106693372_160890302221019_5411796843160652609_n.jpg

#อียิปต์อีสัส ไปเที่ยวกันอย่างมันส์ ได้ทั้งประวัติศาสตร์แถมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

Post on 7 March

เห็นแก๊ง #อียิปต์อีสัส ไปเที่ยวกันอย่างมันส์ ได้ทั้งประวัติศาสตร์แถมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันเพียบ 
GroundControl ขอเปิดนำทัวร์ไปตามรอยเขาบ้าง พร้อมแนะนำสถานที่ขุมทรัพย์อารยธรรมอียิปต์กันเบื้องต้นที่เราจะไปเม้าท์กันอย่างหนำใจ

The Great Pyramid of Giza 
(c. 2580–2560 BC)

ยืนหนึ่งแห่งประเทศอียิปต์ พ่อแห่งทุกพีระมิดต้องยกให้ที่นี่ 'มหาพีระมิดแห่งกีซ่า’ ขึ้นหิ้งหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นที่สุดท้ายในเจ็ดสิ่งนั้นที่ยังเหลือยืนยงให้เข้าชมจนถึงทุกวันนี้

มหาพีระมิดแห่งกีซ่า เป็นหน่ึงในพีระมิดที่อยู่ในพีระมิดทั้งสามแห่งกีซ่า (ชื่อเต็มๆ กันงงภาษาอังกฤษก็คือ Giza Pyramid Complex) เอาให้เห็นภาพก็คือเป็นกลุ่มพีระมิด ที่มีพี่คนโตตัวใหญ่ที่สุด คือมหาพีระมิดแห่งกีซ่า ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นที่เก็บรักษาพระศพ หรือเรียกตรงๆ ก็สุสานน่ะแหละ เพียงแต่มันต้องใหญ่ให้สมฐานะ และก็ต้องมีพื้นที่เก็บทรัพย์สมบัติต่างๆ เอาไว้ให้ได้ใช้ถึงชาติหน้า

แต่กว่าจะมาถึงยุคมหาพีระมิดแห่งกีซ่าได้ ก็ต้องมีวิวัฒนาการการออกแบบและก่อสร้างพีระมิดกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว เริ่มจาก Pyramid of Djoser พีระมิดแรกของโลก มาสู่ Bent Pyramid หรือพีระมิดหักงอ (ชื่อนี้ใช้จริงไม่มีบุลลี่) ก่อนจะพัฒนามาอลังการสุดๆ ในที่กีซ่า

นักวิชาการมีการวิเคราะห์ตบตีกันมาอย่างยาวนาน การก่อสร้างที่นี่ยังคงเป็นปริศนาให้ได้เกาหัวแคร่กๆ จนถึงทุกวันนี้ เพราะดูภาพรวมของมหาพีระมิดแห่งกีซ่าแล้ว คาดการณ์มีการใช้หินถึง 2.6 ล้านก้อน หนักรวมทั้งหมดถึง 6 ล้านตัน กว้างแบบ 2 สนามฟุตบอล สูงระดับตึก 40 ชั้น และอย่าลืม..พีระมิดนี้สร้างขึ้นมาเมื่อ 4,600 ปีที่แล้ว !

เดินออกมาจากโซนพีระมิดอีกนิดพอได้ซักหนึ่งเหนื่อย ก็ยังมี Sphinx รูปปั้นสัตว์มหัศจรรย์ตัวเป็นเสือ หัวเป็นคน ตั้งอยู่ในบริเวณ Giza Pyramid Complex ด้วย มหาสฟิงซ์เป็นหนึ่งในรูปปั้นหินปูนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก มีความสูงถึง 20 เมตร และลำตัวยาวประมาณ 74 เมตร

และด้วยความเก่าแก่ระดับ 4,000 ปี ทำให้สฟิงซ์นี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร สังเกตได้จากความหักพังในบางส่วน ทั้งพายุทรายเอย สงครามนโปเลียนเอย หน้าตาของมันเลยไม่สมบูรณ์ดังเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งความอลังการงานสร้าง ให้นักวิชาการได้ถกเถียงถึงที่มากันต่อไป

Valley of the Kings 
(c. 1539–1075 BC)

อลังการต่อไม่รอแล้วนะ กับหุบผากษัตริย์ Valley of the King สุสานฟาโรห์ที่ตั้งมาตั้งแต่สมัย 3,000 ปีก่อนคริสตกาล

หุบผากษัตริย์เป็นศูนย์รวมที่ฝังศพของกษัตริย์และราชวงศ์ของอียิปต์ในช่วง 500 กว่าปีระหว่างราชวงศ์ที่ 18-20 ข้างนอกว่าอลังแล้ว ข้างในก็ไม่แพ้กัน ตกแต่งด้วยภาพวาดเล่าเรื่องการเกิดใหม่ และการไปอยู่ในดินแดนของพระเจ้า

ที่นี่ไม่ได้ป๊อปเฉพาะเหล่านักท่องเที่ยวเท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องโจรกรรมไม่หวั่นผี ค้นหาสารพัดสิ่งมีค่าที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบที่คาดการณ์ว่ายังมีซ่อนอยู๋ในที่แห่งนี้ และเมื่อปี 2011 นี้เอง ก็ยังมีการค้นพบมัมมี่อยู่ในสุสานแห่งนี้อีกด้วย รวมไปถึงเรื่องราวตำนานความเฮี้ยนของฟาโรห์ตุตันคาเมน ที่ตามล่าคราชีวิตคนที่มารังควานความสงบสุขของหลุมศพเขา......

Abu Simbel Temples
(1264 BC)

เล็กๆ ใหญ่ๆ รามเสสทำ ! ชนะสงครามมาทั้งทีขอสร้างวิหารอวดโลกให้มันรู้กันไปเล๊ย !

วิหารอาบูชิมเบลสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1270 ก่อนคริสตกาล สร้างโดยฟาโรห์รามเสสที่ 2 เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะต่อนิวเบีย ประกาศศักดาขมขู่นิวเบียอย่างริมาแหยมกันอีก วิหารนี้ติดริมน้ำละแวกชายแดนกับประเทศซูดาน โดยมีรามเสสที่ 2 ร่างยักษ์ 4 ตัว เฝ้าหน้าทางเข้าความสูง 20 เมตร ไม่ใช่รูปปั้นที่สร้างขึ้นมาใหม่ธรรมดาไก่กา แต่เป็นการสกัดเจาะภูเขาทั้งลูก ตรงกลางมีประตูเพื่อเข้าไปด้านใน ที่ซึ่งจะมีรูปแกะสลักเทพเจ้าอยู่

ระหว่างทางอายุของที่นี่ ก็ถูกทะเลทรายทำร้ายกลบความสวยงามอยางหนัก จนตอนแรกแทบไม่เห็นรูปทรงที่แท้จริง มาถูกค้นพบใหม่อีกรอบในช่วงปี 1813 และมีการบูรณาการให้กลับมาสวยงาม แต่ก็มาเสี่ยงจะไม่รอดเอาอีกครั้งในปี 1964 เมื่อน้ำทะเลสาบหนุนสูงขึ้น จะโดนน้ำเซาะเอาซะก่อน ก็ต้องย้ายทั้งหมด (ใช่แล้ว.. ทั้งภูเขาน่ะแหละ!) ขึ้นหนึน้ำขึ้นมาอีกที ออลังการต้ังแต่การสร้าง จนไปถึงการย้ายเลย

Alexandria 
(331 BC)

ว๊าปข้ามยุคมาใกล้ปัจจุบันอีกนิด (นี่ใกล้แล้วเรอะ!) กับอีกหนึ่งเช็คอินตามรอยประวัติศาสตร์ยุคโรมันที่เมือง “อเล็กซานเดรีย”

หากไปในยุคปัจจุบันนี้ เมือง “อเล็กซานเดรีย” ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามตากอากาศชมวิวทิวทัศน์ทะเล แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ตีกลับไปไกลมากกก ระดับสมัยอเล็กซานเดอร์มหาราชกันเลยทีเดียว

สมัยก่อนที่นี่ก็เป็นเมืองหลวงยิ่งใหญ่ระดับโลก ศูนย์กลางความรู้และวัฒนธรรม แต่เกิดภัยพิบัติถาโถมเข้าจนทำให้เมืองดั้งเดิมนั้นสูญเสียและพังไปอย่างหนัก แต่เรื่องราวประวัติศาสตร์ยังคงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้ค้นหา จากทั้งสถาปัตยกรรมป้อมปราการที่สร้างจากหินพีระมิด ประวัติประภาคารแห่งแรกในโลก ห้องสมุดที่สมบูรณ์แบบที่สุด รวมไปถึงข่าวลือที่ว่ากันว่าหลุมฝังศพของคลีโอพัตราก็ซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งในเมืองนี้ !