GC Guide to Ghost2568 คู่มือทำความเข้าใจ ‘ภูติผี’ ในเทศกาลศิลปะวิดีโอและการแสดงที่กลับมา ‘เฮี้ยน’ เป็นครั้งสุดท้าย

Post on 30 October 2025

‘กรุงเทพฯ’ มหานครที่เทพสร้างแห่งนี้ อาจเต็มไปด้วยเทศกาลและพิธีกรรมเกี่ยวกับภูติผี แต่เรายังคงต้องการ ‘อีกพื้นที่หนึ่ง’ สำหรับเหล่าผู้ที่ไร้ร่าง ไร้ตัวตน พลัดถิ่น หรือแม้แต่ไร้เสียงที่จะส่งถึงผู้อื่นได้ เราอาจมีพิธีกรรมที่ว่าด้วยภูติผีอยู่ตลอดทั้งปี มีเจ้าที่เจ้าทางกระจายอยู่ทั่วเมือง ทว่าก็ยังไม่แน่ใจนักว่า ความเข้าใจและสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับสิ่งเหล่านั้น ยังคงลึกซึ้งแน่นแฟ้นดังเดิมอยู่หรือไม่

หลังจากสร้างกระแสความสนใจต่อ ‘ทุกสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์’ และนำเสนอสื่อศิลปะที่เล่นกับเวลาอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่ปี 2561 เทศกาลศิลปะวิดีโอและการแสดง ‘Ghost’ ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2568 พร้อมชื่องานสุดท้าย ‘Ghost 2568: หากเราได้อยู่ด้วยกัน’ (Ghost 2568: Wish We Were Here) งานครั้งนี้ทำหน้าที่เป็นพื้นที่กลาง เปิดรับการมีส่วนร่วมจากศิลปิน แฟชั่นดีไซเนอร์ นักเต้น กวี นักดนตรี เพื่อนบ้าน ไปจนถึงนักปฏิบัติด้านอภิปรัชญา ภายใต้แนวคิด ‘ความเป็นภูติผี’ หรือ ‘Ghost’ ตลอด 5 สัปดาห์ข้างหน้า พื้นที่นับสิบแห่งทั่วกรุงเทพฯ จะเต็มไปด้วยผลงานศิลปะจัดวาง การแสดงสด ดนตรี กิจกรรมเสวนา และโปรแกรมสาธารณะอีกมากมาย

นี่ไม่ใช่งานศิลปะที่ตั้งใจมาหลอนหรือเขย่าขวัญ (แม้งานบางชิ้นอาจสร้างความรู้สึกนั้นได้บ้าง) แต่ ‘ภูติผี’ ในที่นี้ถูกใช้เป็นคำชวนให้เราหันกลับมาทบทวน อาจมองได้ทั้งในฐานะวิธีคิด วิธีปฏิบัติ หรือแม้กระทั่งเป็นการเรียกหาสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป ผู้จัดอธิบายว่า ‘พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนที่หลบพักของความปรารถนา ความผูกพัน และความคิดถึง ทั้งต่อกันและกัน ต่อสถานที่ที่สูญหาย และต่อวิถีการดำรงอยู่ที่เคยมี’

นี่คือช่วงเวลาและพื้นที่ ที่ ‘ภูติผี’ จะได้กลายเป็นศูนย์กลางของความคิดและความรู้สึกของพวกเรา ท่ามกลางสภาวะที่เสรีภาพถูกบีบแคบ งานศิลปะในครั้งนี้อาจมอบทั้งพลังปลอบโยน โอกาสให้พบปะ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันทั้งความสุข การต่อต้าน และความเศร้าไปพร้อมกัน ที่สำคัญยังเป็นการก่อกวนต่อโลกที่คุกคามเรา ให้เราได้ส่งเสียงอีกด้านหนึ่ง เพื่อตอบสนองต่อความอัดอั้นที่กำลังเกิดขึ้น

👻ทำไมต้อง ‘ผี’ ?

แนวคิดเรื่อง Ghost หรือ ภูติผี ดูเหมือนจะมีความสำคัญมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะในสังคมที่ประวัติศาสตร์ถูกตัดตอน หลอกหลอน และตกค้าง แต่ยังคงมีชีวิตอยู่ในความเป็นจริงของปัจจุบัน นักปรัชญา มานุษยวิทยา และผู้ศึกษาสังคมในศาสตร์ต่าง ๆ ให้ความสนใจแนวคิดนี้อย่างมาก โดยเฉพาะการศึกษาปรากฏการณ์ ‘หลอกหลอน’ (Hauntology) ของภูติผีที่สะท้อนในศิลปะ สื่อ และงานสร้างสรรค์ เพื่อสำรวจอิทธิพลของ ‘อดีต’ ที่ยังคงส่งผลถึงความรู้สึกนึกคิดของผู้คนและสังคมในปัจจุบัน

Hauntology เป็นแนวคิดทางปรัชญาและวัฒนธรรมที่อธิบายการคงอยู่ของอดีตในปัจจุบัน ผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘ผี’ แต่ผีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสิ่งเหนือธรรมชาติจริง ๆ หากเป็นสัญลักษณ์ของร่องรอยหรือผลกระทบจากอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ผีใน Hauntology แสดงถึงความต่อเนื่องของประวัติศาสตร์ ความคิด อุดมการณ์ หรืออนาคตที่เคยคาดหวัง แม้สิ่งเหล่านี้อาจถูกมองว่าหายไป สูญสิ้น หรือหมดความสำคัญแล้วก็ตาม

แนวคิดนี้ชี้ให้เห็นว่าอดีตไม่ได้จบไปจริง ๆ มันยัง ‘หลอกหลอน’ ปัจจุบันในลักษณะที่จับต้องไม่ได้ แต่สามารถส่งผลต่อวัฒนธรรม ความคิด และสังคมได้อย่างชัดเจน ผีเหล่านี้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ที่ยังไม่คลี่คลาย อนาคตที่สูญหาย หรือสิ่งที่ถูกกดทับในสังคม ทำให้เราเห็นว่าปัจจุบันมักถูกซ้อนทับด้วยสิ่งที่เคยเป็น สิ่งที่อาจเกิดขึ้น หรือสิ่งที่หายไป

Hauntology ยังเน้นถึงความขัดแย้งของเวลา ปัจจุบันถูกหลอกหลอนโดยสิ่งที่ไม่อยู่แล้วหรือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ๆ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตจึงไม่ชัดเจนและซ้อนทับกันอยู่ การหลอกหลอนของอดีตนี้ไม่จำกัดเพียงความทรงจำส่วนตัว แต่รวมถึงอุดมการณ์ทางการเมือง วัฒนธรรม และสังคม เช่น ลัทธิมาร์กซิสต์หรือแนวคิดปฏิวัติที่ถูกประกาศว่าหมดอายุหรือยุติแล้ว แต่ยังคงหลอกหลอนวิธีคิดและโครงสร้างสังคมปัจจุบัน

ในทางปฏิบัติ Hauntology ถูกนำไปใช้ในหลายสาขา ตั้งแต่ศิลปะ วรรณกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ และสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะในงานศิลปะและสื่อสร้างสรรค์ ผีหรือร่องรอยเหล่านี้ถูกใช้เพื่อแสดงความคิดถึง ความทรงจำ หรืออนาคตที่ไม่เกิดขึ้นจริง ตัวอย่างเช่นในวรรณกรรม Thomas Pynchon หรือ Haruki Murakami ตัวละครและเรื่องราวมักถูกหลอกหลอนด้วยอดีตและความทรงจำที่ยังไม่คลี่คลาย หรือในภาพยนตร์ของ David Lynch และ Tarkovsky เรื่องราวราวกับฝันและเวลาแตกกระจาย ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงบาดแผลอดีต ความคาดหวังที่ไม่เกิดขึ้น และความไม่แน่นอนของชีวิต

👻Ghost 2568: ศิลปะแห่งการหลอกหลอนอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ในบริบทของ Ghost 2568 แนวคิดนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าแต่ละงานศิลปะไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราชม แต่เป็นร่องรอยของอดีต ความทรงจำ หรืออนาคตที่ยังไม่เกิด เช่น งานวิดีโอจัดวาง งานการแสดง หรือเสียง จะทำให้ผู้ชมชะลอเวลา ช่วยให้สังเกตรายละเอียด และสัมผัสความสัมพันธ์ระหว่างอดีตและปัจจุบัน งานเหล่านี้เหมือนเชื้อเชิญให้เราปล่อยตัวเองอยู่กับสิ่งที่หลอกหลอนเรา ทั้งในแง่ความคิด ความรู้สึก และความทรงจำ

Ghost 2568 จัดเต็มกิจกรรมกระจายไปตามสถานที่ต่าง ๆ กว่าสิบจุดทั่วกรุงเทพฯ มากจนดูปฏิทินแล้วแทบเลือกไม่ถูก GROUNDCONTROL เลยอยากชวนคุณมาลองวางแผน เตรียมตัวออกไปสำรวจ ‘งานผี ๆ’ ครั้งนี้ด้วยกัน เปิดใจให้พร้อม แล้วคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ศิลปะอย่างเต็มที่! มาดูกันว่าเราจะไปชมงานไหนได้บ้าง และยังมีอะไรน่าสนใจรอให้ค้นหา กับลิสต์ผลงานและกิจกรรมครบถ้วนในฉบับนี้

เตรียม ‘เวลา’ ไปหาผี

นอกจากจะเป็นเทศกาลแห่งภูติผี Ghost 2568 ยังเป็นเทศกาลศิลปะที่ให้ ‘เวลา’ เป็นองค์ประกอบสำคัญด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานวิดีโอ งานเสียง หรือการแสดงสด ทุก ๆ ชิ้นงานล้วนเรียกร้องให้ผู้ชมแบ่งเวลาให้กับมัน เพราะการสัมผัสหรือรับรู้การมีอยู่ของ ‘ผี’ ก็ต้องอาศัยเวลาเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น นิราศรางคู่ โดย อรวรรณ อรุณรักษ์ ที่ Asvin Cultural and Contemporary Art Space ใช้จังหวะของบทกวีไทยอย่างนิราศ และการเคลื่อนที่ของมนุษย์กับรถไฟ งานนี้ชวนให้เราชะลอเวลา บางครั้งต้องนั่งรอ หรือปล่อยให้ตัวเองเคลื่อนผ่านจังหวะช้า ๆ เพื่อเข้าใจความหมายของการเดินทางอย่างลึกซึ้ง

อีกตัวอย่างคือ Patience ของ แดน ลี (Dan Lie) ที่ BANGKOK CITYCITY GALLERY งานจัดวางนี้ทำงานร่วมกับ ‘สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์’ อย่างดอกไม้ และประสบการณ์ของผู้ชมจะเปลี่ยนไปตามเวลา ผ่านกลิ่นที่แตกต่างและการออกแบบแสงที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง ทำให้ความรู้สึกของเราเปลี่ยนไปตามการเฝ้าสังเกต

ดังนั้น หากไปชมงานแบบรีบร้อน อาจไม่ได้สัมผัสประสบการณ์เต็มรูปแบบเท่ากับการปล่อยเวลาให้กับแต่ละงาน ช้า ๆ สังเกต และปล่อยตัวเองอยู่กับมัน จะช่วยให้เราเข้าใจทั้งแนวคิดและความเป็นผีในงานได้อย่างแท้จริง

วางความเชื่อ วางประวัติศาสตร์

อย่าเพิ่งกังวลว่าต้องอ่านหนังสือหรือเตรียมความรู้มากมายก่อนจะมาชมงานศิลปะครั้งนี้ เพราะแม้ ‘ความรู้เดิม’ จะมีความสำคัญ (อ้าว จริง!) แต่การเปิดใจ 'รื้อ' ความคิดที่เรามีอยู่ เพื่อรับมุมมองใหม่ ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในโลกที่องค์ความรู้จำนวนมากถูกสร้างขึ้นบนฐานความคิดที่มีอคติทางเพศ หรือกีดกันวัฒนธรรมความรู้ดั้งเดิม

อย่างเช่นผลงาน holding the world between ที่จัดขึ้นที่บ้านเทเวศร์ โดย ธาริณี เกรแฮม, โรซาเลีย น้ำใส เอ่งฉ้วน, เอ็มจา, แสงฟ้า, The Sound Nutritionist, ไทยรัฐ ลิ้ม และชุมชนอนุรักษ์นวัตวิถี บ้านเจ้าไหม งานนี้ชวนผู้ชมมาทำความเข้าใจ 'ภววิทยาแห่งหมอตำแย' พร้อมตั้งคำถามต่อความเชื่อที่ฝังอยู่ในวิทยาศาสตร์การแพทย์กระแสหลัก เพื่อมองเห็นจักรวาลวิทยาและนิเวศวิทยาในอีกมิติหนึ่ง

หรือ Phantoms of Endless Day (GHOST loops) ผลงานของ โฮ ซู เงียน (Ho Tzu Nyen) ที่ Dib26 ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ ภาพบนจออาจทำให้นึกถึงทหารเอเชียในช่วงสงครามโลก แต่หากมองไปเรื่อย ๆ งานนี้อาจพาเราไปจินตนาการและตีความประวัติศาสตร์ในรูปแบบที่คาดไม่ถึง

ลอง ‘จดจำ’ ใหม่ (ในอีกรูปแบบหนึ่ง)

งานศิลปะแต่ละชิ้นใน Ghost 2568 ทำหน้าที่เหมือนบทบันทึกหรือการจดจำประสบการณ์ ทั้งของตัวเราเองและของสังคมรอบตัวเรา ตัวอย่างเช่น Activating Archive: Eating an Apple While Lucid Dreaming 2568 ที่จัดแสดงที่พื้นที่ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยอัศวิน โดย โคคิ ทานากะ ร่วมกับ Host:2568 หรือ 'โฮสต์' ซึ่งทำหน้าที่ดูแลงานศิลปะ เล่าเรื่อง และมีส่วนร่วมสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ชม

งานนี้พาผู้ชมไปสำรวจประวัติศาสตร์และอนาคตในเชิงคาดการณ์ ผ่านรูปแบบโครงการเชิงคลังข้อมูลที่ทดลองและท้าทายวิธีคิดแบบเดิม ๆ กระบวนการของงานไม่ได้แค่ให้ข้อมูลหรือเล่าเรื่องราว แต่ตั้งคำถามต่อความทรงจำของเรา ต่อวิธีที่เราบันทึกและตีความประวัติศาสตร์ และต่อความสัมพันธ์ระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ในเชิงประสบการณ์ งานนี้ทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง เราไม่เพียงดูงาน แต่สามารถทดลอง 'เล่น' กับความทรงจำของตัวเอง ปรับมุมมอง และตั้งคำถามกับนิยามของประวัติศาสตร์และความทรงจำ ทำให้ความทรงจำไม่ใช่สิ่งคงที่ แต่เป็นพื้นที่ที่เปิดให้เราโต้ตอบ ค้นหา และสร้างความหมายใหม่ร่วมกัน

ลืมมนุษย์ (ไปก่อน)

งานศิลปะบางชิ้นใน Ghost 2568 ชวนให้เราตั้งคำถามต่อบทบาทของตัวเองในเรื่องราวของโลกนี้ เราไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเอกในทุกฉาก ทุกเหตุการณ์ บางครั้งการสังเกตและให้สิ่งอื่นเป็นศูนย์กลางกลับช่วยให้เราเรียนรู้ได้มากกว่าเดิม

ตัวอย่างเช่น Search for Life II ของ สเตฟานี โกมิแลง (Stephanie Comilang) ที่ Dib26 งานนี้ใช้ 'ไข่มุก' เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก แต่แทนที่จะเล่าเรื่องตามมุมมองของมนุษย์ ไข่มุกกลับสะท้อนปัญหาเชิงสังคมและประวัติศาสตร์ ตั้งแต่การอพยพ แรงงาน การพลัดถิ่น ไปจนถึงบทบาทของเทคโนโลยีในชีวิตผู้คน

การนำไข่มุกมาเป็นตัวกลางไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ทางวัตถุ แต่ยังสะท้อนมิติของคุณค่าและมูลค่าที่ถูกสร้างขึ้นในวัฒนธรรมระดับโลก งานนี้ชวนให้ผู้ชมพิจารณาว่า 'สิ่งที่เรามองว่าเป็นศูนย์กลางหรือสำคัญจริง ๆ คืออะไร' และช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ สิ่งของ และสังคม

ประสบการณ์ของผู้ชมจึงไม่ใช่แค่การรับชม แต่เป็นการมีส่วนร่วมในการตั้งคำถาม ร่วมตีความ และค้นหาความหมายใหม่ ๆ ของสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา การให้สิ่งอื่นเป็นตัวเอกในงานศิลปะครั้งนี้ ทำให้เราได้ฝึกสังเกต เรียนรู้ และเข้าใจโลกในมิติที่หลากหลายมากขึ้น

งานนี้ขอคนไม่เล่น

การเข้าใจงานศิลปะไม่จำเป็นต้องเริ่มจากความรู้เชิงวิชาการเสมอไป หลายครั้งเราสามารถเริ่มจากประสบการณ์ตรงของตัวเองกับชิ้นงานนั้น ๆ ก่อน เช่น การดู ฟัง หรือสัมผัส แต่สิ่งสำคัญคือหลายชิ้นงานเปิดโอกาสให้เราเรียนรู้และมีส่วนร่วมได้มากกว่าการรับชมแบบทั่วไป

ตัวอย่างเช่น CAPITAL COMPLEX ของ ธนัช ธีระดากร ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดแสดง แต่เป็น 'เต๊นอำนวยการ' ที่ส่งเสียงและเรียกผู้ชมให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับสิ่งที่เรียกว่า 'ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวไทย' ภายใน ผู้ชมสามารถสำรวจเนื้อหาที่ศิลปินรวบรวมไว้ สืบค้นเรื่องราว และสังเกตวิธีที่ศิลปินนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ ทำให้เรามองเห็นการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูล สังคม และวิธีที่เรารับรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในชีวิตประจำวัน

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ หนีผีไปหาผัว (SEXY ARCADE at GHOST:2568) โดย IWANNABANGKOK© ที่ BANGKOK CITYCITY GALLERY งานนี้ใช้เกมตู้เป็นสื่อกลาง ชวนผู้ชม 'ดำดิ่ง' เข้าไปสัมผัสชีวิตของตัวละครที่เรียกว่า 'เจ้าแม่นมสามเต้า' ผู้ชมไม่ได้เป็นเพียงผู้ดู แต่กลายเป็นผู้เล่น ผู้มีปฏิสัมพันธ์กับเรื่องราว ทำให้เกิดประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ และเปิดโอกาสให้เราเข้าใจเรื่องราวในมิติที่ลึกซึ้งกว่าการอ่านคำบรรยายเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ Ghost 2568 ยังมีโปรแกรม Host:2568 ซึ่งรวบรวม 'โฮสต์' ทั้ง 12 คน คิวเรทโดย พงศกรณ์ ญาณะณิสสร พวกเขากระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในงานเพื่อช่วยชี้นำและเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ชม โฮสต์จะทำหน้าที่เหมือนเพื่อนร่วมทาง พาผู้ชมเข้าไปสำรวจเนื้อหาของงานศิลปะในเชิงลึก สร้างบทสนทนา และเปิดมุมมองที่เราอาจมองไม่เห็นหากเพียงเดินชมงานด้วยตัวเอง

ทั้งหมดนี้ทำให้ Ghost 2568 เป็นงานศิลปะที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การรับชม แต่เป็นพื้นที่ให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วม ทดลองตั้งคำถาม เปิดประสบการณ์ และเรียนรู้วิธีเข้าใจโลกผ่านมุมมองใหม่ ๆ ของศิลปินและสังคมรอบตัว

ตามหา ‘ผี’ ใน 14 จุดทั่วกรุงเทพฯ

Ghost 2568: Wish We Were Here ๏ Ghost 2568: หากเราได้อยู่ด้วยกัน อีดิชั่นสุดท้ายของ Ghost ซีรีส์ผลงานวิดีโอและศิลปะการแสดง คิวเรทโดย อามาล คาลาฟ ร่วมกับ คริสติน่า ลี กรกฤต อรุณานนท์ชัย และ พงศกรณ์ ญาณะณิสสร เปิดให้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันนี้ – 16 พฤศจิกายน 2568 โดยจะมีกิจกรรมพิเศษอีกมากรอเราอยู่ ที่ 14 พื้นที่

งานนี้มีทั้งสถานที่จัดวางอย่างเนี้ยบในพื้นที่ศิลปะที่คุ้นหูกันดีอย่าง BANGKOK CITYCITY GALLERY, The Jim Thompson Art Center, BACC และที่มาใหม่มาแรงอย่าง Asvin Cultural and Contemporary Art Space และ DIB26

และอยากแนะนำให้ไปเปิดแมปเท่ ๆ กันที่พื้นที่ประวัติศาสตร์ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวดั้งเดิมบวกกับเรื่องราวใหม่ อย่างเช่น บ้านเทเวศร์, อาคารมินเซนแมชีนเนอรี่ (อาคารเอ็มเอสเอ็ม) และเวทีมวยราชดำเนิน!!!

งานนี้แต่ละที่มีการคัดสรรแบบเฉพาะตัวทั้งนั้น สเปซส่งงาน งานส่งสเปซ เรื่องเล่าสะท้อนกันไปมา และประสบการณ์ที่ได้ก็เกินกว่าที่ตาเห็นไปมาก ถ้าสนใจ ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ghost2568.com/

๏ 469 ถนนพระสุเมรุ
จัดแสดงผลงาน ดอกน้ำ ฟองทราย (a jewel in the mud) โดย จัน เพ็ญจันทร์ ลาซูส

๏ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ
จัดการแสดงสด Ghostly Intermittance โดย Raqs Media Collective

๏ พื้นที่ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยอัศวิน
จัดแสดงผลงาน Activating Archive: Eating an Apple While Lucid Dreaming 2568 โดย Koki Tanaka and Host:2568 Collective และนิราศรางคู่ โดย อรวรรณ อรุณรักษ์
พร้อมการขับถ้อยคำเชิงการแสดงนิราศรางคู่ โดย อรวรรณ อรุณรักษ์
และงานเสวนาศิลปินโคคิ ทานากะ และ อรวรรณ อรุณรักษ์ กับคริสติน่า ลี

๏ บ้านเทเวศร์
จัดแสดงผลงาน holding the world between
โดย Tarini Graham, Rosalia Namsai Engchuan, EMJA, Saeng-Fah, The Sound Nutritionist, Thairat Lim and Chao Mai Community Enterprise ๏ ธาริณี เกรแฮม, โรซาเลีย น้ำใส เอ่งฉ้วน, เอ็มจา, แสงฟ้า, เดอะซาวด์นิวทริชั่นนิส, ไทยรัฐ ลิ้ม และ ชุมชนอนุรักษ์นวัตวิถี บ้านเจ้าไหม
และ Afterlives และ Prophecy โดยมนธิการ์ คำออน
และ Non-Visitor Center โดย Don’t Follow the Wind with Chim↑Pom from Smappa!Group, Aiko Miyanaga and Kota Takeuchi
พร้อมกิจกรรม Opening Ritual 'กำเนิดเปิดบ้าน' โดย ธาริณี เกรแฮม, โรซาเลีย น้ำใส เอ่งฉ้วน, เอ็มจา, แสงฟ้า, เดอะซาวด์นิวทริชั่นนิส, ไทยรัฐ ลิ้ม และ ชุมชนอนุรักษ์นวัตวิถี บ้านเจ้าไหม
และงานเสวนาศิลปิน

๏ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
จัดแสดงผลงาน CAPITAL COMPLEX โดย ธนัช ธีระดากร และ untitled 2023 (sitcom ghost) โดยฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช
และการแสดงสด CLUB PARASITE: CAPITAL COMPLEX presents RasaDrums, Tanat Teeradakorn, Raja Kirik, and Barbara Pleaser

๏ บางกอก ซิตี้ซิตี้ แกลเลอรี่
จัดแสดงผลงาน Patience โดย Dan Lie และ หนีผีไปหาผัว (SEXY ARCADE at GHOST:2568) โดย IWANNABANGKOK©
และโปรแกรมดนตรี
Vajranala โดย Senyawa
SOUNDing โดย NUH PEACE
The Gateway Program โดย Regis
Wrong Planet โดย Gatekeeper
Nor Order Or Splendor โดย Bonaventure
untitled โดย Ashland Mines
และการแสดงสด หนีผีไปหาผัว (SEXY ARCADE at GHOST:2568) โดย IWANNABANGKOK©

๏ ดิบ26
จัดแสดงงาน Phantoms of Endless Day (GHOST loops) โดย Ho Tzu Nyen
Boyfriend / Lover / Hustler (A Trilogy for Ghost) โดย Shahryar Nashat
และ Search for Life II โดย Stephanie Comilang
และจัดงานเสวนาศิลปิน

๏ ไอ วอนนา แบงคอค
จัดงาน IWANNABANGKOK© x Ghost:2568 Collection Launch

๏ อาคารมินเซนแมชีนเนอรี่ (อาคารเอ็มเอสเอ็ม)
จัดแสดงงาน Banig Dreams และ Biraddali Dancing on the Horizon โดย Bhenji Ra
Whether Line และ TITLE WAIVE โดย Ryan Trecartin
Black Friday โดย Sophia Al-Maria
และมีการแสดงสด COMRADE, MIRACLE, CURSE โดย ธนพล วิรุฬหกุล และ แบ็ครูม

๏ เวทีมวยราชดำเนิน
จัดการแสดงสด Match of Legend โดย Paul Pfeiffer

๏ พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย
จัดกิจกรรม School for Ghost Archivists โดย เม อาดาดล อิงคะวณิช ร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และ พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย

๏ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน
จัดแสดงงาน Table of Inquiry, Nine Chairs, และ A Portrait of Ghost โดย John Clang
A Night We Held Between โดย Noor Abed
Chotlung: traversing spirits, redemptive songs โดย Mekh Limbu
และ These Laticifers Keep Bleeding… โดย Komtouch Napattaloong with Kaisa Saarinen and Bart Seng Wen Long
และจัดงานแสดงสด Reading by an Artist โดย John Clang
และงานเสวนาศิลปิน

๏ โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพฯ
จัดโปรแกรม Curator Round Table | Ghost:2568 x CONG Magazine
In conversation: Amal Khalaf, Christina Li, Korakrit Arunanondchai, Pongsakorn Yananissorn with Daniel Ho