ผีเสื้อเนี่ยโชคดีนะ เกิดมาได้เจอแต่ของสวย ๆ ทั้งนั้นเลย
ย้อนกลับในจังหวัดชายแดนภาคใต้ปี 2528 ที่ซึ่งโลกอินเทอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึง เงินสลึงมีค่ามากกว่าจะจินตนาการได้ และรถไฟกลายเป็นขนส่งสาธารณะที่ผู้คนเลือกใช้มากที่สุด เชื่อว่าใครที่นึกตามคงมองภาพที่ว่ามา ต่างจากภาพที่เราเห็นในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง
จังหวัดชายแดนใต้ในเวลานั้น เป็นเหมือนกับคำบอกเล่าของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่เคยพูดถึงช่วงชีวิตในวัยเด็กอันยากลำบากเมื่อเทียบกับความสะดวกสบายในทุกวันนี้ .. ‘ผีเสื้อและดอกไม้’ หนังไทยซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อเดียวกัน ผลงานการกำกับโดย ยุทธนา มุกดาสนิท ไม่เพียงเก็บเวลาในอดีตไว้บนแผ่นฟิล์มเท่านั้น แต่ยังบอกเล่าถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเหมือนเมืองขนส่งสำคัญ รวมถึงบันทึกชีวิตผู้คนที่ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ และระบบการศึกษาที่ไม่ได้สลักสำคัญมากเท่าการหาเลี้ยงปากท้อง
ฮูยัน เด็กชายวัยรุ่น ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง เกิดมาในครอบครัวยากจน ทำให้พ่อของเขาที่เป็นเสาหลัก ไม่สามารถส่งเสียลูกทั้งสามให้ได้เรียนตามฝั่งฝัน นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียนมาขายไอศกรีมถัง แม้ว่าตัวเขาจะเรียนเก่งติดระดับท็อปของห้องก็ตามที แต่ถึงอย่างนั้น การขายไอศกรีมถังก็ไม่พอเลี้ยงปากท้องอยู่ดี ในเวลานั้นเองที่การได้รู้จักกับ มิมปี เพื่อนรักคนเดียวของเขา กลายมาเป็นเหมือนใบเบิกโลกกว้างให้ยูฮันเห็นสิ่งต่าง ๆ นอกบ้านเกิดอย่างอำเภอเทพา ซึ่งก็รวมถึงการเดินบนเส้นทางผิดกฎหมายอย่างการลักลอบขนข้าวสารตามขบวนรถไฟ (ในขณะนั้นถือเป็นการขนสินค้าหนีภาษี) ด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ผู้ชมจะรู้อย่างแจ่มชัดว่าสิ่งที่ยูฮันทำนั้นเป็นเรื่องผิด แถมแก๊งเด็กวัยรุ่นนักขนข้าวที่เรียกตัวเองว่า “กองทัพมด” ก็เกเรเกินกว่าจะคบหาได้ แต่ความจริงที่ว่าการค้าข้าวนั้นมีราคาดี และเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่มีทางเลือกในชีวิตมากนัก แค่สองเหตุผลก็คงเพียงพอกับทางเลือกนี้แล้ว
ภาพของกลุ่มเด็กหนุ่มวัยห้าวเป้งปีนหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ขึ้นไปอยู่บนหลังคารถไฟ ทำให้นึกถึง Stand by Me หนัง Coming of Age อมตะโดย Rob Reiner ซึ่งสร้างขึ้นในปีไล่เลี่ยกัน ในหนังของ Reiner บอกเล่าถึงการผจญภัยของแก๊งเด็กม.ต้น ที่เดินตามทางรถไฟไปสืบหาศพนิรนามตามข่าว จนพบเจอกับบทพิสูจน์มิตรภาพครั้งสำคัญ ส่วนใน ผีเสื้อและดอกไม้ เราเองก็จะได้เห็นแก่นของเรื่องซึ่งว่าด้วยมิตรภาพและการเดินทางเช่นกัน ที่ต่างออกไปคือ สภาพแวดล้อมโดยรอบ ชีวิตเบื้องหลังของตัวละคร และบริบททางสังคมอันผุพัง ได้ผลักให้เด็กมากมายต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองและคนในครอบครัว ดิ้นรนเอาตัวรอดเพื่อให้ยังมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป ต่างจากแก๊งเด็กวัยแรกรุ่นชาวอเมริกันใน Stand by Me
นายอาจจะว่าเราขี้ขลาดก็ได้นะ แต่นายก็รู้ พวกเราไม่มีใครขี้ขลาดเลย
คำพูดของ นาฆา หัวโจกแก๊งกองทัพมด ที่พูดกับฮูยันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเขาตัดสินใจจะเลิกทำผิดกฎหมาย ได้แสดงให้เห็นว่า เด็กวัยรุ่นคึกคะนองในวันวาน เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น ความคิดและเส้นทางชีวิตก็ย่อมเปลี่ยนไปได้เสมอ และนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขายอมอ่อนต่อโลก แล้วหันมาเดินตามเส้นทางที่ถูกต้อง แต่เป็นเพราะพวกเขาเริ่มหาที่ทางในชีวิตที่มั่นคงขึ้นได้ วัยคะนองในอดีต จึงเป็นเหมือนกับบทเรียนชีวิตชิ้นสำคัญ ที่แม้พวกเขาจะทำอะไรผิดหรือขาดตกบกพร่องไป แต่ประสบการณ์เหล่านั้นก็ยังจะเตือนให้พวกเขาได้ตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า พวกเขาจะใช้ชีวิตในวันข้างหน้าต่อไปอย่างไร และเชื่อว่าเด็กหนุ่มสาวในเรื่อง คงเฝ้ารอวันที่จะได้เป็นผีเสื้อตัวหนึ่งซึ่งรายล้อมด้วยทุ่งดอกไม้สวยงามในสักวันหนึ่งเช่นกัน
รับชม ผีเสื้อและดอกไม้ ได้ทาง Netflix