หากถามถึงภาพจำแรกที่หลายคนนึกถึงผลงานของ ‘BOUBOY’ หรือ ‘พัชรพล สิงหประชา’ เชื่อว่าเจ้าหน้ากาก ‘Smiley’ สีเหลืองที่คอยยิ้มแฉ่งให้ผู้ชมทุกภาพ น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนจดจำได้มากที่สุด แต่ถึงแม้ว่าศิลปินจะวาดภาพคนใส่หน้ากากเปื้อนยิ้มคอยส่งความสุขมาให้เราตลอด ทว่าสารที่แต่ละภาพถ่ายทอดออกมา กลับไม่ได้โฟกัสถึงเรื่องราวของความสุข แต่เป็นภาพสะท้อนถึงประเด็นต่าง ๆ ในสังคมต่างหาก

“เราค้นพบว่าตัวเองชอบศิลปะตอนมัธยม เพราะเราไม่เก่งวิชาอื่นแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า” ศิลปินเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินให้เราฟังอย่างอารมณ์ดี

“คือนับตั้งแต่ตอนนั้น เราก็มุ่งมั่นที่จะเป็นศิลปินเลย หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เราก็เริ่มต้นด้วยการวาดรูป แน่นอนว่าก็ต้องใช้เวลาอยู่นานในการค้นหาตัวเองกว่าจะเจอสไตล์ที่ใช่ แล้วพอเริ่มอยู่ตัวเราก็ขยับมาทำ NFT ขาย ต่อด้วยการจับงานเพ้นท์ติ้ง จนตอนนี้ก็กลายเป็นศิลปินแบบเต็มตัวแล้วจริง ๆ”

เขายังเล่าถึงเอกลักษณ์ในผลงานของตัวเองให้เราฟังด้วยว่า “จากที่ถามคนอื่น ๆ มาว่ามองงานเรายังไง คำตอบก็คือเรื่องของสัญญะในภาพ และองค์ประกอบศิลป์ที่จัดวาง ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะว่าสิ่งนี้บ่งบอกลายเซ็นต์ความเป็น BOUBOY เลย เพราะมันจะผสมอยู่ระหว่างความเป็นภาพประกอบกับไฟน์อาร์ต ที่เหลือพื้นที่ให้คนตีความต่อได้หลายอย่าง โดยเฉพาะตัวหน้ากากยิ้มที่สามารถสื่อได้หลายความหมายมาก”

“แบบว่าพอเป็นหน้ากากยิ้ม เท่ากับว่าคาแรกเตอร์ที่เราปั้นขึ้นมามันจะไม่ได้มีความเป็นปัจเจกและไม่ตายตัว เราเลยสามารถหยิบเอาเกร็ดประวัติศาสตร์ หรือเรื่องราวจิกกัดสังคมมาใส่ลงไปในตัวละครเหล่านี้ได้แบบซ้ำ ๆ แต่ให้ความหมายที่ไม่ซ้ำ เพราะคนจะไม่ได้โฟกัสที่ตัวละครในภาพ แต่สนใจเรื่องราวที่เรากำลังเล่า เมื่อประกอบเข้าหน้ากากสีเหลืองเปื้อนยิ้มที่ถึงแม้ว่ามันจะยิ้ม แต่ก็ดูไร้ความรู้สึก มันเลยเอื้อให้คนดูสามารถใช้ประสบการณ์ที่เคยพบเจอมา มาตีความภาพของเราในแบบของตัวเองได้” BOUBOY
อธิบาย

นอกเหนือจากหน้ากากยิ้มแล้ว BOUBOY ยังใส่สัญลักษณ์อื่น ๆ เพิ่มเข้าไปในภาพด้วย แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งเขาก็อธิบายถึงส่วนนี้ว่า “จริง ๆ เพราะเราชอบรูปทรงนี้มาก ๆ เลยอยากใส่ไว้ในทุกภาพเลย”

“จะว่ายังไงดี คือเรามองว่ารูปทรงเรขาคณิตคือรูปร่างพื้นฐานของทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพราะเป็นรูปทรงที่เรียบง่าย มีมาแต่โบราณ และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ยังมองว่าเรขาคณิตสวยเสมอ มันเหนือกาลเวลามาก ๆ เราเลยอยากใส่รูปทรงต้นกำเนิดเหล่านี้ไว้ในงานของเรา ให้เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบศิลป์ที่บ่งบอกความเป็น BOUBOY”

ศิลปินยังกล่าวกับเราอีกว่า “จริง ๆ การเริ่มต้นหาสไตล์ของตัวเองมันยากมากเลยนะ เชื่อว่านักศึกษาศิลปะทุกคน หรือคนที่อยากทำศิลปะทุกคนจะเข้าใจกันดี แต่ถ้าใครยังหาทางไม่เจอจริง ๆ เรามองว่าอาจจะเริ่มจากหาให้เจอก่อนว่าเราชอบอะไร คือไม่ต้องไปตามกระแสนะ แต่ต้องเป็นเรา แล้วก็ทำสิ่งนั้นซ้ำ ๆ ถ้าหนึ่งเดือนมันยังไม่เวิร์ค ก็เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ และถ้าเชื่อว่าสิ่งที่เราทำมันดีอ่ะ มันจะมีคนเห็น เพราะเวลาคนที่เขาอยากสนับสนุนเรา หรือเก็บผลงานของเราเขามองมา เขาก็ใช้เวลาติดตามเราเป็นปี ๆ เหมือนกัน กว่าจะเชื่อมั่นว่าสไตล์ของเราจะไม่เปลี่ยนง่าย ๆ และดีขึ้นเรื่อย ๆ และที่สำคัญกว่านั้นคือเรื่องของความสม่ำเสมอ เราต้องทำงานต่อไปทุกวัน อย่าหยุด แบบนั้นเลย”

สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของ BOUBOY ตอนนี้ นอกจากทุกคนจะติดตามผลงานของเขาได้บนโลกออนไลน์แล้ว ก็ยังสามารถตามไปส่องภาพวาดจิกกัดสังคมของคนมีรอยยิ้มแบบใกล้ ๆ กันได้ที่นิทรรศการ ‘Artist on Our Radar’ ที่จัดแสดงให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ - 17 มี.ค. 2567 ณ MMAD MASS GALLERY ชั้น 2 โซน MMAD, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ด้วย มากันเยอะ ๆ น้า

ติดตามผลงานของ BOUBOYเพิ่มเติมได้ที่ BOUBOY