รู้จักกับ ‘Suxnchilde’ ศิลปินผู้นำพาเหล่า ‘เอเลี่ยน’ หน้าใหม่มาผจญภัยในโลกมนุษย์สุดป่วน

Post on 17 November
**bad bye**

bad bye

ถ้าเราจะพูดถึงสัญลักษณ์ของการเติบโตขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง ทุกคนจะนึกถึงอะไรขึ้นมาในใจกันบ้าง? เพราะสำหรับศิลปิน นักวาด และ 2D แอนิเมเตอร์หน้าใหม่ไฟแรงอย่าง ‘Suxnchilde’ หรือ ‘มุก - ภัทรานิษฐ์ ตันติวรัตนถิกุล’ สิ่งที่ทำให้เธอนึกถึงการเติบโตของคนเรามากที่สุด ก็คือการสวม ‘กางเกงใน’ เพราะเธอมองว่า ‘กางเกงใน’ นั้นเปรียบดังสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านวัยของมนุษย์ เหมือนกับที่เด็ก ๆ จะต้องเปลี่ยนจากสวมผ้าอ้อมมาเป็นกางเกงในเมื่อเติบโตขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้างให้มากกว่าเดิม

และเมื่อเธอตั้งโจทย์กับตัวเองขึ้นมาว่า จะเป็นอย่างไรถ้าเหล่าเอเลี่ยนหน้าใหม่ที่เธอสร้างขึ้น ต้องมาเรียนรู้และใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เป็นครั้งแรก เธอจึงผนวกสัญลักษณ์ ‘กางเกงในสีเขียว’เข้ากับคาแรกเตอร์เอเลี่ยนของเธอ เพื่อบ่งบอกว่าตัวละครเหล่านี้กำลังจะเติบโตอยู่บนโลกใบนี้ และสร้างเรื่องราวของตัวเองขึ้นมาได้เหมือนกัน

**chorus go round**

chorus go round

**Xmas revenger**

Xmas revenger

“ภาพรวมของผลงานเราจะเป็นการสร้างคาแรกเตอร์ที่เป็นเอเลี่ยนขึ้นมา โดยทุกคนจะต้องมาอาศัยอยู่บนโลกที่ทุกอย่างแปลกใหม่ทั้งหมด และไม่รู้จักอะไรในโลกนี้เลย จึงต้องเริ่มเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ใหม่ตามที่ใจคิด ซึ่งบางครั้งพฤติกรรมที่แสดงออกมาจะดูแปลก ไม่ตรงกับคอมมอนเซนส์ทั่วไปของคนบนโลก แต่เอาจริง ๆ นะ เราว่าแท้จริงแล้วก็ไม่อาจรู้ได้หรอกว่าอะไรกันแน่ที่แปลก” Suxnchilde เริ่มเล่าถึงที่มาของผลงานต่าง ๆ

“สำหรับเรื่องของเอกลักษณ์ในงาน จริง ๆ แล้วเราก็ยังไม่แน่ใจนักว่าที่ทำอยู่ตอนนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ได้หรือยัง เราคิดว่ายังคงต้องเกลาต่อไปอีก แต่สิ่งที่คิดทุกครั้งแล้วสนุกทุกครั้งเวลาทำงาน ก็คือการใส่สัญญะ หรืออีสเตอร์เอ้กลงไปในงานของเรา โดยเฉพาะกางเกงในสีเขียวคู่ใจของคาแรกเตอร์ที่สื่อถึงสัญลักษณ์ของการเรียนรู้และเติบโต เหมือนกับเด็ก ๆ ที่เปลี่ยนจากการใส่ผ้าอ้อมมาเป็นกางเกงใน ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็นกางเกงในสีเขียว ก็เพราะว่าสีเขียวนั้นแทนถึงความแปลกประหลาดของเอเลี่ยนที่เป็นภาพจำของทุกคน”

เธอยังพูดถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอสนใจสร้างงานศิลปะอย่างจริงจังว่า “ความจริงแล้วเราชอบวาดรูปมาตลอดเลยนะ แต่เริ่มมารู้สึกว่าอยากมีงานวาดเป็นชิ้นเป็นอันและมีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองเป็นครั้งแรก ก็ตอนเรียนจบใหม่ ๆ เลย เพราะตอนนั้นเราได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำธีสิสเกี่ยวกับการทำความรู้จักกับความรู้สึก แล้วอินกับมันมาก ๆ เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เราค้นพบสไตล์และคอนเซ็ปต์ในการทำงานของตัวเอง”

“การฝึกฝีมือช่วงแรก ๆ ของเราจะเริ่มจากการใช้สีน้ำค่ะ เพราะเราชื่นชอบผลงานของศิลปินและนักวาดหลายคนที่ทำงานสไตล์นี้ แบบว่ามันสวยมาก ๆ เราเลยอยากลองทำบ้าง บวกกับการใช้สีน้ำจะช่วยให้ไม่ค่อยเมื่อยมือสักเท่าไร เมื่อเทียบกับพวกสีไม้หรือสีชอล์ก เราเลยเลือกฝึกฝนจากเทคนิคนี้แหละ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเราก็เริ่มหันมาใช้ไอแพดแทน ก่อนจะผันตัวสู่นักวาดสายดิจิทัลอาร์ตแบบเต็มตัว นับแต่นั้นก็เลยไม่ค่อยได้ทำงานแบบเดิมเท่าไร ว่าไปแล้วก็เริ่มคิดถึงขึ้นมาเหมือนกันนะ”

**hello my another bitch**

hello my another bitch

**the scream**

the scream

Suxnchilde ยังแชร์วิธีคิดและขั้นตอนในการออกแบบคาแรกเตอร์ของตัวเองขึ้นมาอีกว่า “เทคนิคการออกแบบคาแรกเตอร์สำหรับเรา ก็คือต้องคิดให้แปลกเข้าไว้ค่ะ”

“ด้วยความที่เราตั้งโจทย์ว่าคาแรกเตอร์ของเราคือเอเลี่ยนที่มาใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เป็นครั้งแรก เราเลยจับคู่ความแปลกเข้ากับการเรียนรู้ และทำให้พฤติกรรมของคาแรกเตอร์แต่ละตัวดูไม่เข้ากับสถานที่หรือสถานการณ์ที่อยู่แบบสุด ๆ เช่น การวาดให้ตัวละครใส่ชุดขนเฟอร์ลงไปเล่นน้ำทะเล และการเอาขวดแก้วมาตีแทนไม้กลอง เป็นต้น และเรายังชอบเล่นกับช่วงเวลาเมาหรือละเมอด้วย เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนเรามักทำสิ่งที่จิตใต้สำนึกบอกมากที่สุด เหมือนเป็นการเรียนรู้และรู้จักตัวเองแบบจริงแท้สุด ๆ สถานการณ์กล่าวก็เป็นเรื่องราวส่วนใหญ่ของงานเราตอนนี้ค่ะ”

**cannot wake up song**

cannot wake up song

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งในงานของ Suxnchilde คือการนำผลงานของตัวเองมาขยายเรื่องราวในรูปแบบแอนิเมชันด้วย ซึ่งมักจะมาในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวสั้น ๆ ที่ขยับบางส่วนได้นิดหน่อย แต่ผลงานเหล่านี้ก็เป็นเพียงรูปแบบเริ่มต้นที่เธอตั้งใจทำขึ้นมาเท่านั้น เพราะความฝันของเธอคือการลองเปลี่ยนสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ให้กลายเป็นแอนิเมชันของจริงในสักวันหนึ่งเหมือนกัน

“ผลงานแอนิเมชันส่วนใหญ่ของเรา จะเป็นการต่อยอดหลังจากลองวาดภาพสเก็ตช์เสร็จแล้ว แบบว่ายิ่งมองเราก็อยากให้น้องดูมีชีวิตจริง ๆ ขึ้นมา เลยอยากทำให้ขยับได้ ก็เลยตัดสินใจนำภาพและไอเดียมาทำแอนิเมชันสั้น ๆ ง่าย ๆ เช่น ฉากที่ตัวละครกำลังกินไอศกรีม หรือภาพที่น้อง ๆ กำลังเล่นม้าหมุนด้วยกัน”

Suxnchilde กล่าวทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่นว่า “บางทีอีกเหตุผลหนึ่งที่เราอยากให้น้อง ๆ ขยับตัวได้ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าจริง ๆ แล้วเราชอบแอนิเมชันมาโดยตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงวัยทำงานเลย ทุกวันนี้ก็ยังติดการ์ตูน ตามภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องต่าง ๆ อยู่ตลอด พอรู้ตัวแบบนี้แล้วแน่นอนว่าตัวเราเองก็อยากลองสร้างพวกเขาให้กลายเป็นหนังและแอนิเมชันสั้น ๆ ของเราเองขึ้นมาเหมือนกัน เราคิดว่าถ้าได้ลองเขียนสตอรี่บอร์ดก็คงจะสนุกดี ว่าแล้วก็อยากทำให้สำเร็จสักครั้งจริง ๆ ค่ะ ! ฮึบ!”

**picnic with me and let’s see the world**

picnic with me and let’s see the world

งานนี้เป็นงานแรกที่ทำให้เราอยากจริงจังกับการวาดรูปเลย เรื่องราวในภาพก็เลยจะเล่าอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด ตามคอนเซปต์ของความแปลกและเริ่มเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ใหม่ ที่เป็นหัวใจหลักที่เราอยากจะสื่อ

**how are you when you are drunk?**

how are you when you are drunk?

เราคิดว่าอาการเมาและละเมอเป็นช่วงเวลาที่คนเราจะได้ทำตามจิตใต้สำนึกมากที่สุด ได้ทำความรู้จักกับสิ่งต่าง ๆ แบบลึกซึ้งถึงแก่นแท้จริง ๆ มากที่สุด เราเลยอยากเปิดประเด็นให้ทุกคนได้มารู้จักกับตัวตนจริง ๆ ของทุกคนกัน ส่วนที่เลือกกลอง เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่เราชอบค่ะ การแสดงอารมณ์ผ่านการตีกลองก็คงสะใจดีค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

**gibson party**

gibson party

จริง ๆ รูปนี้เป็นซีรีส์ต่อจากรูปกลองค่ะ พอวาดเครื่องดนตรีแล้วรู้สึกสนุกก็เลยวาดรูปนี้ต่อเลย จำได้ว่ารูปนี้เราวาดช่วงวันเกิดปีที่ 24 ของเรา เลยใส่องค์ประกอบต่าง ๆ เข้าไปสนุกมากเลย ทุกองค์ประกอบในภาพได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่ชอบในเวลานั้น เช่น เพลงที่ชอบ, ร้านคาราโอเกะที่ไปร้องบ่อย ๆ, เค้กวันเกิดและกุญแจไขลานที่หลัง เพื่อสื่อถึงการเริ่มต้นใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างเต็มตัวแล้ว

**mom is calling me home**

mom is calling me home

ชิ้นนี้เราขอเรียกว่าเป็นงานที่วาดให้กับอีเวนต์ที่แรกแล้วกันค่ะ คอนเซปต์ของชิ้นนี้จะมาในแนว City Pop ที่เราไม่เคยทำมาก่อน ตอนค้นคว้าข้อมูลเพื่อตามหาองค์ประกอบมาสนับสนุนเรื่องราวของภาพนี้ เรารู้สึกสนุกมาก ๆ ซึ่งเรื่องราวในภาพเราก็เล่าอย่างตรงตัวเลย แบบว่าเป็นสถานการณ์ที่คุณแม่โทรมาเรียกกลับบ้านค่ะ ตอนที่สร้างงานนี้เป็นช่วงที่เราเริ่มทำงาน ออกมาใช้ชีวิตเอง เลยคิดถึงช่วงเวลาที่โทรคุยกับคุณแม่ค่ะ ถ้าแม่เรียกกลับบ้านแบบด่วนจี๋เราคงติดไฟปี๊ป่ออย่างนี้แน่เลย ฮ่าฮ่าฮ่า

**dog vs cat (Dog Team)**

dog vs cat (Dog Team)

**dog vs cat (Cat Team)**

dog vs cat (Cat Team)

ภาพนี้จะมีเป็นเซตเลยค่ะ แถมยังเป็นงานที่ใช้เวลาทำมากที่สุดด้วย ไอเดียของงานชุดนี้มาจากเกมที่เคยเล่นเมื่อสมัยเด็ก ๆ อย่างเกม ‘dog vs cat’ แล้วเราก็เอามาคิดต่อว่า ถ้าน้องหมาและน้องแมวต่อสู้กันจริง ๆ จะเป็นยังไง บวกกับลองเปลี่ยนสไตล์ให้เป็นแนว Cyberpunk นิด ๆ ดูค่ะ พอวาดเสร็จก็อยากต่อยอดอีก เลยลองเอามาทำเป็นภาพจำลองเล่น ๆ ให้เหมือนเกมต่อสู้อย่างพวก Street fighter ที่เราสามารถเลือกคาแรกเตอร์และทีมได้ แบบ "Which side will you dare to embrace?!" กันไปเลย!

สามารถตามไปเฝ้ามองการเติบโตบนโลกมนุษย์แบบป่วน ๆ ของเหล่าเอเลี่ยนกางเกงในเขียวของ Suxnchilde กันได้ที่
instagram: suxnchilde