ถ้าเห็นแค่ฉากห้องโต๊ะกลมที่อาบไฟสีแดงกับพื้นลายตารางหมากรุก เราคงนึกว่านี่เป็นละครเวทีแบบนีโอนัวร์ ที่มีเรื่องราวว่าด้วยอาชญากรรมปริศนาและการสืบสวนแบบลี้ลับใต้แสงไฟสลัวบนถนน ซึ่งที่จริงแล้ว ละครเวทีที่เรากำลังจะชวนทุกคนไปดูเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีหน้าตาผิดไปจากความนีโอนัวร์ที่ว่าไว้นัก แต่ที่เพิ่มมาด้วยก็คือบทพูดแบบพระเอกอนิเมะ อันกลายเป็นเสน่ห์ของละครเวทีโรงเล็ก ‘LUCKY SE7EN : นัดที่ 7 เผด็จศึก’ จาก Too Long Theatre ซึ่งกำลังจะเปิดการแสดงที่ People of Ari
‘โจ’ ตัวเอกของเรื่องเป็นชายหนุ่มมือปืนสวมเสื้อหนังและมีผมสีทอง และตั้งชื่อ ‘ไอต้าวปืน’ ของเขาว่า Mercy หากแต่อาวุธจริง ๆ ของเขานั้นคือโชคชะตา และ aka หรือสมญานามประจำตัวว่า ‘มือปืนที่ดวงดีที่สุดในเมืองแบงแบงค๊อก’ (อ่านชื่อเมืองด้วยเสียงสูง ๆ) และเขาจะ ‘ปิดงาน’ ด้วยการเล่นรัสเซียนรูเลตกับเป้าหมายของเขาทุกครั้ง
เรื่องเปิดมาด้วยคำรำพึงรำพันของโจที่เป็นการเกริ่นกับผู้ชมเรื่องลิขิตฟ้า-การฝ่าฟัน ว่าการที่มนุษย์ลั่นไกปืนใส่ใคร ย่อมต้องมีเหตุผลรองรับเสมอ ซึ่งนักดูละครสายลึกอาจจะคุ้นกับความไร้สาระของชีวิตมนุษย์ตามฉบับละคร ‘แอบเสิร์ด’ (absurd) อยู่แล้ว แต่เราขอเกริ่นไว้เท่านี้ก่อน ไม่ขอ ‘กระทำการปรัชญา’ ไปมากกว่านี้ เพราะนอกเหนือไปจากนี้ คือสิ่งที่ผู้ชมต้องไปหาคำตอบและตกตะกอนด้วยตัวเอง ไม่งั้นจะเป็นการสปอยล์ไปเสียเปล่า ๆ
บอกเพิ่มได้แค่ว่า สิ่งที่ติดหูติดตาเรามาหลังละครจบ ไม่ใช่แค่ความตลกร้ายที่ซ่อนอยู่ในแอคติ้งใหญ่ ๆ ของแก๊งตัวละครคาแรกเตอร์จัดในฉากสโลว์โมชัน หรือน้ำเสียงโม้แบบเด็ก ๆ ของโจเวลาบรรยายภารกิจและความฝันของเขาให้เราฟัง ลองนึกถึงเด็ก ๆ ที่อินกับโลกอนิเมะแบบหนึ่งจัด ๆ จนคราฟต์จักรวาลหนึ่งขึ้นมาแบบออร์แกนิก นี่คือความปั่นประสาทที่ต้องดูในละครเวทีโรงเล็กให้ได้สักครั้ง เพื่อสัมผัสความเบียวแบบน่ารัก ๆ ซึ่งเป็นรสชาติที่พบไม่ได้มากนักในละครเวทีรูปแบบอื่น
LUCKY SE7EN : นัดที่ 7 เผด็จศึก
ละครเวทีโดย Too Long Theatre
7 - 29 กรกฎาคม 2566 (เฉพาะศุกร์และเสาร์) เวลา 19.30 น.
ที่ โรงละคร People of Ari (BTS อารีย์)
ภาพถ่ายโดย จิร อังศุธรรมทัต