Taipei Story การเมืองและความเงียบที่กัดกลืนความฝันของผู้คน

Post on 13 November 2025

กลางทศวรรษ 1980 คือช่วงเวลาที่ ‘ไต้หวัน’ กำลังเร่งเครื่องสู่ความทันสมัย ตึกสูงผุดขึ้นราวกับจะประกาศศักดาความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ถนนเต็มไปด้วยแสงไฟนีออน รถยนต์ และเสียงเครื่องจักรที่ไม่เคยหลับใหล ทว่าภายใต้การปกครองของรัฐบาลก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่เป็นสัญญาณว่าไต้หวันกำลังถูกผลักเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมเต็มตัว ท่ามกลางเสียงสรรเสริญแห่งการพัฒนา ‘เอ็ดเวิร์ด หยาง’ (Edward Yang) กลับได้ยินเสียงบางอย่างที่คนส่วนใหญ่เลือกจะไม่ฟัง นั่นก็คือความเงียบ

Taipei Story ดำเนินเรื่องไปอย่างเรียบง่ายผ่าน ‘หลง’ อดีตนักเบสบอลทีมชาติที่เคยเป็นความภูมิใจของชาติ แต่ปัจจุบันกลายเป็นเพียงชายธรรมดาที่ล่องลอยอยู่ในเมืองที่เขาไม่รู้จักอีกต่อไป และ ‘ชิน’ หญิงสาวที่พยายามจะก้าวให้พ้นรากเหง้าเดิม ทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เรียนภาษาอังกฤษ และฝันถึงชีวิตใหม่ในอเมริกา ทั้งสองเป็นตัวแทนของคนสองรุ่น ที่คนหนึ่งยึดติดกับอดีต อีกคนไขว่คว้าอนาคต แต่ทั้งคู่ต่างหลงอยู่ในเมืองที่เติบโตเร็วเกินไปจนหัวใจตามไม่ทัน

เอ็ดเวิร์ด หยางเกิดเมื่อปี 1947 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ก่อนที่ครอบครัวจะอพยพมายังไต้หวันหลังสงครามกลางเมืองจีน เขาเติบโตในยุคที่ประเทศยังอยู่ใต้การควบคุมของทหารและการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด ในวัยหนุ่มหยางเลือกเดินเส้นทางที่ห่างจากภาพยนตร์โดยสิ้นเชิง เขาศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ก่อนที่จะไปศึกษาต่อด้านคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยฟลอริดาในสหรัฐอเมริกาต่อ

เมื่อกลับมาที่ไทเปในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มผู้กำกับรุ่นใหม่ที่ต่อมาเรียกว่า “New Taiwan Cinema” ร่วมกับ โหวเซี่ยวเสียน (Hou Hsiao-hsien) โดยต่างมีจุดร่วมคือการหันกล้องกลับมามองชีวิตจริงของผู้คน แทนที่จะเล่าเรื่องในแบบโฆษณาชวนเชื่อของรัฐหรือหนังพาณิชย์

“ผมไม่ใช่ศิลปิน ผมเป็นคนที่อยากเข้าใจความจริง”

หยางจึงถือเป็นผู้กำกับที่ละเอียดและมีระเบียบแบบวิศวกร เขามองภาพยนตร์เหมือนโครงสร้างของระบบที่ทุกส่วนต้องมีเหตุผล ไทเปในสายตาของหยางจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ฉากหลัง แต่เป็นตัวละครที่มีอำนาจเหนือทุกคน เมืองในหนังดูใหญ่โต เย็นชา และไร้ชีวิต ภาพของหนังมักจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านภาพที่ดูกว้าง เพื่อปล่อยให้ตัวละครตัวเล็กลงในเฟรม และเหมือนกำลังจะถูกกลืนไปกับคอนกรีตและกระจกเงา ภาพถนนที่ทอดยาว ตึกกระจกที่สะท้อนซ้ำ และสำนักงานที่ดูไม่มีความอบอุ่น ล้วนทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าความเจริญกำลังแยกมนุษย์ออกจากกัน เมืองไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์อีกต่อไป แต่คือโครงสร้างของอำนาจที่ควบคุมชีวิตคนโดยไม่ต้องพูด

นอกจากเมืองไทเปที่เป็นดั่งเบื้องหลัง ความเงียบยังกลายเป็นภาษาหลักของหนัง เพราะในสังคมไต้หวันที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐเผด็จการ การพูดถึงอัตลักษณ์หรือประวัติศาสตร์บางตอน เช่น เหตุการณ์ February 28 incident (อุบัติการณ์ 28 กุมภาพันธ์) เหตุการณ์ต่อต้านรัฐบาลในไต้หวันที่ถูกปราบปรามอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลสาธารณรัฐจีนภายใต้การนำของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งมีชาวไต้หวันที่เสียชีวิตซึ่งรวมถึงการสังหารหมู่มีการคาดการณ์ว่ามีจำนวนประมาณระหว่าง 18,000 ถึง 28,000 คน ยังเป็นสิ่งต้องห้าม

การเงียบจึงกลายเป็นวิธีการมีชีวิตรอดและในภาพยนตร์ของหยาง ความเงียบไม่ได้แปลว่าการยอมจำนน แต่เป็นการต่อต้านที่ละเอียดอ่อน ตัวละครใน Taipei Story พูดกันน้อยมาก หลงตอบคำถามด้วยการนิ่ง ชินมักหลบสายตาและไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินไปในบรรยากาศของความเงียบที่เต็มไปด้วยความหมาย เหมือนกับเมืองที่ส่งเสียงผ่านแสงไฟมากกว่าผ่านผู้คน

“ความเงียบในหนังของ Edward Yang ไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่คือเสียงของผู้คนที่ถูกบังคับให้เงียบ” และนั่นคือสิ่งที่ Taipei Story ทำได้อย่างทรงพลังที่สุด การเมืองในหนังไม่ได้เกิดขึ้นในสภาหรือบนถนน แต่มันคือการเมืองของชีวิตประจำวันที่ซ่อนอยู่ในความสัมพันธ์ การทำงาน และการใช้ชีวิตในเมืองที่ไม่เคยหยุดขยายตัว

ในอีกชั้นหนึ่ง Taipei Story ยังพูดถึง “โลกาภิวัตน์” อย่างแยบยล เมืองในหนังเปรียบเสมือนสนามทดลองของวัฒนธรรมโลกที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนผู้คนเริ่มสูญเสียรากเหง้าของตัวเอง ความฝันของชินที่จะไปอเมริกาจึงไม่ใช่แค่ความทะเยอทะยานส่วนตัว แต่เป็นความปรารถนาที่ถูกหล่อหลอมโดยโลกทุนนิยมที่เชื่อว่าความสำเร็จต้องอยู่ที่ที่อื่นไม่ใช่ที่นี่ ในขณะที่หลงยังยึดติดกับความทรงจำของเซี่ยงไฮ้และอดีตอันมั่นคง ทั้งสองต่างกำลังหนี หนีจากเมืองเดียวกัน แต่คนละทิศทาง

ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไต้หวัน Taipei Story ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของกระแส New Taiwan Cinema ซึ่งหันเหจากหนังเชิงพาณิชย์และความบันเทิงแบบผิวเผิน มาสู่การสำรวจชีวิตจริงของผู้คนผ่านสายตาที่ซื่อตรงและลึกซึ้งกว่าเดิม หยางจึงไม่เพียงสร้างภาพยนตร์ แต่สร้างบันทึกทางอารมณ์ของยุคสมัย บันทึกของคนรุ่นหนึ่งที่ต้องเรียนรู้จะอยู่ร่วมกับเมืองที่พวกเขาไม่รู้จักอีกต่อไป

Taipei Story เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ในเทศกาล Taiwan Documentary Film Festival 2025 และจะฉายอีกครั้งในเทศกาลวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568

อ้างอิง:

Guan YT. Director Edward Yang illuminates complexities of Taiwanese history. The Tufts Daily. Published November 30, 2020. Accessed November 13, 2025. https://www.tuftsdaily.com/article/2020/11/director-edward-yang-illuminates-complexities-of-taiwanese-history

How history and politics blazed a trail through East Asian cinema: National soul-searching in Taiwan – HERO. Hero. Published 2020. Accessed November 13, 2025. https://hero-magazine.com/article/182574/east-asian-cinema-analysis-national-soul-searching-in-taiwan