คุณลุงฮิรายามะตื่นขึ้นมาในบ้านตั้งแต่เช้ามืด หยิบกระบอกน้ำไปฉีดรดต้นไม้ เดินลงมากดกาแฟกระป๋องจากตู้อัตโนมัติ แล้วก็ขับรถไปทำงานทำความสะอาดห้องน้ำตามที่สาธารณะต่าง ๆ พร้อมฟังเพลงอเมริกันที่เขาสะสมเทปไว้บนรถไปด้วย ก่อนจะเจอเหตุการณ์พลิกผันชีวิต แต่ก็ไม่ได้พลิกผันขนาดนั้น
Perfect Days เป็น “หนังญี่ปุ่น” ที่กำกับโดย วิม เวนเดอร์ส ผู้กำกับชาวเยอรมันหัวใจอเมริกันผู้สร้างหนังเดินทางสุดซึ้ง Paris, Texas รวมทั้งเซ็ตหนังที่เล่าเรื่องราวบนถนนอย่าง ‘The Road Trilogy’ ผู้ทำให้การขับรถพร้อมกับฟังเพลงร็อกสมัยพ่อเป็นวัยรุ่นดูเป็นกิจกรรมที่เท่และน่าสนุกสุด ๆ และในหนังเงียบ ๆ จังหวะเอื่อย ๆ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน เขาถ่ายทอดแต่ละวันของตัวละครหลักที่ดูเหมือนจะหาความสงบในชีวิตได้แล้ว ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับนั่งดูใบไม้ไหวไปกับเขาในเรื่อง แน่นอนว่าด้วยความเป็นหนัง ชีวิตของเขาก็ต้องมีอะไรผ่านมาให้ตื่นเต้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตรักของเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง หรือหลานสาวที่หนีออกจากบ้าน แต่ถ้าตัดรถและเพลงออกไป หนังเรื่องนี้ก็ดูจะ “ไม่อเมริกัน” สุด ๆ เลย เพราะมันเล่าเรื่องธรรมดา ๆ สร้างรอยยิ้มให้เราแบบธรรมดา ๆ เรียกน้ำตาให้เราแบบธรรมดา ๆ แบบไม่มีปมขัดแย้งรุนแรงอะไรแบบที่เราจะเห็นในหนังฮอลลีวูดเลย
วันที่เราเริ่มทำงาน วันที่เราย้ายที่อยู่ วันที่ชีวิตเราเจอความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ความรู้สึกของเราท่วมท้นเหลือเกิน แต่วันที่เรานั่งลงทำงานซ้ำ ๆ กินข้าวแบบเดิมที่ร้านเดิม เราอาจเผลอคิดไปว่าชีวิตเรา “จบ” แล้ว ไม่เหลือความตื่นเต้นอะไรอีกแล้ว หนังที่เล่าเนื้อหาย่อทั้งเรื่องได้สั้นสุด ๆ เรื่องนี้แสดงให้เราเห็นว่า ชีวิตยังมีอะไรให้มองอีกเยอะ แค่สังเกตรายละเอียดดี ๆ ต้นไม้โตขึ้นทุกวัน และแสงเงาที่เกิดจากร่มไม้ก็ไม่เคยเหมือนกันสักนาที ชีวิตจะนิ่งเป็นแอ่งน้ำสงบ หรือซัดเป็นคลื่นลูกใหญ่ จะเป็นอย่างไร ก็เป็นแค่พริบตาหนึ่งที่เราเรียกว่าปัจจุบันเหมือนกัน
หนึ่งในกิจวัตรประจำวันของคุณลุง คือการหยิบแซนวิชมานั่งทานในสวน พร้อมกับมองแสงอาทิตย์ที่ลอดมาผ่านกิ่งใบของต้นไม้ใหญ่แล้วบันทึกพื้นผิวที่เกิดจากแสงนั้นเอาไว้ในภาพถ่ายจากกล้องฟิล์ม เราไม่อยากสรุปว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ต่อต้านเทคโนโลยีกล้องมือถือหรืออะไร แม้เขาจะเสพแต่สื่อจากเทคโนโลยีตกยุคอย่างเทปเพลงหรือหนังสือเล่มเล็ก ๆ ไว้อ่านก่อนนอน เพราะภายใต้กิจกรรมทั้งหมดที่ทำให้ชีวิตเขาช้าลง ดูเหมือนเขาจะพยายามคว้าปัจจุบันที่พร้อมลอยหายไปอย่างรวดเร็วจากความคิดต่างหาก
ใคร ๆ ก็คงรู้อยู่แล้วว่าอดีตนั้นจางหายไปง่ายดาย และอนาคตที่ฝันถึงก็หลุดลอยไปได้ง่ายไม่ต่างกัน แต่ปัจจุบันที่อยู่กับเราเสมอ เราทันมองมันแค่ไหน? เม็ดสีเล็ก ๆ ที่เต้นรำกันอยู่ในฟิล์มถ่ายภาพ ยอดไม้เล็ก ๆ ที่เพิ่งแทงมาจากต้นอ่อนที่เราปลูก สติของเราไปอยู่กับอดีตที่หลอกหลอนหรืออนาคตที่คาดหวังมากเกินไปหรือเปล่า หรือทั้งหมดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างไร? คำถามทั้งหมดนี้ก่อตัวขึ้นช้า ๆ ระหว่างที่เราสำรวจพื้นผิวขรุขระของกาลเวลาที่ค่อย ๆ ผ่านไปในเรื่อง และส่งผลสะเทือนใจเราที่สุดในฉากจบสุดท้ายที่น้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่ทรงพลัง จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าลุงฮิรายามะเป็นนักดูหนังที่มาดูเรื่องนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไรกันนะ
Perfect Days หยุดโลกเหงาไว้ตรงนี้ ภาพยนตร์โดย Wim Wenders ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์