ถ้าหากวิดีโอแคสต์เกมของคุณถูกรีพอร์ตเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงที่ใช้ในคลิป เราพนันได้เลยว่า คนทั่วไป 99.99% น่าจะเลือกลบคลิปเจ้าปัญหา และหันไปเลือกใช้เพลงไร้ลิขสิทธิ์ที่มีให้เหล่าครีเอเตอร์ทั่วโลกได้เลือกใช้แบบฟรี ๆ กันอย่างแน่นอน
แต่ไม่ใช่กับ เดวิด แอนโธนี เบิร์ก (David Anthony Burke) เด็กหนุ่มวัยมัธยมธรรมดา ๆ จากฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ที่หลงใหลในเกม Fortnite จนเริ่มบทบาทในฐานะสตรีมเมอร์ในโลกออนไลน์ และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Esport อย่าง Team Limit แต่ด้วยปัญหาลิขสิทธิ์เพลงที่เขาต้องพบเจอบ่อย ๆ ทำให้เดวิดขอเป็นคน 0.01% ที่เลือกหันมาทดลองทำเพลงง่าย ๆ ด้วยตัวเองเพื่อใช้ประกอบในวิดีโอของเขา โดยใช้เครื่องมือเพียงแค่ 3 อย่างคือ โทรศัพท์ iPhone หูฟังที่แถมมากับตัวเครื่อง และแอพ BandLab แถมทุกอย่างยังเกิดขึ้นภายในตู้เสื้อผ้าของพี่สาวเท่านั้น!
นอกจากคราวนี้ เดวิดจะไม่โดนรีพอร์ตแล้ว เพลงที่เขาทำเล่น ๆ ยังฟังดูดีจนไปโดนใจใครหลาย ๆ คนมากกว่าที่เคยคาดคิด ซึ่งพอเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย เลือกสานต่อเส้นทางศิลปินในชื่อ d4vd (เขียนยาก แต่ก็อ่านว่า ‘เดวิด’ นั่นแหละ) และภายใน 1 ปีที่เขาเริ่มต้นทำเพลง เดวิดก็ได้ปล่อยซิงเกิลฮิตทั้งบนชาร์ทวิทยุและแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง TikTok ออกมาหลายต่อหลายเพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘Here With Me’ หรือ ‘Romantic Homicide’ ที่ต่างก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาน แถมเขายังได้เซ็นสัญญากับ Darkroom ค่ายย่อยในเครือ Interscope Records ต้นสังกัดของศิลปินดัง ๆ ระดับโลกมากมายด้วย เรียกได้ว่า ในวัยเพียง 18 ปี เดวิดได้ขึ้นแท่นเป็นนักดนตรีรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองเป็นลำดับต้น ๆ ของวงการเพลงตอนนี้เลยทีเดียว
เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะระบุแนวเพลงของเดวิดว่าเป็นสไตล์ไหนดี เพราะในหมู่มวลผลงานหลายสิบบทเพลงที่เขาได้ทยอยปล่อยออกมาให้เราได้รับฟังจนถึงปัจจุบันก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของแนวเพลงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป็อป ร็อก อินดี้ หรือแม้แต่สำเนียงดนตรีแบบชูเกซติดย้อนยุคนิด ๆ ที่เห็นได้ชัดสุด ๆ ในบทเพลงอย่าง ‘Dirty Secrets’ เองก็ยังมีความน่าสนใจสุด ๆ ที่เด็กหนุ่มนักสตรีมเกมธรรมดา ๆ คนนี้สามารถหยิบจับเพลงแนวไหนก็ดูจะทำได้ดีไปซะหมด
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เดวิดก็เพิ่งจะปล่อย Petals To Thorns อีพีอัลบั้มแรกในชีวิตที่ประกอบไปด้วย 9 บทเพลง 9 สไตล์ ที่มีทั้งซิงเกิลเก่าที่เคยถูกปล่อยให้เราได้รับฟังก่อนหน้านี้ รวมไปถึงบทเพลงใหม่บางส่วนที่ยังคงความดีงามไว้เช่นเดิม เกิดเป็นส่วนผสมทางดนตรีรสชาติใหม่ที่มีตั้งแต่เพลงรักหวานซึ้งชวนฝัน ไปจนถึงดนตรีที่พาเราดำดิ่งลงไปสำรวจความดำมืดในจิตใจมนุษย์ สะท้อนภาพความสดใส แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความว้าวุ่นภายในจิตใจของมนุษย์ Gen Z แบบเดวิดได้เป็นอย่างดี
ใครที่อยากลองฟังผลงานเพลงของศิลปินหนุ่มอนาคตไกลคนนี้แบบเต็ม ๆ ก็สามารถตามไปฟังกันต่อได้ที่: https://d4vdth.lnk.to/PTTPR
แทร็คลิสต์ในอีพีอัลบั้ม Petals To Thorns:
Sleep Well
Here With Me
This Is How It Feels (feat. Laufey)
Don't Forget About Me
WORTHLESS
Backstreet Girl
You and I
Romantic Homicide
The Bridge