เรียนดีไซน์อย่างไรในโลกปัจจุบัน? สรุป 4 แนวคิดจากการบรรยายพิเศษ Reframing Design Education โดย KMITL x Tsinghua University

Post on 3 September 2025

ทุกวันนี้ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคมต่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนหลายวงการต้องเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ศิลปะและการออกแบบก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อโจทย์ที่ซับซ้อนหลั่งไหลเข้ามา และโลกธุรกิจที่ “การออกแบบที่เน้นความสวยงาม” เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป การศึกษาด้านดีไซน์จึงจำเป็นต้องปรับตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นการทบทวนปรัชญาและวิธีคิด การรับมือกับปัญหาหลากหลายมิติ การทำงานในบริบทที่ซับซ้อน ไปจนถึงการประกอบอาชีพ

ในงาน Reframing Design Education: Cross-Disciplinary Models for Tomorrow’s Creative Leaders ซึ่งคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้รับเชิญให้ร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua University) ประเทศจีน อาจารย์และนักออกแบบจากทั้งไทยและต่างประเทศได้มาพูดคุยถึงประเด็นสำคัญที่สะท้อนโลกยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของคนทำงานในบริษัทดีไซน์ การเปลี่ยนผ่านของจีนจาก “Made in China” สู่ “Design in China” ความสำคัญของการตั้งคำถามที่ถูกต้องมากกว่าการท่องจำ ไปจนถึงความท้าทายของการเรียนการสอนในยุคที่สมาธิและการวิจารณ์เป็นเรื่องเปราะบาง อีกทั้งยังมีการนำเสนอโมเดลใหญ่ด้านการบูรณาการข้ามสาขาวิชา (Cross-Disciplinary Models) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแนวคิดที่ช่วยขยายมุมมองและพลิกวิธีคิดต่อการศึกษาออกแบบในยุคปัจจุบันได้อย่างลึกซึ้ง

ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในการบรรยายครั้งนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ผู้เรียนและผู้สนใจด้านการออกแบบไม่ควรพลาด เราจึงสรุป 4 แนวคิดสำคัญมาแบ่งปันให้ชาว GROUNDCONTROL ได้ร่วมขบคิดไปด้วยกัน

1 ไม่ใช่แค่ออกแบบสิ่งของ แต่คือผู้นำความคิดและสร้างความเปลี่ยนแปลง

จากจุดเริ่มต้นในปี 2506 ในฐานะ “วิทยาลัยวิชาการก่อสร้าง” จนพัฒนามาเป็นคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ (AAD) ในปัจจุบัน คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แม้จะเก่าแก่ แต่ก็ยังคงเปี่ยมด้วยพลังความคิดที่สดใหม่ และวิสัยทัศน์ที่ตอบโจทย์โลกการศึกษาในปัจจุบัน ภายใต้ปรัชญา “We, The Future Creator – เราคือผู้สร้างอนาคต” ซึ่ง ผศ. ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีปัจจุบัน ได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วน ในโอกาสที่คณะฯ ได้รับเชิญไปบรรยายและแลกเปลี่ยน ณ มหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua University) หนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก

หัวใจของแนวคิดนี้คือ การศึกษาเชิงข้ามสาขาวิชา (Cross-Disciplinary) ที่พางานออกแบบไปสัมผัสและเชื่อมโยงกับศาสตร์และมิติอื่น ๆ มุ่งเน้นการสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ก้าวไกล และที่สำคัญคือการพลิกบทบาทของนักศึกษา จาก “นักออกแบบสิ่งของ” ไปสู่การเป็น ผู้นำความคิดและผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม ได้อย่างแท้จริงในระดับนานาชาติ

2 ตั้งคำถามที่ถูกต้อง แทนที่จะต้องท่องจำ

การออกแบบไม่ได้มีเพียงประวัติศาสตร์ศิลปะหรือประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังมี “ประวัติศาสตร์การศึกษา” การออกแบบด้วย สถาบันอย่าง บาวเฮาส์ (Bauhaus) หรือ โรงเรียนอูล์ม (Ulm School) ต่างมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานการออกแบบยุคใหม่ โดยเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (Human-Centered Design - HCD)

ในงานบรรยาย ดร.เอกเทพ ไมเกิ้ล (Dr. Ekathep Michaels) รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหลักสูตรสถาปัตยกรรมสหวิทยาการ นานาชาติ (ADI) และประธานหลักสูตรปัญญาออกแบบเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (DICE) ได้ต่อยอดจากรากฐานเหล่านี้ โดยชี้ว่าโลกการศึกษาออกแบบกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งทำให้การ “จดจำข้อมูล” ไม่จำเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญกว่าคือการ ตั้งคำถามที่ถูกต้อง พร้อมทั้งฝึกทักษะการ วิเคราะห์ (Analyze) ประเมินค่า (Evaluate) และ สร้างสรรค์ (Create) คำตอบใหม่ ๆ ที่มีความหมายและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น “ทำไมการตัดสินใจเชิงออกแบบจึงสำคัญ?” หรือ “ผลงานนี้ตอบโจทย์ผู้ใช้และมนุษย์จริงหรือไม่?” แทนที่จะเพียงแค่ท่องจำประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

ดร.เอกเทพยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ผู้เรียนยุคปัจจุบันซึ่งเติบโตมากับดิจิทัล (Digital Natives) มีทั้งความสามารถและแรงขับเคลื่อนมหาศาล แต่ก็เผชิญความท้าทายในเรื่อง สมาธิ และ การรับคำวิจารณ์ ดังนั้น การศึกษาดีไซน์ในวันนี้ไม่เพียงต้องสอนทักษะเชิงวิชาการ แต่ยังต้องสร้าง พื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจ และการให้ความท้าทายเชิงวิพากษ์ควบคู่ไปด้วย

3 Platform, Program และ Project

ด้าน ศาสตราจารย์ เจ้า เชา (Prof. Zhao Chao, PhD) รองคณบดีคณะศิลปกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยชิงหัว ได้นำเสนอแนวคิดของสถาบันที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง Platform, Program และ Project เพื่อขับเคลื่อนการออกแบบอย่างรอบด้าน

เขาอธิบายว่า หัวใจของการออกแบบคือการทำความเข้าใจความต้องการของผู้คนอย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะตัดสินใจในเรื่อง รายละเอียด (Details), รูปทรง (Forms), ฟังก์ชัน (Function), โครงสร้าง (Structures) และ อัตลักษณ์ (Identity) โดยมองว่า “การออกแบบคือศาสตร์ที่สาม” ที่ผสานทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะเข้าด้วยกัน

ศ.เจ้า เชายังกล่าวด้วยว่า งานออกแบบในจีนกำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะประเทศกำลังเปลี่ยนจากแนวคิด “Made in China” สู่ “Design in China” ซึ่งมี เทคโนโลยี เป็นหัวใจหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บทบาทของการศึกษาในยุคนี้จึงไม่ใช่เพียงการสอน แต่ต้องทำหน้าที่ในการ ผลิตนักออกแบบรุ่นใหม่ ทำวิจัย สร้างนวัตกรรม และร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง

4 ออกแบบให้ผลงาน “ขายได้จริง”

อีกหนึ่งมิติสำคัญของการออกแบบคือมุมมองจากภาคธุรกิจ คุณมกร เชาว์วาณิช ได้นำบทเรียนจากประสบการณ์กว่า 7 ปีในฐานะดีไซเนอร์ที่ Philips Design บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก มาถ่ายทอดว่า “ดีไซเนอร์ไม่ใช่เพียงคนออกแบบ แต่คือ Creative ที่ต้องทำให้ผลงานขายได้จริง” งานออกแบบจึงไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสวยงาม แต่ต้องผสานกลยุทธ์ธุรกิจและการตลาดเข้าไปด้วยอย่างแนบแน่น

ปัจจุบันเขาได้กลับมาเปิดบริษัทออกแบบ Cerebrum Design ในประเทศไทย ทำงานครอบคลุมตั้งแต่ปุ๋ย น้ำผลไม้ ประกันชีวิต ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ โดยเน้นการวาง Positioning ของบริษัทเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งในมิติการตลาดและการบริหารจัดการ พร้อมกับการพัฒนาแนวคิดที่เขาเรียกว่า “Business Concept Design” ซึ่งสามารถเปลี่ยนไอเดียบนกระดาษให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์จริงได้ เขาย้ำชัดถึงแนวคิดที่ว่า “Design is the Power to Change” และ “Design is Strategy” เพื่อแสดงให้เห็นว่าดีไซน์ที่ยิ่งใหญ่ต้องทำงานได้จริง และเมื่อธุรกิจถูกออกแบบอย่างมีกลยุทธ์และครีเอทีฟ ก็จะสามารถสร้างความสำเร็จและก้าวสู่ความเป็น Global Brand ได้อย่างแท้จริง