‘งู’ และความหมายในโลกศิลปะ ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องความโชคดีและความลวงหลอก

Art
Post on 29 January

ในโลกศิลปะ ถ้าเราจะพูดถึงหนึ่งในสัญญะพบบ่อยแบบใครเห็นก็เข้าใจทันที เชื่อว่า ‘งู’ น่าจะเป็นสัตว์ชนิดแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง โดยเฉพาะคนที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องเล่าในศาสนาคริสต์ ก็มักจะตีความสัตว์ตัวนี้ในฐานะสัญลักษณ์ของความหลอกลวงและความเจ้าเล่ห์โดยอัตโนมัติ อ้างอิงจากฉากในตำนานในคัมภีร์ไบเบิล ที่งูได้รับบทเป็นตัวต้นเรื่องในการล่อลวงอีฟให้ขโมยแอปเปิ้ลในสวนอีเดน จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเจตจำนงเสรีที่ทำให้มนุษย์ตัดสินใจเลือกสิ่งต่าง ๆ เอง ไม่ว่าจะดีหรือชั่วก็ตาม

แต่หากเรามองข้ามกรอบความเชื่อของคริสต์ศาสนาออกไป แล้วแลนดิ้งไปยังภูมิภาคหรือวัฒนธรรมอื่น ๆ บ้าง เราก็จะพบเรื่องเล่าที่เชื่อมโยง ‘งู’ กับบทบาทอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตำนานงูกลืนหางอูโรโบรอสของอียิปต์และกรีกโบราณ ที่สื่อถึงวัฏจักรชีวิตและความเป็นนิรันดร์ งูในฐานะหนึ่งในจักรราศีของจีนที่เป็นตัวแทนของปัญญา หรือในภูมิภาคเอเชียอุษาคเนย์ของเราเอง ก็มีตำนานในพุทธศาสนาเกี่ยวกับพญานาคที่แผ่พังพานเพื่อปกป้องพระพุทธเจ้า สะท้อนถึงบทบาทของงูในฐานะผู้คุ้มครองและความศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น

จากตัวอย่างเหล่านี้จะเห็นได้ชัดเจนว่า ‘งู’ เป็นสัตว์ที่สามารถตีความได้หลากมิติมาก ทั้งในฐานะผู้พิทักษ์ ผู้สร้างความสมดุล ผู้ทำลาย ผู้เยียวยา หรือแม้กระทั่งตัวแทนของปัญญาและความฉลาดเฉลียว และเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ที่วัฒนธรรมทั่วโลกคลุกเคล้ากันแบบแกงโฮะ เราเลยเห็นการใช้งูในสื่อบันเทิงและป๊อปคัลเจอร์กันแบบมั่วบ้านงานมากขึ้น

เนื่องในโอกาสที่ตรุษจีนปีนี้ตรงกับปีมะเส็งหรือปีงูเล็กตามปฏิทินจีนพอดี GroundControl เลยอยากชวนทุกคนมาย้อนสำรวจบทบาทและความหมายของ ‘งู’ ในฐานะสัญลักษณ์ที่สะท้อนวัฒนธรรม ความเชื่อ และจินตนาการของมนุษย์ในงานศิลปะและป๊อปคัลเจอร์กันแบบลงลึกมากขึ้น ตามมาเลย!

งูในฐานะสัญญะแห่งการทำลาย เกิดใหม่ วัฏจักร และความสมดุล

การ ‘ลอกคราบ’ คือเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้งูถูกตีความว่าเป็นสัญญะของการเกิดใหม่ ไม่เพียงเท่านั้น งูยังถูกเชื่อมโยงว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัฏจักรธรรมชาติและความสมดุลด้วย เห็นได้จากสัญลักษณ์อูโรโบรอส หรือ งูกลืนหาง สัญลักษณ์โบราณจากวัฒนธรรมอียิปต์และกรีก ที่สามารถสื่อถึงวัฏจักรนิรันดร์ของการทำลายและการสร้างใหม่ได้ และสะท้อนภาพความสมดุลและการเชื่อมโยงของจักรวาล ทั้งในแง่วัตถุและจิตวิญญาณ ซึ่งไม่สูญหายไปแต่เพียงแปรเปลี่ยนรูปร่าง

ในตำนานของชาวนอร์สก็มีเรื่องของงูยักษ์ โยร์มุงกันด์ (Jörmungandr) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า The Midgard Serpent มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ปกป้องระเบียบโลก มันคือหนึ่งในลูกของเทพโลกิที่ถูกเทพโอดินโยนลงสู่มหาสมุทรลึก ซึ่งล้อมรอบโลกมนุษย์และต้นไม้แห่งชีวิต Yggdrasil ตำนานเล่าถึงโยร์มุงกันด์ที่มีขนาดใหญ่โตมหึมาจนสามารถพันรอบโลกได้และกัดหางของตัวเองไว้ สัญลักษณ์นี้สื่อถึงความต่อเนื่องของวัฏจักรชีวิต และการรักษาสมดุลระหว่างความวุ่นวายกับระเบียบ และในตำนานแร็กนาร็อก โยร์มุงกันด์ยังมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ แม้ว่าทั้งสองจะสิ้นชีพลง แต่การเสียสละของพวกเขาก็นำมาซึ่งการฟื้นฟูระเบียบโลกเพื่อสร้างความสมดุล

ในตำนานอียิปต์ก็มีงู Apophis ตัวแทนแห่งความมืดและความวุ่นวาย งูตัวนี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการฟื้นฟูที่เทพรา (เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์) ต้องต่อสู้เพื่อรักษาความสว่างของโลกในทุกคืน การตีความเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า แม้งูอาจเป็นผู้ร้ายที่ทำลายระเบียบเดิม แต่ในขณะเดียวกันกลับเป็นตัวเร่งให้เกิดการเริ่มต้นใหม่ เป็นแรงผลักดันในกระบวนการฟื้นฟูอันไม่มีที่สิ้นสุดด้วย

สำหรับในโลกป๊อปคัลเจอร์ ศิลปินที่นำงูมาใช้สื่อถึงการเกิดใหม่ได้อลังการสุด ๆ คนหนึ่งที่เรานึกถึงขึ้นมา ก็คงจะเป็น เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในมิวสิกวิดีโอ ‘Look What You Made Me Do’ จากอัลบั้ม Reputation อัลบั้มแบบแซ่บแบบสับแบบกลับมาใหม่หลังจากเกิดดราม่าครั้งใหญ่กับคิม คาร์แดเชี่ยน และ คานเย เวสต์ แต่ถ้าจะตีความแบบจิกกัดเพิ่มไปหน่อยก็อาจจะเป็นการยอกย้อนถึงตอนเกิดดราม่า ที่มีคนแห่ถล่มกันส่งอีโมจิรูปงูเพื่อต่อว่าเธอว่าเป็นงูพิษ หรือถ้าร้ายกว่านั้นอีกนิดก็อาจจะเป็นเธอเองที่สื่อกลับไปหาคู่อริว่าเป็นงูพิษเหมือนกันก็เป็นได้

งูในฐานะสัญญะแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ผู้พิทักษ์ และการเยียวยารักษา

ความศักดิ์สิทธิ์กับ ‘งู’ ยังเป็นของคู่กัน ตัวอย่างที่เห็นภาพได้เร็ว ๆ คงจะเป็นความเชื่อใกล้ตัวเราเวลาเห็นงูตัวใหญ่ ๆ ก็มักจะเชื่อมโยงขึ้นมาในใจว่างูตัวนั้นเป็นงูเจ้าที่ งูศักดิ์สิทธิ์ ผู้พิทักษ์ ที่ปกปักรักษาป่าและพื้นที่ หรือในตำนานทางพุทธศาสนาที่เป็นรากฐานสำคัญต่อความเชื่อพวกเราทุกวันนี้ ก็มีหลายเรื่องผูกพันเกี่ยวข้องกับ งู หรือ พญานาค ในฐานะผู้ปกป้องปรากฏอยู่หลายครั้ง เช่น เรื่องราวของมุจลินทนาคราชที่ขึ้นมาจากสระโบกขรณีแล้วขดร่างปกป้องพระพุทธเจ้าใต้ต้นศรีมหาโพธิ์เพื่อกันลมและฝนระหว่างการตรัสรู้ เป็นต้น

ในทางสากล งูยังโดดเด่นในฐานะของสัญลักษณ์แห่งการเยียวยารักษาด้วย โดยตำนานที่โด่งดังที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้คือเรื่องราวของเทพแอสคลิพิอุส (Asclepius) เทพเจ้าแห่งการแพทย์ การรักษา และการฟื้นคืนชีพ ที่เล่าถึงต้นตอพลังต่าง ๆ ของเขาว่ามาจากการได้พบเห็นงูตัวหนึ่งถูกฆ่าตาย แต่ไม่นานก็มีงูตัวหนึ่งนำสมุนไพรวิเศษมาชุบชีวิตงูตัวนั้นให้ฟื้นคืนขึ้น แอสเคลปิอุสเลยนำพลังแห่งการรักษานั้นมาพัฒนาต่อ จนสามารถชุบชีวิตมนุษย์ได้ งูจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนไม้เท้าของเขา ซึ่งในปัจจุบันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของวงการแพทย์ทั่วโลก

ในวงการภาพยนตร์ วรรณกรรม หรือป๊อปคัลเจอร์ต่าง ๆ ก็มีหลายเรื่องที่ใช้งูมาเป็นสัญลักษณ์เพื่อสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ ผู้พิทักษ์ และการเยียวยารักษา เช่น ตัวละคร ‘คาอา’ งูเหลือมยักษ์ผู้มีพลังวิเศษที่มองเห็นอดีตและอนาคตได้ ในภาพยนตร์เรื่อง The Jungle Book (2016) คาอาปรากฏตัวในรูปลักษณ์ที่ดูน่ากลัว แต่มีสุ้มเสียงทรงเสน่ห์ ลึกลับ เย้ายวน และทรงอำนาจ เมื่อรวมเข้ากับความสามารถในการสะกดจิตเมาคลี ก็ยิ่งชวนให้เราเชื่อมโยงเธอเข้ากับความศักดิ์สิทธิ์และพลังวิเศษได้อย่างชัดเจน

‘นากินี’ ในวรรณกรรมเรื่อง Harry Potter และ Fantastic Beasts ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้งูมาสื่อถึงความหมายในหลายมิติ อย่างในพาร์ทของภาค Fantastic Beasts นากินีปรากฏเป็นสตรีที่ต้องคำสาป (Maledictus) ผู้มีจิตใจดีและมุ่งปกป้องครีเดนซ์อย่างเต็มใจ พอเป็นในเรื่องราวใน Harry Potter เธอก็รับบทบาทเป็นฮอร์ครักซ์ (วัตถุในโลกเวทมนตร์ของ Harry Potter ที่ใช้เก็บส่วนหนึ่งของวิญญาณผู้สร้าง เพื่อให้ตัวเองเป็นอมตะ) ของโวลเดอมอร์ที่ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตของเขาเช่นกัน

งูในฐานะสัญลักษณ์ของปัญญาและโชคลาภ

ในวัฒนธรรมจีน งูไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความลึกลับและความน่าเกรงขามเท่านั้น แต่ยังถูกยกย่องว่าเป็นตัวแทนของปัญญาและโชคลาภอีกด้วย โดยงูมักถูกนำเสนอควบคู่กับความฉลาดและความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เช่น ตำนานเกี่ยวกับ ‘เทพฟูซี’ เทพผู้มีร่างครึ่งบนเป็นมนุษย์และครึ่งล่างเป็นงู ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งวัฒนธรรมจีน เขาเป็นผู้คิดค้นสิ่งสำคัญมากมาย เช่น เครื่องดนตรี การจับปลา การทำไฟ และ หลักการแปดทิศ ซึ่งกลายเป็นรากฐานของปรัชญาและศาสตร์แขนงต่าง ๆ

ในอีกด้านหนึ่ง งูยังเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและความมั่งคั่ง ความเชื่อนี้แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตกที่มักมองงูว่าเป็นลางร้าย โดยในตำนานจีนมีการกล่าวถึงงูสองหัวที่ชื่อ ‘เหว่ยถัว’ งูขนาดใหญ่ที่สวมเสื้อคลุมสีม่วง ผู้ใดที่พบเห็นเหว่ยถัวเชื่อว่าจะได้รับพรแห่งโชคลาภและสุขภาพ แม้รูปลักษณ์ของมันอาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นสัญญาณแห่งความสำเร็จและความโชคดี

เรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่รู้จักคือ ‘นางพญางูขาว’ ที่เล่าถึงหญิงสาวงดงามที่แท้จริงเป็นงูแปลงร่าง นางพญางูขาวเป็นสัญลักษณ์ของโชคชะตา ความรัก และความอุดมสมบูรณ์ แม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากกฎเกณฑ์ของสังคม แต่นางยังคงถูกจดจำในฐานะผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตนเชื่อ

ดังนั้น พอตรุษจีนปีนี้เป็นปีมะเส็งงูเล็ก คนเลยเชื่อกันว่าปีนี้จะเต็มไปด้วยโชคลาภ ความโชคดี รวมถึงใครที่เกิดในปีนี้ก็จะเป็นคนฉลาดหลักแหลมมีสติปัญญาด้วย

ในวัฒนธรรมอียิปต์ ‘เทพีวาเจ็ด’ (Goddess Wadjet) ก็เป็นตัวแทนแห่งปัญญาและความรอบรู้ ซึ่งสะท้อนผ่านรูปลักษณ์ของงูเห่า สัญลักษณ์ที่มีความลึกซึ้งในเชิงปรัชญาและศาสนา วาเจ็ดได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ดวงตาแห่งเทพรา’ (Eye of Ra) ผู้มีความสามารถในการมองการณ์ไกลและปกป้องจักรวาล เธอเป็นผู้พิทักษ์ที่ใช้ปัญญาและอำนาจในการปกป้องฟาโรห์และอาณาจักรจากอันตรายทั้งปวง

นอกจากนี้ เทพีวาเจ็ดยังถูกเชื่อมโยงกับการสร้างสมดุลในธรรมชาติ โดยเฉพาะในเรื่องการควบคุมพลังแห่งดวงอาทิตย์และการป้องกันภัยพิบัติ ความศักดิ์สิทธิ์ของเธอยังสะท้อนผ่านสัญลักษณ์ ‘อูราอุส’ (Uraeus) งูเห่าที่อยู่บนมงกุฎของฟาโรห์ ซึ่งแสดงถึงปัญญาอันสูงส่งที่นำมาซึ่งอำนาจและการปกครองที่ชาญฉลาด เทพีวาเจ็ดจึงไม่ได้เป็นเพียงผู้พิทักษ์ แต่ยังเป็นตัวแทนของการใช้ความรู้และสติปัญญาในการสร้างและรักษาความสมดุลในโลกและจักรวาล

สำหรับสื่อบันเทิงในยุคปัจจุบันที่ชวนให้เรานึกถึงการตีความงูในแง่ของการมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ก็คงจะเป็น ‘ไวเปอร์’ จาก Kung Fu Panda (2008) งูที่ฉลาดและสง่างาม แม้จะไม่มีเขี้ยว แต่เธอก็ใช้ความสามารถและไหวพริบในการช่วยเหลือทีมของเธอ ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดเรื่องงูในฐานะสัญลักษณ์ของปัญญาและการแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด

งูในฐานะสัญญะแห่งศาสตร์มืด ความลึกลับ และการล่อลวง

มาถึงความหมายที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือการตีความงูในฐานะของความชั่วร้าย ล่อลวง ลึกลับ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล งูได้ปรากฏตัวในฐานะผู้ล่อลวงอีฟให้กินผลไม้ต้องห้าม นำไปสู่การตื่นรู้ที่แลกมาด้วยการถูกขับไล่ออกจากสวนอีเดน งูในที่นี้จึงเป็นตัวแทนของการหลอกลวงและการล่อลวงมนุษย์สู่ด้านมืด

งูยังถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับอันตราย อันมาจากลักษณะการเคลื่อนไหวที่เงียบเชียบและเต็มไปด้วยความระมัดระวัง สร้างความรู้สึกถึงอันตรายที่ซ่อนเร้นและยากจะคาดเดา ในวัฒนธรรมบางแห่ง งูถูกมองว่าเป็นผู้นำทางระหว่างโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจทั้งแสงสว่างและความมืด รวมไปถึงศาสตร์มืดของพ่อมดแม่มดหรือพิธีกรรมลึกลับที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังเหนือธรรมชาติ

วรรณกรรมเรื่อง Harry Potter เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่าถึงการตีความความหมายของงูผ่านตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่อง นอกเหนือจากตัวละคร ‘นากินี’ ที่สะท้อนบทบาทผู้ปกป้อง ทั้งในการช่วยเหลือ ครีเดนซ์ และการเป็นฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์ ยังมีเรื่องราวของ ‘ซัลลาซาร์ สลิธีริน’ ผู้ก่อตั้งบ้านสลิธีริน ซึ่งมีความสามารถพูดภาษา ‘พาร์เซล’ (ภาษางู) เพื่อใช้ควบคุมงูและฝึกฝนศาสตร์มืดได้

หลังยุคของซัลลาซาร์ ความสามารถนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงทายาทของเขาเข้ากับศาสตร์มืด ตัวอย่างชัดเจนคือในภาคสอง Harry Potter and the Chamber of Secrets ที่ ‘งูบาซิลิสก์’ สัตว์ร้ายทรงพลังซึ่งอยู่ในการควบคุมของทายาทสลิธีริน ปรากฏตัวเป็นภัยคุกคามสำคัญในเรื่อง นอกจากนี้ โวลเดอมอร์เองยังถูกเชื่อมโยงกับงูอย่างต่อเนื่อง ทำให้งูกลายเป็นสัญลักษณ์ของศาสตร์มืดและความชั่วร้ายในโลกเวทมนตร์ ดังนั้น เมื่อผู้คนได้เห็นว่าแฮร์รี่สามารถพูดภาษาพาร์เซลได้ จึงทำให้ตกใจและหวาดระแวง เพราะในความเชื่อของพวกเขา งูได้ถูกตีความว่าเป็นตัวแทนของอำนาจมืดและอันตรายไปแล้ว

จากตัวอย่างทั้งหมดที่เล่ามาในบทความนี้จะเห็นได้เลยว่า ความหมายของงูไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความหลอกลวงหรือความชั่วร้ายเพียงด้านเดียว แต่ยังครอบคลุมถึงการเกิดใหม่ ความสมดุล พลังแห่งการรักษา ความศักดิ์สิทธิ์ ปัญญา และโชคลาภ ความหลากหลายนี้สะท้อนถึงความลึกซึ้งของมนุษย์ที่พยายามทำความเข้าใจโลกและธรรมชาติรอบตัว ส่งผลให้งูกลายเป็นกระจกสะท้อนวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งในศิลปะและป๊อปคัลเจอร์ ซึ่งช่วยหล่อหลอมให้เราได้ตระหนักถึงมิติต่าง ๆ ของมนุษย์เองที่ลุ่มลึกพอ ๆ กับตำนานและความเชื่อที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วย

อ้างอิง

Pruitt S. 9 Powerful Snakes from History and Mythology. HISTORY. Published February 18, 2020. Accessed January 29, 2025. https://www.history.com/news/snake-symbol-history-mythology

Snake Symbolism & Their Meaning in the Arts. Nicholas Wells Antiques Ltd. Published March 23, 2022. Accessed January 29, 2025. https://nicholaswells.com/news/snake-symbolism-their-meaning-in-the-arts/

Lesso R. Why Was Greek God Asclepius Linked With Snakes? TheCollector. Published May 13, 2022. Accessed January 29, 2025. https://www.thecollector.com/why-was-greek-god-asclepius-linked-with-snakes/

Mark JJ. Jörmungandr. World History Encyclopedia. Published September 2021. Accessed January 29, 2025. https://www.worldhistory.org/Jormungandr/

The. Wadjet | Protector, Ancient Symbol & Cobra. Encyclopedia Britannica. Published July 20, 1998. Accessed January 29, 2025. https://www.britannica.com/topic/Wadjet

Mark JJ. Apophis. World History Encyclopedia. Published April 25, 2017. Accessed January 29, 2025. https://www.worldhistory.org/Apophis/

Chao D. The Snake in Chinese Belief. Folklore.