รู้จักกับ 𝗦𝗨𝗚𝗔𝗥𝗣𝗢𝗣𝗭 ศิลปินผู้สร้างโลกเซอร์เรียลด้วยคาแรกเตอร์หน้าแมว Pepper กับ Poppy

Post on 22 October

ช่วงนี้เรามักจะเห็นคาแรกเตอร์อาร์ตตัวใหม่ ๆ ปรากฏตัวในงานศิลปะมากมายให้ได้ใจฟูกันอยู่เสมอ ซึ่งในคอลัมน์ Artist on our radar ประจำสัปดาห์นี้ เราก็มีโอกาสได้พบกับอีกสองคาแรกเตอร์สุดน่ารักอย่าง Pepper กับ Poppy น้องแมวตัวส้มและชมพูตาแป๋ว ที่มาพร้อมกับแก้มใหญ่ ๆ อุ้งมือกลม ๆ และพุงป่อง ๆ ของ ‘𝗦𝗨𝗚𝗔𝗥𝗣𝗢𝗣𝗭’ หรือ โป - จตุรงค์ ขวัญเมือง ศิลปินและกราฟิกดีไซเนอร์อิสระ ผู้หลงรักโลกเซอร์เรียลแบบสุด ๆ

𝗦𝗨𝗚𝗔𝗥𝗣𝗢𝗣𝗭 เล่าให้เราฟังถึงเหตุผลที่ชอบโลกเซอร์เรียลว่า “ผมชอบงาน Surrealism เพราะมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับตัวเราได้หลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่เหนือจินตนการ ซึ่งศิลปินที่ทำงานแนวนี้มักจะเว้นที่ว่างให้เราตีความจากสิ่งที่เขาได้วาดไว้ ผมเลยค่อนข้างสนใจงานรูปแบบนี้ เพราะทุกครั้งที่ตัวเราทำงานใหม่ มันเหมือนเราได้สร้างโลกใบใหม่ทุกครั้ง”

ไม่ใช่แค่เรื่องราวในภาพ แต่ยังรวมถึงกระบวนการทำงาน 𝗦𝗨𝗚𝗔𝗥𝗣𝗢𝗣𝗭 อธิบายถึงขั้นตอนการทำงานที่แค่เริ่มผสมสีก็เหมือนทำให้เขาได้หลุดเข้าไปในโลกเซอร์เรียลแล้วเหมือนกัน

“ผมจะเลือกใช้สีอะคริลิคในการทำงานเป็นหลัก เพราะเป็นคนที่ชอบผสมสีก่อนเริ่มลงมือเพ้นท์จริงมาก ๆ ผมจะพยายามนึกถึงสีที่เราคิดว่าเหมาะกับการนำเสนอผลงานในครั้งนั้น ทุกครั้งที่บีบสีจากหลอด ค่อย ๆ ผสมกันให้เกิดเป็นสีที่เราตั้งใจ ถือเป็นความสุขเล็ก ๆ ของผมในระหว่างทางที่ทำงานไปด้วยเลย มันเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่อีกโลกนึงชั่วขณะ ส่วนวิธีฝึกฝน ผมเริ่มต้นจากถ้าอยากรู้อะไรก็จะลองทำเลยและสังเกตุจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ถ้าในครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งต่อ ๆ ไปก็พยายามปรับในจุดที่เราผิดพลาด ฝึกทำบ่อย ๆ ให้คุ้นมือ

“สำหรับเอกลักษณ์ในโลกเซอร์เรียลของผม น่าจะเป็นลายเส้นกับโทนสีตุ่นที่ดูนวล ๆ ไม่มีแสงเงาของวัตถุที่ชัดเจน ซึ่งมาจากความชอบส่วนตัวที่อยากสร้างบรรยากาศงานให้ดูชวนฝันและการผสมผสานกับองค์ประกอบที่ดูเหนือจริงคล้าย ๆ กับหนังสือภาพประกอบ”

เรายังชวนให้เขาเล่าถึงคาแรกเตอร์ Pepper กับ Poppy น้องแมวส้มและชมพู ที่มักปรากฏอยู่ในโลกเหนือจริงบนงานศิลปะของเขาด้วย

“Pepper กับ Poppy คือคาแรกเตอร์ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างแมวที่ผมเลี้ยงและตุ๊กตาไวนิลที่สะสม แล้วนำเอกลักษณ์ที่ชอบอย่างแก้มใหญ่ ๆ ของใบหน้าแมว อุ้งมือกลม ๆ กับร่างกายของตุ๊กตาที่ลักษณะพุงป่อง แก้มป่อง พอนำจุดที่ผมชอบแต่ละอย่างมารวมกัน เลยเกิดเป็นคาแรกเตอร์นี้ครับ”

**You and Me Against The World**

You and Me Against The World

“อย่างภาพที่ผมชอบมากก็จะมีภาพ ‘You and Me Against The World’ งานชิ้นนี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจากประโยค ก่อนพายุจะเกิดลมฟ้ามักจะแจ่มใสผมมองว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดมักจะไม่มีสัญญาณล่วงหน้าที่เตือนเรา ในทุก ๆ ครั้งหากเจอเรื่องที่มันวุ่นวายหรือยากที่จะฝ่าไป การมีคนคนนึงคอยอยู่เคียงแล้วผ่าฟันไปด้วยกันอาจจะทำให้เรามีแรงสู้ต่อไป ซึ่งเหตุผลที่ผมชอบรูปนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นรูปที่วาดหลังจากน้องแมวสีส้มของเราได้เสียไป เลยอยากวาดเพื่อเป็นความทรงจำที่เคยอยู่เคียงข้างกันมาตลอด แล้วน้องเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดคาแรกเตอร์นี้ด้วย โดยงานชิ้นนี้เป็นงานที่ทำจากสีอะคริลิครูปแรก ๆ เลย เพราะก่อนหน้านี้ผมจะทำแนวดิจิทัล เพ้นท์ติ้ง”

“ซึ่งในอนาคต ผมคิดว่าจะพยายามนำเสนอผลงานอื่นที่ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ที่การวาดภาพ อยากนำเสนอคาแรกเตอร์ในมิติอื่น ๆ เพื่อใช้ในการเล่าเรื่องราวครับ”

**Loop of Mind**

Loop of Mind

งานชิ้นนี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจากข้อมูลหลากหลายที่ได้ยินมา บางเรื่องเข้ามาแล้วผ่านไป บางเรื่องยังคงค้างคาอยู่ข้างใน รอวันกลั่นเป็นฝน หยดลงใส่ผืนน้ำ กระเพื่อมเป็นคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าถ่ายทอดเรื่องราวจากตัวเรากระจายออกไป

งานชิ้นนี้มีความพิเศษในแง่คอนเซปของการคิดงาน ที่บอกเล่าถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ที่เราได้พบเจอ ไม่ว่าจะผ่านทางช่องทางไหน ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่แต่จริง ๆ แล้ว เรื่องทั้งหลายที่เราได้เห็นหรือได้ยินมามันถูกส่งผ่านการกระทำของเรา

**Rewind**

Rewind

แรงบันดาลใจของงานชิ้นนี้มาจากเวลาที่เราเจอเรื่องราวที่วุ่นวายในการดำรงชีวิตทุกวัน สิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้เรารู้สึกสงบใจได้คือการมองท้องฟ้า ได้สูดหายใจเข้าฮึบสู้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยที่รูปนี้จะวาดเป็นท้องฟ้าใน โทนร้อนและโทนเย็นอยู่ในนาฬิกาทราย เพื่อคอยย้ำเตือนตัวเราว่าทุกสิ่งที่เข้ามาเดียวมันก็ผ่านไป และเรื่องเดิมนั้นอาจเข้ามาใหม่ หมุนเวียนไปเหมือนการกลับด้านของนาฬิกาทราย

ที่รู้สึกประทับใจรูปนี้เป็นพิเศษเพราะอยากทำอะไรที่เป็นสิ่งเตือนสติของตัวว่า อย่าไปจมอยู่ความรู้สึกลบนาน ๆ ให้พิจารณาให้เวลากับตัวเองค่อยตั้งสติแล้วรับมือกับมัน

**I Feel Love**

I Feel Love

ช่วงเวลาตกหลุมรัก เรามักทุ่มสุดตัว ไม่ระแวดระวังกับความสัมพันธ์ หวังสานเส้นใยถักทอเป็นความรัก แต่แล้วเมื่อความมืดคืบคลานเข้ามาทุกอย่างกลับชัดเจนจนน่าประหลาดใจ เมื่อเส้นใยที่สร้างไว้ กลับกลายเป็นหลุมพราง เหลือเพียงร่องรอยจางๆจากความรัก

รูปนี้เป็นเหมือนการทดลองเล็ก ๆ ของผมที่อยากให้สามารถตีความได้สองรูปแบบ เมื่อเปิดไฟจะรู้สึกแบบนึงแต่เมื่อปิดไฟความรู้สึกที่เห็นก็จะต่างออกไป ที่ประทับใจเพราะเหมือนเราได้ทำอะไรที่นอกกรอบจากเดิมมากขึ้น