“สวยเนี้ยบเหมือนเรนเดอร์ (Render)” คือคำตอบที่ ‘ตั้ม - ณัฐศิษฏ์ บุญรัศมี’ ช่างภาพอิสระผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการภาพถ่ายมานานนับ 10 ปีได้บอกกับเรา หลังจากเราถามถึงเอกลักษณ์ในการถ่ายภาพของเขา โดยเฉพาะในผลงานชุดใหม่สุดจะไวรัลอย่าง ‘SURVIVE’ ที่นำเอาผลิตภัณฑ์คุ้นใจคนไทยมาจัดวางองค์ประกอบใหม่ให้กลายเป็นภาพถ่ายสุด aesthetic

ความน่าสนใจของคำตอบนี้ ก็คือความหมายเบื้องหลังของคำว่า ‘เหมือนเรนเดอร์’ ที่เฉลยการทำงานของเขาออกมากลาย ๆ ว่า แม้งานจะออกมาดูสวยเนี้ยบ แต่ภาพทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาถ่ายขึ้นเองไม่ใช่การเรนเดอร์ และเพื่อความชัดเจน ตั้มยังขยายความคำว่า ‘สวยเนี้ยบ’ ให้เราฟังเพิ่มว่า ‘เนี้ยบ’ ในที่นี้สื่อถึงความเหนือธรรมชาติ เพราะใคร ๆ ก็มองว่าทุกอย่างในภาพมันดูเพอร์เฟกต์มากเกินไป แต่ไม่ว่าจะยากแค่ไหน การทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้คือเป้าหมายในการทำงานของเขา และนั่นก็คือสิ่งที่เขารู้สึกว่ามันเหนือธรรมชาติ

“เอกลักษณ์ของผมคือการทำให้ภาพถ่ายดูสวยงามเหนือธรรมชาติ หรือที่หลาย ๆ คนบอกผมว่าสวยเนี้ยบเหมือนเรนเดอร์เลย พอพูดแบบนี้บางคนก็อาจจะงงนิด ๆ ว่า แล้วไอ้ที่ว่าเหมือนเรนเดอร์นี่มันคือยังไง ผมเลยขออธิบายธรรมชาติของการถ่ายภาพให้ฟังก่อนเพื่อเปรียบเทียบให้ฟัง”

ตั้มอธิบาย “โดยตามธรรมชาติแล้ว การที่จะถ่ายภาพภาพหนึ่ง แล้วอยากให้ภาพนั้นมีแสงเงาและมู้ดแอนด์โทนที่เพอร์เฟกต์ อย่างเช่น อยากให้มีแสงเข้าทางหน้าต่างในวันที่ฟ้ามืด หรือมีแสงเงาตกกระทบบนวัตถุที่สวยงามตามที่เราต้องการ ในทางธรรมชาติแล้วมันเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก แต่สิ่งที่ว่าเกิดขึ้นยาก ผมก็พยายามสร้างมันให้เกิดขึ้นมาอย่างสวยงาม หรือแม้แต่สถานที่ที่สวยงามอยู่แล้ว ผมก็พยายามที่จะทำให้มันสวยขึ้นไปอีกตามจินตนาการของผมเอง

ตั้มยังแชร์ถึงเคล็ดลับในการได้มาซึ่งภาพเหล่านี้ด้วยว่า “ผมมักจะทำการบ้านอย่างหนักก่อนถ่ายงานจริงเสมอ ผมชอบการเขียนลงสมุดมาก ๆ ครับ ผมจะมีสมุดพกหนึ่งเล่ม เพื่อจดรายละเอียดต่าง ๆ ที่สำคัญอย่างพิถีพิถัน ทั้งวาดฉากและแนวคิดลงในสมุด ตอนนี้หมดไปหลายเล่มแล้วครับ”

พอเห็นการทำงานที่ออกมาดีขนาดนี้ เราเลยขอย้อนถามถึงจุดเริ่มต้นแรก ๆ ที่ทำให้เขาหลงรักการถ่ายภาพ และเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมันมาจนถึงทุกวันนี้ว่าเริ่มต้นจากอะไร ซึ่งตั้มก็ได้บอกเราว่า “อารมณ์รักแรกพบเลยครับ ผมรู้ว่าตัวเองชอบสิ่งนี้มาก ๆ ตั้งแต่ได้กล้องตัวแรกมาอยู่ในมือเลย”

“เริ่มจากในคลาสเรียนวิชาถ่ายภาพช่วงมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมได้ซื้อกล้องตัวแรก และพอได้ลองจับลองเล่นก็รู้ว่านี่แหละครับคือสิ่งที่ผมชอบ อารมณ์รักแรกพบเลย ช่วงแรกค่อนข้างบ้าถ่ายรูปเลย ชอบออกไปถ่ายภาพคนเดียวบ่อย ๆ เห็นวันไหนแสงสวยก็ออก อะไรน่าสนใจก็ออกไปถ่าย หาเทคนิคต่าง ๆ ในการถ่ายมาลองตลอดครับ โดยเฉพาะการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์”

ตั้มแชร์แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจให้เราฟังว่า “ผมชอบศึกษางานของศิลปินคนอื่น ๆ อยู่ตลอดด้วย ทำให้มีศิลปินหลายคนเลยที่มีอิทธิพลต่อการทำงานของผม เพราะผมชอบศิลปินที่มีความถนัดแตกต่างกัน ถ้าในส่วนของศิลปินที่มีวิชวลน่าดึงดูดและมีความครบเครื่องเรื่องเทคนิคภาพถ่ายก็จะมี โจเอล สเติร์นเฟลด์, เกรกอรี ครูว์ดสัน, ฮิโรชิ ซูกิโมโตะ และ อันเดรียส กุร์สกี้ ถ้าทางแนวคิดผมก็จะชอบงานของ เจฟฟ์ วอลล์ และ โทมัส ดีมานด์”

“ผมยังเป็นคนชอบเก็บหนังสือภาพสวย ๆ พวกงานสถาปัตยกรรมและงานถ่ายภาพ เวลาคิดอะไรไม่ออกก็จะชอบมาเปิดดูหนังสือเก่า ๆ บ้าง เพื่อนำมาประยุกต์เป็นแนวคิดในงานใหม่ ๆ ผมยังคอยติดตามผลงานใหม่ ๆ ของศิลปินต่างประเทศผ่าน instagram และจากเว็บไซต์ ignant ด้วย เพราะมีเนื้อหาครบทุกแขนงเลยครับทั้ง Commercial และ art แถมยังมีการอัปเดตเรื่อย ๆ เลย นอกจากนี้ก็ยังมี behance อันนี้จะเน้นไปทางงาน commercial เป็นหลัก และมีเบื้องหลังการทำงานให้ดูด้วย มันน่าสนใจมาก ๆ และช่วยในการพัฒนางานของเราเองด้วย”

“อีกสิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าช่วยได้มากคือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางศิลปะกับคนหลากหลายอาชีพและต่างเจนเนอเรชัน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับศิลปะเลย ผมคิดว่าผมชอบฟังแนวคิดของคนรุ่นใหม่ เพราะมันทำให้เราได้พัฒนาและปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนเราตามไม่ทันในปัจจุบันนี้”

AT A STANDSTILL

“โปรเจกต์นี้ผมแค่อยากออกไปถ่ายภาพโดยนั่งรถเมย์จากที่พัก ออกไปนอกเมืองปารีส เรียกว่าไปถ่ายแบบไม่วางแพลนเลยว่าจะไปที่ไหน แค่เห็นว่ามีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจก็ลงป้ายนั้น แล้วเดินถ่ายจากบนถนนที่เดินผ่าน ซึ่งจุดประสงค์หลักของผมคือแสงและเงาที่ทอดลงบนสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ผมได้เห็นมัน ณ ช่วงเวลานั้น ๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในช่วงแรก ๆ ที่ผมเริ่มถ่ายภาพ ที่ถ่ายโดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แค่ถ่ายในสิ่งที่อยากถ่าย ถ่ายสิ่งที่มันสวย ๆ และสนุกไปกับมัน ผลงานชุดนี้จึงเป็นงานอีกชิ้นหนึ่งที่ชอบและรู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้ทำ”

Nature Of Human

“Nature Of Human เป็นโปรเจกต์แรกหลังผลกลับมาจากฝรั่งเศส โดยทำส่งประกวดในรายการ Thailand Photography Contest 2020 ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความงามโดยธรรมชาติของผู้หญิง ผ่านมุมมองของผม และเป็นงานที่ผมทำเพื่อท้าทายตัวเองว่า เราทำงานออกมาได้ตามที่ตัวเองคิดไว้ได้หรือไม่ และจะทำให้ผลงานชิ้นนี้น่าสนใจได้มากน้อยแค่ไหนครับ”

SURVIVE

“ผลงานชุดนี้เป็นโปรเจกต์ล่าสุดที่ผมทำ และยังรู้สึกชอบมากที่สุดเลย โดยผมได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่คนไทยหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ มานำเสนอใหม่ในฉากที่สวยงาม เพื่อแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถกลายเป็นสินค้าระดับโลกได้ แม้มันจะเป็นสินค้าโลคอลของไทยก็ตาม โดยผมตั้งใจนำเสนอออกมาในรูปแบบภาพถ่ายให้คล้ายกับภาพวาด still life”

My Family & Closefriends.

“ปกติแล้วในช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเวลาที่ผมเดินทางกลับบ้านและไปพักผ่อนที่หาดใหญ่ครับ การได้กลับบ้านจึงกลายเป็นที่มาของภาพชุดนี้ โดยผมอยากจะเก็บภาพครอบครัวและเพื่อนสนิทของผมเอาไว้ แล้วนำเสนอผ่านมุมมองของผมเอง พร้อมกับแทรกด้วยการเล่าเรื่องในชีวิตประจำวันลงไปในรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพ ของแต่ละตัวละครที่ผมนำเสนอ เช่น ภาพน้องสาวที่ยืนรอพ่อกับแม่มารับกลับบ้าน หลังปิดร้านในช่วงดึกของทุก ๆ วัน ผมประทับใจที่ได้ทำโปรเจกต์ชุดนี้มาก เพราะเราได้ทำงานกับคนที่เรารักครับ”

Theater in the tram (โรงละครในรถไฟ)

“Theater in the tram เป็นโปรเจกต์แรกที่ผมทำตอนไปเรียนที่ฝรั่งเศส โดยปกติผมมักจะเดินทางโดยการใช้รถรางเป็นหลัก และมักจะได้กลับบ้านในช่วงค่ำเสมอ มันทำให้ผมได้เห็นผู้คนที่หลากหลาย ที่มีอารมณ์แตกต่างกัน อยู่บนขบวนรถไฟเดียวกัน อาจจะเป็นคนที่เพิ่งเลิกงาน หรือเลิกเรียน อารมณ์ดีหรือกำลังอารมณ์เสีย”

“ผมมองสิ่งเหล่านี้จากชานชาลาผ่านทางหน้าต่างของรถไฟ บวกกับด้านหลังที่รถไฟจอดอยู่เป็นร้านค้าเรียงรายกันเปิดไฟอย่างสวยงาม มันทำให้ผมรู้สึกราวกับอยู่ในโรงละครและกำลังดูฉากฉากหนึ่งอยู่ เลยตัดสินใจใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนกลับบ้านในทุก ๆ วัน (รวมหนึ่งเดือน) ในการเก็บภาพชุดนี้ขึ้นมา”

“งานชุดนี้ยังได้รางวัล Silver in Book Proposal (Series Only)/People ในปี 2018 ด้วยและเป็นงานที่ผมชอบมาก ๆ ชิ้นหนึ่งเลย”

หากใครชื่นชอบในสไตล์การถ่ายภาพของ ตั้ม - ณัฐศิษฏ์ บุญรัศมี ก็สามารถติดตามชมผลงานต่าง ๆ ของเขาได้ที่ https://www.instagram.com/tmzphotos/