Sunraymic นักปั้นคาแรคเตอร์จากสิ่งของกับการทดลองที่ยังไม่สิ้นสุด

Post on 23 May 2025

“มีหลายคนบอกว่าชอบงานเราเพราะมันยูนีค แต่เรายังสงสัยอยู่เลยว่าลายเส้นของเราคืออะไร” คือสิ่งที่ ‘ฟ้า-ณัฎฐณิชา สถานานนท์’ หรือ ‘Sunraymic’ บอกกับเราทันทีเมื่อเราชวนเธอคุยเรื่องเอกลักษณ์ในงานของตัวเอง ในระหว่างนั้นเธอยังเล่าให้เราฟังถึงที่มาของนามปากกา ‘Sunraymic’ ด้วยว่า ชื่อนี้มาจากความชอบแสงของท้องฟ้าในช่วงพระอาทิตย์ตก ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสดใส

เราไม่ได้บอกความคิดนี้ให้เธอฟังในทันที แต่หลังจากที่ทราบถึงที่มาของนามปากกานี้ เราก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในงานของเธอด้วยเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยที่สุด งานของเธอก็ทำให้ตัวเธอและผู้ชมรู้สึกละมุนนุ่มและอุ่นใจขึ้นมาเมื่อได้มอง เหมือนกับที่เธอรู้สึกอบอุ่นเมื่อเห็นท้องฟ้า

แต่เพราะความไม่แน่ใจในเอกลักษณ์ของตัวเองนี่แหละ ที่ทำให้ฟ้ากลายเป็นคนที่ชอบ ‘ทดลอง’ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาตลอด จนกลายเป็นงานปั้น ‘คาแรคเตอร์’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบตัว ฟ้าเล่าว่า “เรายังหาคำตอบอยู่ว่าเอกลักษณ์ของงานที่เราอยากทำออกมาคืออะไร และมันเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือเปล่า ซึ่งถ้าจะให้เราลองอธิบายถึงมันในตอนนี้ เราคิดว่าคงเป็นความสนุกในการทำงาน เพราะตอนที่จะเริ่มทำเรามักจะหยิบสิ่งที่พบเจอรอบตัวขึ้นมา อันไหนเห็นแล้วสปาร์คจอยก็จะเอามาปั้น ตอนนี้เราเลยทำทุกอย่างออกมาจากความสนใจและไอเดียของเราจริง ๆ โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับคาแรคเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง”

ฟ้ายังพาเราย้อนกลับไปในช่วงแรก ๆ ที่ทำให้เธอสนใจด้านประติมากรรม “ฟ้าชอบการปั้นมาตั้งแต่ประถมตอนเรียนวิชาปั้นดินเหนียวที่โรงเรียน แต่ก็ยังไม่เคยทำจริงจัง เราชอบเทคนิคการปั้นมือหรือ hand forming เพราะเป็นเทคนิคที่สื่อสารไอเดียออกมาแบบตรง ๆ จากการสัมผัส แล้วฟ้าก็ชอบความรู้สึกของการเลอะเทอะไปกับการทำงานศิลปะอะไรซักอย่างโดยไม่มีถูกมีผิด”

“ปกติทุกปิดเทอมเราจะหากิจกรรมทำ เช่น ก่อนหน้านี้ก็จะมีวาดสีน้ำ ทำสติกเกอร์ขาย จุดเริ่มต้นมาจากตอนปิดเทอมอยากลองทำโปรเจกต์ดีไซน์ของตัวเองดู โดยตอนแรกก็ยังไม่ได้มีไอเดียว่าจะต้องเป็นเซรามิก แต่ด้วยความชอบการปั้นมาตั้งแต่ประถม รู้ตัวอีกทีก็ตั้งชื่อ Instragram ว่า sunraymic โดยที่ยังไม่ได้เริ่มปั้นเลย”

“จากนั้นเราก็เริ่มลองปั้นมาเรื่อย ๆ ปั้นเสร็จก็เริ่มเรียนรู้วิธีการระบายสี การเผา แล้วก็ลงขาย เผื่อว่าจะสามารถเอาเงินมาเป็นทุนในการปั้นงานชิ้นต่อ ๆ ไปได้ แล้วก็รู้สึกมีความสุขและขอบคุณทุกครั้งที่มีคนมาเลือกรับน้อง ๆ จากหน้าไอจีของเรากลับบ้าน” ฟ้าเสริม

“สำหรับเรื่องการฝึกฝน เรามองว่ามันคือการลองผิดลองถูกไปเลย คือเราไม่ได้เรียนในสาขานี้โดยตรง เลยใช้เซนส์ในการทำอย่างเดียว มันเลยเกิดความผิดพลาดบ่อยมาก เพราะการทำงานเซรามิกเป็นสิ่งที่ควบคุมยาก มันมีหลายปัจจัยที่จะทำให้ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เราหวัง แบบว่าหลังจากเผาไปแล้ว ดินมันอาจจะแตกร้าวตอนไหนก็ได้ สีที่เราเพนท์ก็จะมีหน้าตาต่างจากก่อนเผา ส่วนใหญ่แล้วที่ปรึกษาของฟ้าก็จะเป็นอาจารย์ที่รับเผางานเซรามิกให้ในทุก ๆ เตา ซึ่งฟ้าก็จะคอยเอางานไปให้เขาดูว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจะแก้ยังไงดี แล้วก็จะเอามาปรับปรุงกับเตาต่อไป”

เรายังชวนฟ้าคุยถึงผลงานที่เธอชอบ และขอให้เธอลองเลือกมาเล่าให้เราฟังหน่อย ซึ่งเธอก็แนะนำให้เรารู้จักผลงานที่ชื่อว่า ‘Nong Nong on Bangkok Streets’ เธออธิบาย “ผลงานเซ็ทนี้เกิดจากช่วงปีก่อนตอนที่ไปฝึกงานที่บริษัทสถาปนิกแถวสีลม มันทำให้เราต้องเดินผ่านทางเท้าในช่วงเวลาเข้างานและเลิกงานตลอดหลายเดือน ได้เห็นผู้คนและข้าวของตามทางเท้าที่วุ่นวายเป็นปกติชินตา”

“จนวันนึงเราเปลี่ยนทางเดินไปในทางที่ใกล้ขึ้นแต่เส้นทางนั้นเป็นเส้นที่ไม่ค่อยมีผู้คน ถึงทางจะใกล้กว่าแต่กลับทำให้รู้สึกว่ามันไกล เงียบเหงา แดดจ้า ไม่มีอะไรให้มอง จึงทำให้เราคิดขึ้นมาว่าข้าวของและผู้คนมากมายบนทางเท้า ที่เราเองก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันถูกที่ถูกทางหรือเปล่านั้น ถ้ามองมุมนึงมันก็เป็นชีวิต เป็นร่มเงา เป็นการสร้างพื้นที่ชั่วคราวของตัวเองในพื้นที่เมืองที่อัดแน่นเกินไป ทำให้เราเริ่มสแนปภาพของสิ่งต่าง ๆ เก็บไว้ปั้นสิ่งของเหล่านั้นให้มีชีวิตขึ้นมา”

“คือเราจินตนาการว่าถ้าสิ่งของเหล่านั้นมีชีวิตพวกเขาคงมองหน้ากันแล้วพูดคุยกันว่าทำไมตัวเองถึงได้มาอยู่บนถนน คำตอบของเราคือพวกเขาเองอาจไม่อยากอยู่แต่จำเป็นต้องอยู่ เพราะพวกเค้าก็มีหน้าที่มีเส้นทางชีวิตของตัวเองที่ต่างกันไป คาร์แรกเตอร์ของน้องในเซ็ทนี้เลยออกมาเป็นสตรีทเฟอร์นิเจอร์และข้าวของริมทาง เช่น เก้าอี้พลาสติก ลังน้ำแข็ง ถังแก๊ส ตาช่าง ไปจนถึงถุงขยะ กับดวงตาที่มองซ้ายมองขวาหากันแต่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา”

ก่อนจากกันไป ในฐานะที่เธอเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวต่อไปในเส้นทางนี้ เราเลยอยากรู้ว่าเธอคิดเห็นอย่างไรบ้างกับการทำงานในฐานะศิลปิน ซึ่งเธอก็ตอบทิ้งท้ายไว้ว่า “การเป็นศิลปินมันคือความฝันของเรามาตลอด จนถึงวันนี้ที่ถูกเรียกด้วยคำนี้ก็เริ่มคิดสงสัยกับตัวเองขึ้นมาจริง ๆ ว่าการที่คนคนหนึ่งจะเป็นศิลปินได้มันขึ้นอยู่กับอะไร ความสามารถ สายตาของคนอื่น หรือผลงานใดงานหนึ่ง แต่ก็ภูมิใจกับตัวเองที่ได้เริ่มทำอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่งด้วยความสนุกและความตั้งใจจริง”

Cassette vase

ชิ้นนี้คือแจกันเทปค่ะ เพราะเป็นงานชิ้นแรก ๆ ที่ทดลองคิดทดลองทำ แล้วประทับใจตอนได้เห็นมันเสร็จสมบูรณ์ เป็นชิ้นที่เสียดายที่สุดตอนขายออกเพราะดันอยากเก็บเอาไว้เอง เลยเอามาเป็นรูปโปรไฟล์ในตอนนี้ค่ะ

Grown differently pot

ชิ้นนี้เป็นกระถางต้นไม้ที่ทดลองเพนท์ลายด้วยการวาดมือจากดินสอเพนท์ และออกแบบให้เป็นการ์ตูนช่อง ๆ เป็นภาพการเติบโตของพืชแต่ละชนิดที่แตกต่าง เจอฝนและแดดที่ต่างกัน เหมือนกับคนเราที่ผ่านเรื่องดีร้ายและเติบโตจากเรื่องราวในแบบของเรา

Nong Nong on Bangkok Streets

ผลงานเซ็ทนี้เกิดจากช่วงปีก่อนตอนที่ไปฝึกงานที่บริษัทสถาปนิกแถวสีลม มันทำให้เราต้องเดินผ่านทางเท้าในช่วงเวลาเข้างานและเลิกงานตลอดหลายเดือน ได้เห็นผู้คนและข้าวของตามทางเท้าที่วุ่นวายเป็นปกติชินตา”

จนวันนึงเราเปลี่ยนทางเดินไปในทางที่ใกล้ขึ้นแต่เส้นทางนั้นเป็นเส้นที่ไม่ค่อยมีผู้คน ถึงทางจะใกล้กว่าแต่กลับทำให้รู้สึกว่ามันไกล เงียบเหงา แดดจ้า ไม่มีอะไรให้มอง จึงทำให้เราคิดขึ้นมาว่าข้าวของและผู้คนมากมายบนทางเท้า ที่เราเองก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันถูกที่ถูกทางหรือเปล่านั้น ถ้ามองมุมนึงมันก็เป็นชีวิต เป็นร่มเงา เป็นการสร้างพื้นที่ชั่วคราวของตัวเองในพื้นที่เมืองที่อัดแน่นเกินไป ทำให้เราเริ่มสแนปภาพของสิ่งต่าง ๆ เก็บไว้ปั้นสิ่งของเหล่านั้นให้มีชีวิตขึ้นมา

คือเราจินตนาการว่าถ้าสิ่งของเหล่านั้นมีชีวิตพวกเขาคงมองหน้ากันแล้วพูดคุยกันว่าทำไมตัวเองถึงได้มาอยู่บนถนน คำตอบของเราคือพวกเขาเองอาจไม่อยากอยู่แต่จำเป็นต้องอยู่ เพราะพวกเค้าก็มีหน้าที่มีเส้นทางชีวิตของตัวเองที่ต่างกันไป คาร์แรกเตอร์ของน้องในเซ็ทนี้เลยออกมาเป็นสตรีทเฟอร์นิเจอร์และข้าวของริมทาง เช่น เก้าอี้พลาสติก ลังน้ำแข็ง ถังแก๊ส ตาช่าง ไปจนถึงถุงขยะ กับดวงตาที่มองซ้ายมองขวาหากันแต่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา”

หากใครชื่นชอบงานประติมากรรม และอยากติดตามการทดลองของ ‘ฟ้า-ณัฎฐณิชา สถานานนท์’ หรือ ‘Sunraymic’ ก็สามารถตามไปชมผลงานของเธอต่อได้ที่ Instragram: https://www.instagram.com/sunraymic/ หรือทาง X : @hersunsetsky

หรือตามไปเจอและให้กำลังใจเธอได้ที่งาน happening 101 art festival at Seacon Square Srinakarin ในวันที่ 28 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน 2568 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/happeningmagazine