จาก Live Park พระรามเก้า สู่ ESC Park รังสิต ครั้งนี้ก็นับเป็นปีที่ 4 แล้วที่เรามีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของ Maho Rasop Festival เทศกาลดนตรีสัญชาติไทยมาตรฐานสากล โดยสามผู้จัดที่เราติดตามมาอย่างยาวนานอย่าง HAVE YOU HEARD?, Seen Scene Space และ Fungjai
นอกจากปริมาณของผู้ชมชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ในฐานะผู้ชมที่เข้าร่วมงานนี้แบบไม่มีพลาดสักครั้งมาตั้งแต่ปี 2018 สมัยที่ยังเป็นงานเทศกาลวันเดียวจบ จนมาถึงปัจจุบันที่ขยับขยายเพิ่มมาเป็น 2 วันสุดสัปดาห์แบบเต็มอิ่มสุด ๆ เราก็ต้องขอชื่นชมเลยว่า Maho Rasop Festival ยังไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง แถมยังยกระดับมาตรฐานตัวเองขึ้นทุกปี ทั้งไลน์อัพศิลปินที่หลากหลาย บรรยากาศสบาย ๆ และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน รวมไปถึงการจัดการระบบต่าง ๆ ที่ไม่เคยทำให้เราต้องหัวเสียเลยสักครั้ง (จะมีก็แค่ราคาอาหารและเครื่องดื่มที่แรงขึ้นทุกปี 🤣)
สำหรับปีนี้ เฮดไลเนอร์ของ Maho Rasop 2023 ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2-3 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็ยังคงดุเดือดเลือดพล่านเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็น IDLES กับโชว์สุดบ้าคลั่งและพลังงานเกินร้อยที่ทำเอาเหล่าแฟน ๆ ด้านล่างต้องมอชพิตกันจนเหงื่อโชก หรือน้า ๆ Interpol กับโชว์สุดเข้มข้นในลุคใส่สูทผูกไทอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำเอาเราอดห่วงไม่ได้ว่า น้า ๆ จะต้านทานกับคลื่นความร้อนของประเทศไทยได้รึเปล่า
นอกจากนั้นก็ยังมีศิลปินโปรดในดวงใจของใครหลาย ๆ คนอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Alvvays ที่ขนเพลงดังมาให้แฟน ๆ ได้ร้องตามกันแบบเต็มอิ่ม, Breakbot & Irfane กับดีเจเซ็ตที่ชวนเรามาออกสเต็ปปิดท้ายค่ำคืนกันอย่างสมบูรณ์แบบ หรือศิลปินสายอินดี้ร็อก/โพสต์ร็อก/โพสต์พังก์อย่าง Caspian, Envy, Alex G, Yard Act และ Squid ที่เราคิดว่า Maho Rasop คัดสรรมาได้ดีงามโดนใจสายโยกตัวจริงทั้งไทยและเทศสุด ๆ เพราะเราเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปหาดูศิลปินเหล่านี้ในประเทศไทยได้ที่ไหนอีก ถ้าไม่ใช่ที่ Maho Rasop
ยิ่งเมื่อได้เสริมทัพจากศิลปินอินดี้ไวบ์ดีอย่าง Kamaal Williams, Mildlife, Homeshake, Michael Kaneko, L8ching, น้องใหม่อย่าง D.B. Inches หรือแก๊งดีเจตัวท็อปจาก Boiler Room ก็ยิ่งเติมเต็มประสบการณ์ให้การมาเทศกาลดนตรีในครั้งนี้มีรสชาติที่หลากหลายและเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น
แต่มาถึงจุดนี้ เราคงต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า ตัวจี๊ดที่ทำให้เราประทับใจสุด ๆ ประจำปีนี้เห็นจะเป็นศิลปินจากฝั่งเอเชียอย่าง Atarashii Gakko วงเกิร์ลกรุปรสชาติใหม่ในชุดนักเรียนญี่ปุ่นกับโชว์สุดมันที่ได้ใจผู้ชมไปเต็ม ๆ , Otoboke Beaver อีกหนึ่งวงสี่สาวพังก์ร็อกจากญี่ปุ่นที่ไม่ได้มีดีแค่มีมสุดไวรัลในช่วงก่อนหน้า แต่ยังไว้ใจได้เรื่องโชว์ดุเดือดสุดพลังที่หาไม่ได้จากที่ไหน และ Balming Tiger ฮิปฮอปครูว์จากเกาหลีที่แม้เราจะเพิ่งมีโอกาสได้ดูโชว์ของพวกเขาไปเมื่อต้นปีที่ฮ่องกง แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า จะดูอีกกี่ครั้ง พลังงานสุดบ้าคลั่งแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันของพวกเขาก็ยังคงท่วมท้นเหมือนเดิมจริง ๆ
ไม่ใช่แค่ศิลปินต่างชาติเท่านั้นที่ Maho Rasop คัดสรรมาได้ลงตัวสุด ๆ แต่ศิลปินตัวแทนประเทศไทยประจำปีนี้อย่าง Zweed n’ Roll, The Yers, Death of Heather, Numcha, FORD TRIO และ Soft Pine ก็ยังมีความหลากหลาย และทำได้ดีกันทุก ๆ วง แต่ที่น่าประหลาดใจสุด ๆ เห็นจะเป็น Alec Orachi ศิลปิน surprise act นอกตารางโชว์ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความปั่นตามแบบฉบับชาว ‘หมวก yellow’ ที่บันเทิงจนตกแฟน ๆ หน้าใหม่ได้อีกเพียบ
แน่นอนว่า การทำเทศกาลดนตรีระดับอินเตอร์ในบ้านเราคงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการเป็นเทศกาลดนตรีที่ตั้งใจนำเสนอการแสดงดนตรีดี ๆ จากเหล่าศิลปิน ‘นอกกระแส’ จากทั่วทุกมุมโลกอย่าง Maho Rasop Festival ซึ่งถึงแม้หลาย ๆ คนจะมองว่า ไลน์อัพของปีนี้จะยังคอนเซ็ปต์ ‘นิช’ เฉพาะกลุ่มอีกเช่นเคย แต่เราอยากปรบมือดัง ๆ ให้กับความกล้าหาญของผู้จัดทั้ง 3 เจ้าที่ยังคงซื่อสัตย์กับวิถีทางตัวเอง เพราะเสน่ห์ของการมาเทศกาลดนตรีไม่ใช่แค่การได้มารับชมโชว์จากศิลปินดัง ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการได้มาค้นพบศิลปินใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าใครฝันอยากเห็นศิลปินเบอร์ต้น ๆ ของวงการมาบุก Maho Rasop Festival แบบเทศกาลดัง ๆ ในต่างประเทศบ้าง ก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันผลักดันและสนับสนุนให้พวกเขาก้าวไปได้ไกลยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อเหลือเกินว่า ศักยภาพของเทศกาลนี้ยังคงสามารถเติบโตและไปได้ไกลกว่านี้แน่ ๆ
…ไม่แน่ว่า วันหนึ่งประเทศไทยอาจกลายเป็นจุดหมายปลายทางทางดนตรีแห่งใหม่ของโลกก็ได้