึมหนึ่งด้าม และทำการต่อสู้กับตนเองด้วยการสเก็ชภาพในทุก ๆ วันอย่างน้อยวันละหนึ่งชิ้น ทำอยู่อย่างนั้นประมาณหกเดือนกว่าอาการจะเริ่มดีขึ้น และกลับมาวาดรูปได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่า บางครั้งการทำอะไรบางอย่างโดยไม่คาดหวังอะไรยิ่งใหญ่ อาจจะเกิดเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ สำหรับปาล์มแล้วตอนนั้นแค่อยากกลับมาวาดรูป แต่ไม่คิดว่าการพยายามในครั้งนั้นจะทำให้ปาล์มได้มีความสุข และสร้างรายได้จากการกลับมาวาดรูปในครั้งนี้”

พูดถึงอดีตและปัจจุบันกันจนครบถ้วน เราก็ชวนปาล์มมาคุยกันต่อเรื่องอนาคตกันบ้างว่าต่อไปงานของเธอจะออกมาในรูปแบบไหน โดยเธอแชร์ให้เราฟังแบบสบาย ๆ ว่า “ปาล์มอยากทำงานศิลปะไทยออกมาในรูปแบบที่สื่อสารง่ายไม่มีเส้นแบ่งทางวัฒนธรรมและเข้าไปถึงใจของผู้คนระดับนานาชาติได้ โดยในเดือนเมษายนนี้ปาล์มก็จะไปออกบูธแสดงงานที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการนำผลงานออกไปแสดงต่างประเทศเป็นครั้งแรก ก็หวังว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะทำให้เราเปิดโลกกว้างมากขึ้นและเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างเพื่อนำกลับมาพัฒนางานของตัวเองให้มีความเป็นสากลขึ้นได้ค่ะ”

“รวมไปถึงไม่นานมานี้ปาล์มได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้คนจากวงการต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่างานของเราเป็นได้มากกว่างานที่ทำเพื่อตอบโจทย์เราคนเดียว แต่สามารถพัฒนาไปอยู่ในพื้นที่อื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ ชุดของขวัญต่าง ๆ หรือแม้แต่การจัดกิจกรรมทัวร์ชุมชน ทำให้เริ่มรู้สึกว่าในอนาคตปาล์มอยากให้ชื่อ Kanya Kim นี้เป็นได้มากกว่าเพจที่วาดภาพขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการของตนเอง แต่อยากให้เป็นชื่อที่สามารถเป็นอะไรก็ได้บนพื้นฐานของศิลปะวัฒนธรรม”

“มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ Community คนที่ชอบในศิลปะ วัฒนธรรมไปด้วยกันก็ได้ หรือจะเป็นส่วนประกอบของโปรเจกต์อะไรก็ได้ที่จะสามารถปลุกกระแสของศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ นำมาสร้างสรรค์ผ่านมุมมองใหม่ ๆ ให้คนรู้สึกว่างาน Traditional เป็นมิตรมากขึ้นไม่รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เชย หรือ ล้าหลัง เลยคิดว่าในอนาคตก็อยากเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้วชื่อของ Kanya Kim จะเป็นอะไรได้บ้างค่ะ” ปาล์มสรุป

Siam Collection (2023) Digital Paint

Siam Collection (2023) Digital Paint เป็นผลงานที่ใช้ส่งเข้าประกวดในกิจกรรมภาพยนตร์เรื่อง แมนสรวง โดยเป็นการดึง Object จากวัฒนธรรมต่าง ๆในประเทศไทยมารวมเข้าด้วยกัน เป็นผลงานชิ้นงานแรกในชื่อของ Kanya Kim ซึ่งเป็นงานที่ระหว่างทำรู้สึกค้นพบตัวเองและรู้สึกกลับมามีความสุขกับการวาดภาพอีกครั้งค่ะ

The Land before Time : Singha & Hongsa (2024) Digital Paint

The Land before Time : Singha & Hongsa (2024) Digital Paint คือภาพที่นำเรื่องสัตว์หิมพานต์มาตีความใหม่ในรูปแบบร่วมสมัยเปรียบกับสัตว์ปกรนัมในเทพนิยายตะวันตก เป็นผลงานชุดใหม่ที่นำมาจัดแสดงในงาน BKKIF 2024 เป็นชิ้นงานที่ปาล์มรู้สึกสนุกในการตีความและนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น

Erawan (2024) Digital Paint

เป็นการตีความช้างเอราวัณจากแนวคิดของจากเจอกันระหว่างวิทยาศาสตร์ กายภาพ จากตะวันตกและตำนานความเชื่อของวัฒนธรรมตะวันออก

The Collection No.1 (2024) Digital Paint

เป็นผลงานที่รวบรวมมาจากวัตถุโบราณในพิพิธภัณฑ์ต่างๆในประเทศไทย ผสมสานกับจิตรกรรมฝาผนังแบบจีน ที่ปาล์มได้พบ ณ วัดพนัญเชิง จังหวัดอยุธยา ประกอบกับช่วงนั้นปาล์มได้มีโอกาสไปพิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้แล้วพบการจัดการพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ จึงนำมาผสมผสานเข้าด้วยกันภายในชิ้นงานเป็นผลงานที่ใช้เวลาวาดนานที่สุดเนื่องจากต้องใช้เวลา ในการหาข้อมูลและการวาดรายละเอียดแต่ละชิ้น

Marionette (Horse) (2023) Digital Paint

ผลงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากหุ่นกระบอกม้ากัณฐกะในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ด้วยความรู้สึกว่าหุ่นเก่าปลดระวางคงจะเหงาเมื่อต้องอยู่ในตู้แสดงแทนที่จะได้ออกไปทำการแสดงแบบเมื่อก่อน จึงคิดอยากนำมาวาดเพื่อให้หุ่นกระบอกนี้ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

งานนี้เป็นผลงานที่มีเรื่องราวทำให้ปาล์มประทับใจเพราะมีคนที่ซื้อโปสการ์ดชิ้นนี้ไปแล้วตามไปหาของจริงด้วย ซึ่งปกติเขาไม่เคยได้ไปพิพิธภัณฑ์เลย ทำให้ปาล์มรู้สึกดีใจมากเลยค่ะ ว่างานที่วาดสามารถทำให้คนกลับมาสนใจศิลปะไทยและพิพิธภัณฑ์ได้

สามารถตามไปส่องผลงานของ ‘Kanya Kim’ หรือ ‘ปาล์ม - กัญญาภัค เลาหศรีสกุล’ ได้ที่: https://www.instagram.com/kanyakim_studio/