สำหรับโลกศิลปะไทย หากเราถามถึงจุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจ เชื่อว่า ‘วัด’ จะต้องเป็นหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมที่ช่วยเติมไฟฝันในการสร้างงานให้กับศิลปิน เช่นเดียวกับ ‘อาร์ม - ปฏิภาณ เจริญสุข’ ครูศิลปะและศิลปินไทยอิสระผู้หลงรักการวาดวัดไทยในเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอความงามใหม่ ๆ ที่จะทำให้ทุกคนได้ลองตีความวัดและความเป็นไทยในมุมที่แปลกใหม่กว่าเดิม
เมื่อเริ่มพูดคุยกัน สิ่งแรกที่อาร์มเล่าให้เราฟังก็คือการพาเราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ อาร์มเล่าว่า “โดยปกติแล้วทางครอบครัวจะพาผมไปเที่ยวสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์รวมถึงวัดวาอารามต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ ผมเลยมีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยอยู่ตลอด”
“ผมยังได้แรงบันดาลใจมาจากครู อาจารย์ และศิลปินที่เคารพและชื่นชอบผลงานด้วย ทุกคนเป็นส่วนสำคัญในการติดอาวุธทางความคิดและฝีมือในการสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับตัวผมจริง ๆ เช่น ศาสตราจาร์พิเศษ อารี สุทธิพันธ์ ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ของอาจารย์ผมอีกที ถึงแม้ท่านจะมีวัยวุฒิที่สูงมากแต่ท่านยังคงทำงานศิลปะ และคิดค้นเทคนิควิธีการใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ผมเลยตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่าควรที่จะทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง และหมั่นพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาร์มจะได้แรงบันดาลใจมาจากวัดเป็นหลัก แต่วัดในภาพวาดของเขาก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป โดยเขาได้เล่ารายละเอียดในการทำงานและตีความวัดในสไตล์ของเขาให้ฟังว่า “ผมต้องการที่จะนำเสนอภาพสถาปัตยกรรมไทยด้วยเทคนิคและวิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นความงามของสถาปัตยกรรมไทยซึ่งเป็นมรดกที่ได้สั่งสม ขัดเกลา พัฒนาจนเกิดเป็นแบบอย่างของไทยเอง”
“เทคนิคที่นำมาใช้ คือการจัดองค์ประกอบและการใช้วัสดุเพื่อสร้างสรรค์ภาพที่หลากหลาย การที่ผมเคลือบสีพื้นชั้นที่หนึ่งจนทำให้เกิดลักษณะคล้ายลำแสงก็เพราะว่าตั้งใจจะสื่อให้เห็นถึงความจริงที่ไม่จริงในโลกนี้ กล่าวคือ คนเราทุกคนไม่สามารถมีความคิดเห็นหรือทัศนคติที่เหมือนกันได้ทุกประการ เนื่องจากคนเรามีประสบการณ์ต่างกัน จึงหล่อหลอมให้เกิดเป็นเราขึ้นมา เปรียบได้กับตัวอาคารที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา อีกสิ่งที่ผมคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลาคืองานของผมควรจะเป็นมิตรกับใจของผู้ดู ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ส่วนมาก ผมมักใช้เทคนิควาดเส้นปากกา สีน้ำ และสีอะคริลิคเป็นหลัก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนทักษะในการวาดภาพของผมด้วย อย่างแรกเลยคือการฝึกทักษะร่างภาพให้แม่นยำด้วยการวาดเส้นปากกา ต่อมาคือการทดลองเทคนิดใหม่ ๆ ด้วยสีน้ำ และสุดท้ายคือการวาดจริงด้วยสีอะคริลิค”
เขายังเสริมอีกว่า “เอาจริง ๆ ถ้าจะพูดถึงการฝึกฝน ผมขอบอกตามตรงว่า ผมได้ฝึกฝนมาตลอดตั้งแต่ประถม ถ้าถามว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ก็ขอตอบว่าเอามาจากความรักในศิลปะนั่นเอง”

“สำหรับตัวอย่างภาพที่ผมรู้สึกประทับใจที่สุด คงเป็นภาพวาดวัดสุวรรณดาราราม เพราะเป็นภาพที่ผมคิดว่าสมบูรณ์ที่สุดในเทคนิคล่าสุด ด้วยความลงตัวของสีและความงดงามของตัวสถาปัตยกรรม ทั้งนี้ผมได้ทำการจัดองค์ประกอบให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยการย้ายซุ้มประตูกำแพงแก้วมาไว้ตรงกลางภาพเพื่อความสมดุลย์ของภาพ”

“อีกภาพหนึ่งคือภาพวาดวัดระฆังโฆษิตาราม เพราะวัดนี้มีความสำคัญทั้งทางด้านศาสนาและด้านประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม เนื่องด้วยเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย จนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ คล้ายกับว่าเป็นแคปซูนกาลเวลาให้เราสามารถศึกษาได้เป็นอย่างดี”

ภาพนี้เป็นภาพที่มีความสำคัญมากอีกภาพหนึ่ง เนื่องด้วยเป็นภาพที่สองของเทคนิคการเคลือบสีที่ใช้ในปัจจุบันนี้ และยังเป็นภาพที่สามารถแสดงบรรยากาศของท้องฟ้านั้นตอน ใกล้ค่ำได้เป็นอย่างดี
ภาพพระวิหารพระฝาง เป็นภาพที่แสดงถึงความกล้าในการทดลองสิ่งใหม่ใหม่ตามที่อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ซึ่งความกล้าทดลองนี้ถือเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ใหม่ให้เกิดขึ้นได้





สำหรับใครที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมวัดไทยและการตีความในมุมมองแปลกใหม่ ก็สามารถติดตามผลงานของ ‘อาร์ม - ปฏิภาณ เจริญสุข’ ได้ทาง Instagram: Arm Patiphan