‘medmedmedss’ หรือ ‘เม็ดทราย - ศุภพิชญ์ มนัสศิริวิทยา’ คือศิลปินนักวาดภาพประกอบผู้มักเล่าเรื่องราวของธรรมชาติในสไตล์การวาดภาพที่มีโทนสีแดงปนเหลือง ดูเก่า ๆ เมื่อรวมเข้ากับลายเส้นที่ที่ดูขยุกขยุย หรือที่เพื่อนหลายคนของเธอมักจะอธิบายมันว่าเป็นลายเส้นสั้น ๆ ก็ทำให้เราได้เห็นภาพ ‘ธรรมชาติ’ ในมุมมองที่แปลกตากว่าที่เคย
เม็ดทรายบอกกับเราว่า เธอชอบใช้สีที่ดูธรรมชาติและออกแบบพื้นผิวของภาพให้ดูเก่า ๆ โดยหัวใจหลักที่ปรากฏในงานของเธอก็คือการถ่ายทอดภาพธรรมชาติอย่าง ต้นไม่ ดิน หิน หอย และอีกหลาย ๆ อย่าง ให้ออกมาตามจินตนาการที่เธออยากให้เป็น โดยเธอได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอทำงานแนวนี้ว่า
“มันเริ่มต้นมาจากการที่เราชอบเอาตัวเองไปอยู่กับธรรมชาติ ชอบไปเที่ยว เวลาเครียด ๆ หรืออยากจะคิดงาน อยากจะรู้สึกสบายใจ พื้นที่ที่สงบของเรามักจะเป็นสวน หรือที่ไหนก็ได้ที่ได้เห็นธรรมชาติ มันเลยทำให้เราชอบที่จะหยิบจับองค์ประกอบเหล่านั้นมาวาดเล่น เพราะเราชอบ เเละเรารู้สึกสนุกกับการนำมันมาจินตนาการต่อ เเละอยากจะนำเอาภาพที่เราชอบเห็น มาสร้างในเเบบของตัวเอง เลยค่อย ๆ วาดเล่นมาเรื่อย ๆ บวกกับเราเป็นคนชอบความวินเทจ และชอบหยิบเอางานกราฟฟิกเก่า ๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการวาดและการจัดวางองค์ประกอบ หลาย ๆ งานของเม็ดทรายเลยออกมาในลักษณะที่ทุกคนเห็นกัน”
เมื่อได้ยินแบบนี้คำถามต่อไปที่เราถามทันทีก็คือเรื่องเทคนิคในการทำงาน ซึ่งเธอก็อธิบายต่อว่า “จริง ๆ งานของเม็ดทรายจะใช้หลายเทคนิคมาก ๆ ทั้งการใช้สีอะคริลิก การเพ้นท์งานดิจิทัล การตัดกระดาษ การใช้สีน้ำ ไปจนถึงงานปั้นเราก็ทำเหมือนกัน คือเราเป็นคนที่ชอบในเสน่ห์ของงานทุก ๆ เทคนิคเลย มันสนุกนะเวลาเห็นงานของตัวเองในเทคนิคที่ต่างออกไป มันเลยเป็นที่มาที่ทำให้เราชอบสำรวจหรือเล่นไปเรื่อย ๆ กับหลายเทคนิค”
“เเต่ถ้าจะให้พูดถึงสองเทคนิคที่ใช้เยอะที่สุด ก็คงจะเป็นงานอะคริลิกกับดิจิทัล คือเราชอบทำงานกับสีอะคริลิกมานานเเล้ว ด้วยความที่เราชอบให้งานมันมีผิวสัมผัส อะคริลิกเลยเป็นเทคนิคที่ทำให้เราได้สนุกกับพื้นผิวต่าง ๆ ที่เกิดจากสี ที่มาจากตอนที่เราผสมมันหรือเวลาที่เส้นมันทับกัน หรือเเม้เเต่การปาดเส้นให้สีมันนูน ๆ เราก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ชอบมาก ๆ เลยเลือกเอาเทคนิคนี้มาวาดบ่อย ๆ”
“ส่วนเรื่องของการฝึกฝน เรามองว่า จริง ๆ ตอนนี้เราเองก็ยังไม่ได้เก่งเลย เเต่เเค่เจอเเนวทางที่ชอบ เเละเทคนิคที่เข้ามือ เราเป็นคนทำงานเลอะ ๆ เทอะ ๆ เเต่งานของเรามันก็เเอบที่จะกลมกลืนไปกับความยุ่งเหยิง ความเลอะเทอะในเเบบของเรา” เธอเสริม
หลังจากคุยกันได้สักพัก เราก็ทราบว่าตอนนี้เม็ดทรายกำลังเตรียมทำนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของตัวเองด้วย เลยถามถึงเบื้องหลังการทำงานและขอให้ช่วยสปอยงานที่กำลังจะเกิดขึ้นหน่อย
เม็ดทรายเล่า “งานนี้เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเรา เราเลยอยากลองทำงานที่ได้เป็นตัวเองที่สุด คือในตอนเเรกเราก็พยายามหาคอนเซปต์งานมาเรื่อย ๆ นะ เเต่สุดท้ายเราก็พบว่ามันต้องเล่าความเป็นเราให้เต็มที่ แบบไม่จำกัด จะได้สนุกกับมันจริง ๆ และสมกับเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเราด้วย”
“เรามีเวลาทำโปรเจกต์นี้ประมาณสี่ถึงห้าเดือน ก็เลยอยากปล่อยให้ตัวเองได้ลองทำทุกอย่างที่เคยคิดไว้ ทั้งในเชิงเทคนิคที่สนใจ และประเภทของชิ้นงานที่อยากลอง เราอยากให้นิทรรศการนี้เป็นเหมือนการสำรวจสิ่งที่อยู่ในหัวเรา เหมือนได้เข้ามาในสมองหรือห้องทำงานของเราเลย ทุกคนจะได้เห็นสเก็ตช์มากมายที่ทั้งยุ่งเหยิงและเต็มไปด้วยความพยายามทดลอง เพื่อให้เห็นว่าเราสนใจอะไร และอะไรที่กำลังก่อตัวอยู่ เหมือนเวลาเราทำ zine ที่เล่าเรื่องหรือจินตนาการต่าง ๆ ก่อนจะกลายเป็นภาพ ครั้งนี้แค่ขยับไอเดียนั้นมาอยู่ในรูปแบบของ exhibition เต็มตัว”
“ซึ่งในครั้งนี้ เราได้ลองทั้งการปั้น การทำเปเปอร์มาเช่ การวาดภาพลงบนผ้าใบและไม้ รวมถึงลองสำรวจและสร้างสรรค์ออกมาเป็นของตกแต่งบ้านหลากหลายรูปแบบ ทั้งโคมไฟ ผ้าตกแต่งห้อง หมอน นาฬิกา และประติมากรรม ซึ่งจริง ๆ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงของการทดลองอยู่เลย”
“เรามองว่าโดยปกติเเล้ว นิทรรศการมักจะถูกจัดออกมาให้เห็นผลงานตอนเสร็จสมบูรณ์เเล้ว เห็นชิ้นงานต่าง ๆที่ออกมาเพอร์เฟกต์ ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเเละสวยงาม เเต่พอมานั่งคิดเเล้ว มันไม่ใช่ตัวเราเลย เรายุ่งเหยิงไปกว่านั้นมาก เราฟุ้งไปกว่านั้นมาก เราชอบทำอะไรที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะออกมาสำเร็จมั้ย (รวมถึงงานครั้งนี้) เราเลยตั้งใจจะทำให้งานครั้งนี้มันเล่าเรื่องราวการสำรวจทั้งหมดของเรามากกว่าการเห็นผลลัพธ์ในงานไม่กี่ชิ้น”
“เพราะฉะนั้น โปรเจกต์นี้เลยจะเป็นการเหมือนปลดปล่อยตัวตน เเละพาทุกคนไปเห็นความยุ่งเหยิงในกระบวกการคิด เเละจินตนาการของเรา จนออกมาเป็นงานเเต่ละชิ้น ที่เชื่อมโยงกันบ้าง ไม่เชื่อมโยงกันบ้าง เเต่จะเล่าตัวตนความเป็นตัวเราเเละความสนใจของเราได้เเน่นอนสำหรับการจัดนิทรรศการครั้งเเรกนี้” เม็ดทรายสรุป
เรียกว่าสปอยมาแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก จนอยากจะลองเข้าไปชมนิทรรศการที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในหัวของคุณเม็ดทรายเสียเดี๊ยวนี้ ซึ่งถ้าใครอ่านแล้วและรู้สึกอยากไปเหมือนกัน ก็เตรียมคิวรอไว้เลย แล้วไปเจอเธอกันได้ที่ madi cafe charoen krung ในวันที่ 7 มิถุนายน 2568 นี้!

glitter sticker collection
จริง ๆ มันดูเหมือนไม่มีอะไรเลย แต่พอนั่งคิดดี ๆ แล้ว สติกเกอร์เซ็ตนี้ก็เหมือนไดอารี่ย่อม ๆ ของเรา เราเป็นคนชอบวาดภาพเล็ก ๆ ทีละชิ้น และคอลเลกชันนี้ก็กลายเป็นเรื่องราวในแต่ละช่วงเวลาของเรา เพราะเราค่อย ๆ เพิ่มลายเข้าไปเรื่อย ๆ
บางชิ้นวาดขึ้นมาตอนที่เราสนใจเรื่องเชื้อรา ก็เลยออกมาเป็นภาพที่ดูนุ่ม ๆ ฟู ๆ ได้แรงบันดาลใจจากลักษณะของเชื้อราที่ปกคลุมวัตถุต่าง ๆ หรือบางเซ็ตก็มาจากตอนที่เราได้ไปเที่ยวในที่ที่ชอบ เช่น เซ็ตที่ได้แรงบันดาลใจจากป้ายต่าง ๆ ที่โอกินาวะ หลังจากไปมาแล้วเราหลงเสน่ห์ของเมืองริมทะเลที่มีสีสันสดใส ดูป๊อป แต่ก็ยังมีกลิ่นอายวินเทจเบา ๆ
มันเลยกลายเป็นสติกเกอร์เซ็ตที่เราชอบมาก และเราก็ตั้งใจจะเพิ่มลายใหม่ ๆ เข้าไปในคอลเลกชันนี้เรื่อย ๆ

moldy book
อันนี้เป็นธีสิสที่เราทำไว้เมื่อสามปีที่แล้ว มันคืองานไม่กี่ชิ้นที่เราได้ใช้เวลากับมันมาก ๆ (คือเกือบ 1 ปี) เป็นชิ้นงานที่เราเล่าถึงการเติบโตของเชื้อรา และนำมาตีแผ่ออกมาเป็นงานศิลปะตามช่วงเวลาการเติบโตของเชื้อราห้ารูปแบบ โดยทำออกมาเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม ที่มีทั้งตัวอย่างการสร้างงาน วิธีคิดงาน รวมไปถึงตัวอย่างงานที่ได้จากการวิเคราะห์วิธีการเติบโตของเชื้อรา
มันเป็นงานที่ทำให้เราได้สำรวจ ทดลองเพาะเชื้อรา ได้ลองอ่านข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ได้ลองวิเคราะห์ และแยกองค์ประกอบการคิดงานในหัวเรา เป็นงานที่เราสนุกกับหลาย ๆ ขั้นตอน และชอบสิ่งที่ออกมามาก ๆ

imaginary object book
เป็นเหมือนงานที่เราได้ทดลองเอาเรื่องราวในหัวเราออกมาแจกแจงเป็นสมุดซีนเล็ก ๆ เพราะเราชอบสร้างวัตถุในจินตนาการขึ้นมา แต่อยากเล่าให้คนเห็นว่าแต่ละวัตถุที่เกิดขึ้น มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในหัวเรา เลยลองเล่าออกมาเป็นภาพ และเขียนจินตนาการที่เกิดขึ้นในหัวลงไป บวกกับลองทำชุดสติกเกอร์ออกมาเพื่อให้คนได้ลองประกอบวัตถุจิ๋ว ๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน เหมือนกับที่เราประกอบไว้ในหัวเรา :)

libra&pisces
ชิ้นนี้เป็น ci ที่เราทำให้ร้าน Libra&Pisces ที่ Slowcombo แต่เป็นงานที่เราชอบมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นองค์ประกอบที่เราวาด ถูกกระจายอยู่ในแบรนด์จริง ๆ ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย รวมไปถึงกระจกหน้าร้าน มันเหมือนเป็นจุดที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา ได้เห็นว่าภาพที่เราวาดสามารถกลายเป็นอะไรได้มากกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย



หรือไปติดตามผลงานของเธอล่วงหน้ากันได้ทาง Instragram: https://www.instagram.com/medmedmedss/